23 ตุลาคม 2024

‘เศรษฐา’ ยัน ‘ยึดมั่นตามกฎหมาย’ ด้าน ‘วิษณุ’ ติงบิ๊กโจ๊ก ไม่ควรฟ้องนายกฯ

0

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ประกาศฟ้องกรณีที่ยังไม่แก้ไขคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งๆที่กฤษฎีกาชี้แล้วว่าเป็นคำสั่งที่ไไม่เป็นธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมายปัจจุบัน โดยจะฟ้องทั้งในส่วนของนายกรัฐมนตรีและบิ๊กตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเศรษฐาหันมายิ้มให้กับผู้สื่อข่าว ก่อนกล่าวว่า “ยึดมั่นตามกฎหมายครับ”

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีสิทธิฟ้อง เพราะเป็นการฟ้องส่วนตัว แต่เห็นว่าไม่ควรฟ้องและไม่น่าฟ้อง เพราะยังมีช่องทางที่จะได้รับการเยียวยาหลายช่องทาง ควรไปใช้ช่องทางปกติ โดยใช้ช่องทางของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าใครไม่ได้รับความเป็นธรรมและความเดือดร้อนจากผู้บังคับ และร้องเรียนผู้บังคับบัญชาแล้วไม่ได้ผลก็มายื่นร้อง ก.พ.ค. เมื่อมีคำตัดสินออกมาอย่างไรให้ปฏิบัติตามนั้น และเวลานี้เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ ก.พ.ค.

“ความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้งอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) คณะกรรมการกฤษฎีกา จะเป็นหลักฐานที่ส่งไปที่ ก.พ.ค.เพื่อวินิจฉัย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ทุกคนที่เกี่ยวข้องควรรอ ก.พ.ค.เว้นแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไปแก้ไข หรือเยียวยาเอง หากทำอย่างนั้นก็ต้องทิ้งเรื่องไว้ที่ ก.พ.ค.”

กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์อ้างมติ ครม.ปี 2482 ว่าหน่วยงานใดที่ขอคำปรึกษาจากคณะกรรมการกฤษฎี ต้องยึดปฏิบัติตามความเห็นกฤษฎีกาด้วย นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้มีอยู่จริง และเป็นผลสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม และปฏิบัติกันมาจนถึงทุกวันนี้ และขอย้ำว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ชี้ถูกหรือผิด และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นประธาน ก็ไม่ได้ชี้ถูกชี้ผิด รวมถึงการแถลงข่าวของตนในเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้ชี้ถูกหรือผิด เพียงแต่บอกความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดที่ 2 ว่ามีความเห็นอย่างไร

นายวิษณุ ยังกล่าวด้วยว่า ตามหลักกฎหมายที่สื่อมวลชนมาถามว่ามีโอกาสชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ ก็ต้องบอกว่ามี เพราะใครก็ตามที่มียศ พล.ต.อ. และเป็นรอง ผบ.ตร. รวมทั้งจเรตำรวจ ก็มีโอกาสทั้งนั้น สุดท้ายจะได้เป็นหรือไม่ขึ้นอยู่กับมติ ก.ตร.และหลายองค์ประกอบ แล้วขึ้นอยู่กับว่านายกรัฐมนตรีจะเสนอชื่อใคร

“ขอย้ำประโยคนี้ว่าเขาออกแบบไว้ให้ ก.พ.ค.ตร.เป็นผู้ตัดสินปัญหา ก็ต้องใช้ช่องทางนี้ หากผลตัดสินของ ก.พ.ค.ตร.ไม่เป็นที่พอใจ ก็ไปร้องศาลปกครองได้อีก”

ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สามารถกลับเข้ามาเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าดูจากวันนี้ เดี๋ยวนี้ ตอบได้ว่ามี แต่ถ้าต่อไปอาจมีการแก้เกมอย่างอื่นจนไม่ได้เป็นก็ได้ เพราะยังมีช่องกฎหมายอีกเยอะ ตามช่องที่คณะกรรมการกฤษฎีกาบอกว่ากระบวนการไม่ชอบ และเป็นเอกฉันท์

สำหรับกระบวนการทั้งหมดจะไม่สามารถดำเนินการได้ หากยังไม่มีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯใช่หรือไม่ และมีโอกาสที่จะไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เขาจะไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯแน่ เว้นแต่ ก.พ.ค.ตร.จะสั่งลงมา แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่บอกว่าหนังสือที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯมีข้อสังเกตว่าควรจะถูกต้องตามกระบวนการ เพราะมีตัวอย่างมาแล้วนับ 10 เรื่องที่กระบวนการไม่ถูก แล้วถูกส่งกลับมา ดังนั้น ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ

“อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ก.พ.ค.ตร.และรัฐบาลเองก็ฟัง ก.พ.ค.ตร.จะเอาอย่างไรก็เอาตามนั้น”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *