24 ตุลาคม 2024

ไม่เกี่ยว! ‘ธรรมนัส’ ชี้ ปมเฉือนป่าทับลาน อย่าโยงพาดพิง ส.ป.ก. เพราะเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ

0

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนใน อ.ทับลาน จ.นครราชสีมา ว่า เรื่องทับลานที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นั้น ขออนุญาตตอบคำถามแบบที่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในทุกๆ เรื่อง จะทำงานภายใต้นโยบายคณะกรรมการแห่งชาติทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ดิน ที่ทำงานภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งจะมีคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ส่วนเรื่องข้าวจะมีคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กนข.)ดูแล ฉะนั้น จะทำอะไรกระทรวงเกษตรจะเป็นผู้รับนโยบายแห่งชาติมาปฏิบัติ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กรณีของป่าทับลานเป็นเรื่องสืบเนื่องจากรัฐบาลเดิมในหลายยุค แต่มาสรุปในรัฐบาลชุดที่แล้ว ประะมาณต้นปี 2566 ซึ่งนำความเห็นของ คทช.เสนอต่อ ครม.ในยุครัฐบาลที่แล้ว ในเรื่องของการปรับแนวเขต ปี 2543 ตรงนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ ทั้งนี้ เมื่อ คทช.เห็นชอบอย่างไร นำเสนอ ครม.ชุดที่แล้ว เมื่อ ครม.เห็นชอบก็เป็นเรื่องกระบวนการที่ต้องไปดำเนินการตามโดยกรมอุทยานฯ

“ในช่วงนี้เห็นว่าเป็นประเด็นที่มีการรับฟังเสียงประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ถือเป็นเรื่องของกรมอุทยานฯที่ต้องดำเนินการ ภายใต้การดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ฉะนั้น ต้องกราบเรียนนำเสนอให้เข้าใจ ไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เดี๋ยวจะไปผสมผสานเข้าใจกันผิด”

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวด้วยว่า ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับนโยบายจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่เห็นชอบ นำเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อเห็นชอบให้ ส.ป.ก.ไปจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรได้ทำกิน ส.ป.ก.ก็จะนำไปปฏิบัติ แต่ตรงนั้นไม่ใช่ขั้นตอนตามกระบวนการของ ส.ป.ก.

“ขอให้เข้าใจตรงนี้ เพราะมีสื่อบางสำนักไปโจมตีพาดพิง ส.ป.ก. เขาจะเสียหาย” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ

ส่วนพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซับซ้อนและพรรคพลังประชารัฐเคยใช้เป็นพื้นที่ในการจัดสัมมนา และมีการพาดพิงว่าเกิดมติ ครม.ตามมาในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในฐานะที่ออกมาแล้ว เลยไม่ทราบ

กรณีที่ดินทับซ้อนประมาณ 1.5 แสนไร่ มีทั้งกลุ่มนายทุนและชาวบ้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องแยกก่อนว่าที่ดินเหล่านี้เชื่อว่ากระทรวงทรัพย์ฯโดยกรมอุทยานฯ ซึ่งมีคณะกรรมการของเขา กว่าจะถึงขั้นตอนตรงนั้นไม่ใช่ รวมทั้งหมด 1-2 แสนไร่ ต้องจำแนกให้ชัดเจนว่าตรงไหนเป็นพื้นที่ของประชาชนที่ร้องเรียนมา สู่การประชุมของ คทช.

ส่วนเห็นด้วยหรือไม่กับการให้จำแนกอีกครั้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ถูกต้อง มันต้องให้ชัดเจนในแนวเขต หลายคนที่นำเสนอล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ต้องเข้าใจว่าตรงนี้เป็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งมีขั้นตอนและมาตรการอยู่ ต้องใจเย็นๆ ณ เวลานี้อยู่ในขั้นตอนที่กรมอุทยานฯ กำลังทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น

“ต้องยอมรับว่าเราบริหารราชการแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพิ่งระบุชัดเจนว่าหน่วยงานที่จะไปปฏิบัติ หรือกรมอุทยานฯจะไปปฏิบัติอะไร ที่ผ่านมาก็ต้องนำมติ คทช.แล้วมาผ่าน ครม.แล้วมาปฏิบัติ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องรอฟัง ยืนยันว่าหน่วยงานภายใต้การดูแลกระทรวงเกษตรฯเป็นหน่วยงานปฏิบัติตามมติ ครม. ซึ่งเห็นชอบตามที่ คทช.เสนอ ถ้าเราไม่ปฏิบัติก็จะโดนมาตรา 157 เหมือนกัน ฉะนั้น ยังไม่ถึงกระบวนการของ ส.ป.ก.”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า จะต้องฟังผลจากการรับฟังเสียงจากประชาชนก่อน ตอนนี้ ส.ป.ก.ยังไม่ต้องทำอะไร เป็นเรื่องของกระทรวงทรัพย์ฯที่ดำเนินการอยู่ เพิ่งฟังบทสัมภาษณ์ของอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็บอกมาถูกต้องแล้ว หากกระทรวงทรัพย์ฯเห็นชอบมาอย่างไร หน่วยงานไหนได้ถูกมอบหมายให้ไปดำเนินการก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน อันไหนที่กลุ่มนายทุนบุกรุกอย่างที่ตนทำ ซึ่งกำลังจะออกหมายจับกลุ่มทุนอีกหลายกลุ่ม โดยการดำเนินการของ ส.ป.ก. ต้องแยกแยะระหว่างผู้ทำผิดกฎหมาย กับปัญหาประชาชน ไม่เช่นนั้นภาครัฐคงไม่กล้าทำงาน เพราะทำอะไรก็โดนหมด ทั้งนี้ จะต้องจำแนกให้ชัดเจน กลุ่มไหนคือเกษตรกร กลุ่มไหนคือกลุ่มทุน

จะกลายเป็นว่ากระทรวงเกษตรฯและกระทรวงทรัพย์ฯงัดข้อกันเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่หรอก เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันตลอด แล้วเมื่อวานก็ได้มีการหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทส. และปลัด ทส. ไม่มีประเด็นอะไร และตอนนี้ก็มีคณะกรรมการทำงานร่วมกันอยู่ รวมทั้งยังไม่ถึงกระบวนการของ ส.ป.ก.ที่จะต้องทำอะไร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *