หมกมุ่นฝังหัวอยู่ได้
ไม่มีใคร“ประสงค์-จงใจ” อยากเห็น“พรรคก้าวไกล” จะต้อง“ถูกยุบ”เป็นคำรบที่ ๒
หลังจาก“อนาคตใหม่” ผ่าน-ปณิธานหาญกล้าของ“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และ“ปิยบุตร แสงกนกกุล” น่าเป็นบทเรียน การทำพรรคควรมี“แง่คิดเตือนใจ” จะทำการใด อย่า“เอามันส์” สะใจ ถูกคอ“แฟนส้มซันควิก”เท่านั้น
รู้ว่าเขา“ปูพรม-พร้อมจมพรรค”ได้เสมอ.. จึงไม่ควรเป็น“ตำบลกระสุนตก” ให้เขาหยิบมาฟาดฟัน คอขึ้นเขียง-เยี่ยงนี้
“จุดเด่น”ไม่ใช่มีแต่เพียง คิดจะ“เปลี่ยนโครงสร้าง”กันหรอกนะพ่อหนุ่ม “ก้าวไกล”ยังมีดีกว่าที่คิด แต่จับมาขายไม่เป็น-เน้นเข้ารก-เข้าพงกันทำไม?
ต้องยอมรับว่า “นโยบาย”ที่แสนดีเลิศประเสริฐศรีของ“ก้าวไกล”เป็นอย่างยิ่ง ที่ตั้งเป้าถูกใจผู้เฒ่า-ผู้แก่ ร่วมทั้งลูกหลาน
การ“เพิ่มเงินผู้สูงวัย ให้เป็นอัตราเดียวแบบถ้วนหน้า เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท”
เป็น“สวัสดิการ” ที่ช่วยเหลือทั้ง“ทางตรง-ทางอ้อม” ให้“ผู้สูงอายุ”มีรายได้ที่เพียงพอ-ต่อการดำรงชีพ
และมี“ความมั่นคงทางการเงินเพิ่มขึ้น”..เพราะยิ่ง“วัยใกล้เข้าโลง”ความคลอนแคลนด้านการเงิน ก็หดหายตามไปด้วย เมื่อ“ก้าวไกล”คิดทำเรื่องนี้ขึ้น ลูก-หลาน-เหลน-โหลน ที่เป็นเยาวชนและคนทำงาน ถูกใจเขาเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพ่อแม่มี“เงินสูงวัย” ใช้ได้เดือนละ “๓,๐๐๐ บาท” ย่อม“ลดค่าใช้จ่าย”ของคนในครอบครัว ที่เข้ามาขุดทองในกทม.
นี่ช่างเป็น“นโยบายนำร่อง” ที่จะช่วยกัน“ขุดรากเหง้า”แห่งความยากจนที่คนไทยประสบกันมาจนเลือดตากระเด็น
เมื่อเปรียบกับ“โครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค” ที่“พรรคไทยรักไทย”เน้นการดูแล เอาใจใส่ปกป้องประชาชนรากหญ้า จนเป็น“นโยบายท็อปฟอร์ม” ที่ทั่วโลกพากันสรรเสริญ-เยินยอ ได้รับรางวัล“อันทรงคุณค่า”มาประดับเกียรติประเทศไทย
ถึง“ก้าวไกล” ถูกไส-ไล่ส่งให้เป็น“ฝ่ายค้าน”..แต่ทำไม“ไม่เห็นยึดมั่น”ในแนวคิดนี้..
ไป“หมกมุ่น”ฝังใจอยู่ทางเดียว..ในเรื่อง“ม.๑๑๒” และ“นิรโทษกรรม” กอดเอาไว้“ในอก-นรกกลางใจ”อยู่นั่นแหละ
คิดแต่จะ“ต่อกร” สู้รบปะทะฝีมือในสิ่งที่หลายคนเขาไม่ได้คล้อยตามด้วย โดยเฉพาะกับ“พรรคการเมือง”ด้วยแล้ว..เขาพากัน“ไสช้าง-ไสม้า”ออกมาประจัญกันอย่างไม่ลดละ
ซึ่ง“ไม่บังเกิดผล”นำพาให้เห็นถึงการแก้ไข“ปัญหาปากท้อง” ที่จะให้ชีพเขาอยู่กันอย่างอิ่มสำราญ “เสียงขานรับ”ไม่ได้กระหึ่ม-ดังตรึมๆหมือนกับ“เงินผู้สูงอายุเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท”เลย
นโยบายนี่แหละ เป็นเสียงส่วนมากของ“๑๔ ล้านคะแนน” ที่เขาพากันเทใจ-เชียร์ให้ จนเป็นพรรคชนะที่ ๑ ของแผ่นดิน
ควรที่“จะก่อ-ต่อประสาน”กันอย่างต่อเนื่อง..ไม่ใช่“ปล่อยละเลย-ให้เกยตื้น”กันอยู่แบบนี้
วันๆคิดแต่จะ“เปลี่ยนโครงสร้าง”ส่วนสำคัญที่ก่อกำเนิด–เกิดเป็นประเทศกันมาอยู่นั่นแหละ
เพราะถ้ายัง“วนลูป” อยู่แต่“แนวคิดเดิมๆ-ไม่เติมอะไรใหม่ๆกันเข้ามา” ก็จะ“โดนยุบพรรค” แซง“ทักษิณ ชินวัตร”ก็ได้
และจริงหรือไม่?…เมื่อ “มายด์-ภัสราวดี ธนกิจวิบูลย์ผล” นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็น“หญิงเหล็ก-เด็กรุ่นใหม่” ออกมา“ตำหนิ-กล่าวติเตือน” อย่างไม่เคยมีมาก่อน!!
นี่เป็น“เสียงสะท้อน”ที่จะไปเข้าหูคนบางคนกันหรือไม่?
เหมือนบอกว่า “สู้ติดแน่-แพ้ติดนาน”..แต่ทั้งหมดล้วนเป็น“เยาวชน-และชาวบ้าน”ที่ได้รับโทษกันทั่วหน้า
“ด้อมระดับเบอร์ต้นๆ”ยังเริ่มที่จะไม่เอา..มั่นใจได้อย่างไรว่า“๑๔ ล้านเสียง”จะไม่“แพแตก-แยกไปหาพรรคอื่น”
ควรแสดงบทบาท“เงินสูงวัย ๓,๐๐๐ บาทได้ถ้วนหน้า”กันดีกว่าไหม?
เพราะวันใดที่ทำได้ ถึง“ก้าวไกล”ถูกยุบไป..เปลี่ยนมาเป็น“พรรคถิ่นกาขาววิไล”ก็ยังผูกมัด ๑๔ ล้านเสียงไว้ได้ตราตรึง
ใช้ผลงานปากท้อง สู้กับ“เพื่อไทย” เพื่อ“ได้ใจประชาชน” น่าจะเดินมาถูกทางแล้ว
วันๆอยู่กับ“๑๑๒ และนิรโทษกรรม” สงสาร“น้องไหม ศิริกัญญา ตันสกุล” ตัวตึง-ตัวเต็ง หัวหน้าพรรคคนใหม่
อาจเป็นหัวหน้าพรรคที่อายุสั้น..“เชื่อว่าอยู่ไม่นาน”คงถูกยุบพรรคกันอีกแน่แท้ ล่ะคุณเอ๋ย
“กะพรุนไฟ”
