24 ตุลาคม 2024

CMG ผนึก DPU จัดเสวนา‘โอกาสประชาคมโลกจากการปฏิรูปเชิงลึกของจีนยุคใหม่’

0

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา สถานีวิทยุโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน (China Media Group หรือ CMG) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัดเสวนาเรื่อง “โอกาสประชาคมโลกจากการปฏิรูปเชิงลึกของจีนยุคใหม่” โดยมีนายเซิ่น ไห่สง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสื่อสารมวลชนและผู้อำนวยการ China Media Group (CMG) และ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) นายหลี่ เฟิง รองผู้อำนวยการ และ บรรณาธิการใหญ่ CMG ASIA-PACIFIC ร่วมต้อนรับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผู้เป็นองค์ปาฐกถาหลัก

ทั้งยังมีเสวนาและปาฐกถา โดย นายพีร์ ชูศรี รองผู้อำนวยการ นายลิขิต วรานนท์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและสร้างดาวเทียม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายไกรสินธุ์ วงศ์สุรไกร กรรมการเลขาธิการสภาธุรกิจไทยจีน กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดร.วิรุฬห์ พิชัยวงศ์ภักดี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน และ ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน

นายเซิ่น ไห่สง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสื่อสารมวลชนและผู้อำนวยการ China Media Group (CMG) ได้กล่าวผ่านคลิปวิดิโอความว่า CMG มุ่งมั่นที่จะบอกเล่าเรื่องราวของการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน รวมถึงเรื่องราวของความทันสมัยแบบจีนมาโดยตลอด พร้อมทั้งสร้างสะพานและสายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับทั่วโลกอย่างแข็งขัน เพื่อการแลกเปลี่ยน การเจรจา และการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

นายหลี่ เฟิง รองผู้อำนวยการ และ บรรณาธิการใหญ่ CMG ASIA–PACIFIC ได้กล่าวต้อนรับผู้มีเกียรติทุกท่านว่า ทาง CMG ได้จัดการเสวนาเรื่อง โอกาสประชาคมโลกจากการปฏิรูปเชิงลึกของจีนยุคใหม่ ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งการประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ได้รับรอง ได้รับรองมติอย่างเป็นทางการ ว่าด้วย การปฏิรูปรอบด้านอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อเดินหน้าการสร้างความทันสมัยแบบจีน ทาง CMG จึงได้จัดการเสวนา เพื่อแบ่งปันเรื่องนี้กับประเทศไทย

ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้กล่าวว่า การปฏิรูปเชิงลึกของจีนในยุคใหม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์ของจีนเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสมากมายสำหรับระดับโลก ทั้งการทำงานร่วมกัน เทคโนโลยี และ นวัตกรรมที่แลกเปลี่ยนกัน หนึ่งในประเด็นที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ การศึกษาของจีน โดยเฉพาะความมุ่งมั่นของจีนต่อความพัฒนาความก้าวหน้าทางการศึกษา อันจะเห็นได้จากการให้ความสำคัญการลงทุนด้านการวิจัย การพัฒนา และความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศ อันเป็นการเปิดช่องทางใหม่ๆ สำหรับสถาบันการศึกษาทั่วโลกในการมีส่วนร่วมและสร้างความร่วมมือที่ประสบผลสำเร็จไปด้วยกัน

จากนั้น นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวปาฐกถา ว่า ปีนี้ถือเป็นวันครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และปีหน้าจะครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับเพื่อนจากทุกสาขาอาชีพในประเทศไทย เพื่อปฏิบัติตามเป้าหมายของการสร้างชุมชนจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันที่กำหนดโดยผู้นำของทั้งสองประเทศ สนับสนุนซึ่งกันและกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดบนเส้นทางสู่ความทันสมัยของเรา ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทยให้ดียิ่งขึ้น และเขียนบทใหม่ในยุค “จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน”

นายหาน จื้อเฉียง กล่าวด้วยว่า เมื่อสักครู่ได้มีโอกาสเยี่ยมชมผลงานศิลปะของนักเรียน นักศึกษาไทยที่สร้างสรรค์รูปด้วยตัวเองเกี่ยวกับการพัฒนาของประเทศจีนและความสัมพันธ์จีน-ไทย มีความรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถาบันการศึกษาที่มีความใกล้ชิด มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับประเทศจีน โดยมีนักศึกษาชาวจีนจำนวน 2,000 กว่าคนมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ขณะที่ทางการจีนพร้อมสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาให้กับมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ด้าน นายลิขิต วรานนท์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและสร้างดาวเทียมสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาถึงโครงการความร่วมมือด้านการสำรวจดวงจันทร์ไทย–จีนว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการร่วมมือกันทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างเช่น องค์การความร่วมมือด้านอวกาศภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค หรือ APSCO (Asia–Pacific Space Cooperation Organization) ซึ่งเป็นองค์การที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอวกาศหลากหลายกิจกรรม อย่างเช่นการพัฒนาดาวเทียม และการจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการพัฒนากำลังคน ผ่านการมอบทุนการศึกษา และ เปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมในมิติต่างๆ

นายไกรสินธุ์ วงศ์สุรไกร กรรมการเลขาธิการสภาธุรกิจไทย-จีน และ รองเลขาธิการสภาหอการค้าฯ กล่าวว่า สำหรับมติจากการประชุมของจีนเกี่ยวกับการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการผลักดันความทันสมัยแบบจีนให้ก้าวหน้านั้น มีจุดหนึ่งที่เห็นว่า พวกเราควรนำมาศึกษาและหาทางนำมาปรับใช้ในประเทศไทย คือการพัฒนาสู่ความทันสมัย อันคงไว้ซึ่งรูปแบบของประเพณี และวัฒนธรรมดั้งเดิม

ดร.วิรุฬห์ พิชัยวงศ์ภักดี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย–จีน เปิดเผยว่า ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ช่วยให้โลกเชื่อมต่ออย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การขยายการเปิดประเทศระดับสูงเพิ่มเติมของจีนจะนำโอกาสมาสู่เศรษฐกิจโลก

และ ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวปาฐกถาก่อนจบงาน ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มากล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ในมุมมองของสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นแนวหน้าของการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศทั้งสอง ยิ่งในวาระอันสำคัญนี้ ยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่สื่อมวลชนจะได้ติดตาม เรียนรู้ ทำความเข้าใจไปด้วยกัน

China

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *