24 ตุลาคม 2024

จบแล้ว!คดีระบายข้าวเอื้อประโยชน์สยามอินดิก้า ศาลฎีกาคดีการเมืองยกฟ้อง ‘กิตติรัตน์’

0

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา ในคดี อม.17/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง จำเลย ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด สมัย รมว.พาณิชย์ ไม่สั่งตรวจสอบการระบายข้าวเอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดียว

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีอำนาจกำกับดูแลองค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การคลังสินค้าได้จัดให้มีการเสนอราคาขายข้าวขาว 15% เพื่อส่งมอบให้แก่องค์การสำรองอาหารแห่งประเทศอินโดนีเซีย (Perum BULOG) โดยเอื้อประโยชน์ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ให้ได้รับคัดเลือกเป็นผู้เสนอราคาและเข้าทำสัญญาซื้อขายข้าวดังกล่าว ต่อมาบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยส่งมอบข้าวไม่ครบถ้วน ทำให้องค์การคลังสินค้าและประเทศชาติเสียหาย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยมีหนังสือถึงจำเลยขอทราบข้อเท็จจริง และขอให้พิจารณาให้มีการประมูลข้าวตามระเบียบอย่างเคร่งครัด แต่จำเลยปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ โดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบกระบวนการเสนอราคาขายข้าวดังกล่าว และไม่ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงหรือรายงานแสดงความคิดเห็น ทบทวนกระบวนการเสนอราคา ทั้งจำเลยยืนยันว่า องค์การสำรองอาหารแห่งประเทศอินโดนีเซีย ส่งรายชื่อบริษัทที่ประเทศอินโดนีเซียเชื่อถือซึ่งมีชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มาให้องค์การคลังสินค้าพิจารณา ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประมวลกฎหมายอาญา 157

ทั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษา เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวน ฟังได้ว่าเรื่องเกี่ยวกับซื้อขายข้าว เรื่องการส่งมอบข้าวตามสัญญาซื้อขายระหว่างองค์การคลังสินค้ากับ BULOG ของรัฐบาลอินโดนีเซีย เรื่องการซื้อขายข้าวระหว่างองค์การคลังสินค้ากับบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด นาย ภ. ได้ทราบเรื่องและนายกิตติรัตน์ ได้ดำเนินการตรวจสอบควบคุมดูแลโดยผ่านนาย ภ. ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลองค์การคลังสินค้าโดยชอบแล้ว

นายกิตติรัตน์ จึงไม่มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า วันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ก็ต้องขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้ก็จะทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ ซึ่งก่อนมาฟังคำพิพากษาก็มุ่งมั่นทำงานมาตลอดพรุ่งนี้ก็จะไปที่ระยอง อย่างคดีนี้ก็ไม่ได้ปรากฏเป็นข่าวดังว่าตนมีคดีความ ตนก็ไม่ได้คิดว่าหลังคำพิพากษาในวันนี้จะต้องไปรับตำแหน่งอะไรต่อ หน้าที่ตนคือต้องทำงานให้กับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของคณะกรรมการ ปปช.มีเอกสารที่ชัดเจนว่าในการซื้อขายข้าวจาก BULOG มีการผ่านรายงานการประชุมของคณะทำงาน อคส.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กลั่นกรองมีทั้งผู้เเทนจากกระทรวงพานิชย์ กระทรวงเกษตรฯ และมีผู้เชี่ยวชาญหลายคน ก็ได้มีการพิจารณาสัญญาการซื้อขายข้าวส่งมอบให้กับ BULOG เป็นไปตามขั้นตอนระเบียบของ อคส.ทุกอย่างและข้อมูลที่นายกิตติรัตน์ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว เป็นข้อมูลที่มีอยู่จริงปรากฏอยู่ในรายงานของคณะกรรมการ อคส.ทุกอย่าง ก็ยืนยันได้ว่านายกิตติรัตน์ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และสร้างความเสียหายเกิดขึ้น จึงยกฟ้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *