ภาพเก่า-น้ำเน่าเดิมๆ
“เสรีภาพ” ไม่ใช่ “สิทธิ์-คิดอะไรก็ได้” ถ้าท่านมีเสรีภาพกันเต็มพิกัด แต่“ล่วงละเมิด” ก่อให้เกิดความเสียหายให้กับอื่น มันย่อมไม่งาม
ที่“ศาลแพ่ง-รัชดาภิเษก” ได้พิเคราะห์พยาน-หลักฐาน ของ“ตำรวจ-นครบาลนางเลิ้ง” โดยมีคำสั่งว่า..“การที่ผู้ชุมนุม กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย” หรือ “คปท.” ร่วมกับ “กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน” หรือ “ศปปส.” นัดชุมนุมคืนค้าง ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร..
“ศาลมีคำสั่ง ให้ผู้ชุมนุมรื้อถอนเต้นท์ปิดทับช่องจราจร และป้ายรถเมล์ประจำทาง ให้เปิดช่องทางถนนพิษณุโลก ๑ ช่อง กับให้ผู้ชุมนุม“หยุดกิจกรรมชุมนุม ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗”
“คืนสิทธิประโยชน์”ของประชาชนที่ร่วมใช้ถนนเส้นนี้ ให้กลับ“คล่องตัว”ดังดุจเดิม
การปักหลักค้างแรม“เกินกว่าเหตุ” สมควรแล้วที่จะยุติ เพราะเป็นการการชุมนุมที่ยืดเยื้อ-เรื้อรัง ไม่จบสิ้นสักที
ถ้าคิดประท้วง“มาราธอน” เป็นระยะ“เนิ่นนาน-เกินกาลเวลา”อีหรอบนี้ ก็ใช้เส้นทางสัญจรที่ไม่“แออัด-ยัดทะยาน”ไปสิ
รู้หรือไม่ว่า?..การแก้ปัญหา แต่ไป“เบียดบัง” ยักเอาผลประโยชน์คนอื่นในการใช้เส้นทางร่วมนั้น..“ไม่ใช่ความถูกต้อง” คิดและ“กลั่นกรอง-ผ่านก้านสมองกันหน่อย”เถิดนะพ่อคุณ
ที่ทำการ“ยึดครอง-จองถนน”คิดว่า“จะสำเร็จ” เหมือนกับที่“หนุมาน”จองถนน“เข้าสู่ลงกา”กันหรืออย่างไร
ถามหน่อยเหอะ ที่ชุมนุมกันมา ได้“ใจประชาชน”กันหรือไม่ ไม่ยักจะมี“เสียงหนุน”ขานรับแต่ประการใด
ผลก็เห็นชัดเจนแล้วว่า“ประชาชนไม่คล้อยตาม” ควรหรือ“ทำการชุมนุม”ที่ไม่ได้หัวจิต-หัวใจประชาชนเยี่ยงนี้
และนี่มีข่าวว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการ“นัดชุมนุม”ของ“แกนนำอีกชุด” พาเหรดกันออกมา อยากให้รู้“ผลลัพธ์-จับกระแส” การรวมพล-คนประท้วง ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ เป็นสิ่งสอนใจกันบ้างก้อดีนะ..
ประชาชน“พากันเบื่อ” เอือมระอา หน่ายหัวใจ มิใช่หรือ?
ต่อการชุมนุม“ที่ไม่สิ้นสุด” ไม่รู้จัก“พักรบ” ในการ“ก่อหวอด”ทางการเมืองกันทั้งปี-ทั้งชาติ กันแบบนี้
คิดหรือว่า“ไล่รัฐบาลนิดไป”..ครั้นเมื่อได้“คนใหม่เข้ามา” จะไม่“ยกทัพ-ผู้ชุมนุม”มาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล กันอีก
หากคิดว่า“พรรคเพื่อไทย”ที่เป็น“แกนนำ-จัดตั้งรัฐบาล” โหลยโท่ย แย่ ไม่มีประสิทธิภาพ เลว เป็นอย่างยิ่ง เมื่อครบสมัย มีการเลือกตั้งใหม่ เลือกพรรคที่ตัวเองเชียร์ให้เข้ามา“เขี่ยรัฐบาลนิด”ให้พ้นอำนาจไปสิคุณเจ้าเอ๋ย
“เป็นทั้งความถูกต้อง” ไม่ได้สร้าง“ความเดือดร้อน”ให้แก่ประชาชนด้วยอีกต่างหาก
“ประชาชน”พากัน“สะอิด-สะเอียน” คลื่นเหียนกับพฤติการณ์“ประท้วง”กันเต็มแก่แล้ว มาชุมนุมเพื่อปิดล้อม“ทำเนียบรัฐบาล” ซึ่งปิดกั้นถนนรอบนอก ที่เชื่อมต่อเส้นทางเศรษฐกิจอันสำคัญของชาวบ้านทั่วไป รังแต่เกิด“ความเดือดร้อน-ขึ้นแก่ราษฎร”หมู่มาก ใครจะเห็นด้วยเล่า…
“การประท้วง” เพื่อเปิดประตูให้“ทหารเข้ามานั้น” มันเป็น“ภาพเก่าๆ –น้ำเน่า” ที่คนหากินอย่างสุจริต ไม่ประสงค์เอาด้วย
เพราะ“เสียเวลาและโอกาส” ที่ชีวิตเขาจะเดินไปข้างหน้าอย่างงดงาม
แต่ต้อง“ถอยกรูด-รูดทะลาด”..เป็นการเปิดช่องทาง“การปฏิวัติ” ด้วยการ“ชุมนุมข้างถนน”
“ประเทศไทย” ที่มี“การรัฐประหาร”สำเร็จกันมา ๑๓ นั้น..“ชาติบ้านเมืองเจริญขึ้น” แน่ใจกันนะว่าจริง!!
มีแต่“คนปฏิวัติ” และ “พวกลิ่วล้อ” พากันรวยเป็นหมื่นล้าน พันล้าน จนมีการ“ตามยึดทรัพย์”กลับมาบานเบอะ
การชุมนุม ต้องมี“ลิมิต”ขอบเขต อยู่ในวงจำกัด..อย่าได้“แตกแขนง” ให้เกิดแรง“ล้มรัฐบาล”เป็นอันขาด
คนเขา“อยากทำมา-หากิน”..ไม่เอาแล้ว “การเปิดประตู”ให้“ระบอบนอกวงจร”เข้ามาเป็นใหญ่
ประท้วงชุมนุมใหญ่..“เจริญขึ้นตรงไหน” ที่ผ่านมาพังวอดวายนั่นแหละของจริง ที่ประชาชนพบเห็น
“กะพรุนไฟ”