ไม่มีปัญหา-อย่าฝ่าฝืนเสียงสวรรค์
“ขงจื้อ”กล่าวเอาไว้ว่า..เจอคนที่“ชักใบให้เรือเสีย” แต่ทว่า“ยังขยันพูด” เขาให้ลี้กาย ถอยห่างมาเสียให้ไกล เพราะหากไป“ร่วมวง”พาทีด้วย จะทำให้“งานเสีย” จะ“ก่อความเดือดร้อน”อย่างไม่รู้จบ
จึงมีการตั้ง“มาตรฐาน” จาก“ยอดปราชญ์ขงจื้อ” เอาไว้ว่า..“คนฉลาดและขยัน ควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพ”
“คนฉลาดและขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้เป็นทหารฝ่ายเสนาธิการ เพื่อวางแผนอยู่เบื้องหลัง”
“คนโง่และขี้เกียจ เก็บไว้ใช้สอย ทำงานตามคำสั่งพอไหว”..“แต่ถ้าเจอคนไม่เอาสัปปะรด แต่ว่าขยัน ควรเอาไปตัดคอเสียให้สิ้นเรื่อง”
นี่เสมือนหนึ่งว่าจะเป็น“กฎแห่งกองทัพ” ที่สร้างความเกรียงไกร-นำความยิ่งใหญ่ มาสู่เมืองจีนในยุคหนึ่งอย่างแท้จริง
การที่ “พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ” สว.ที่มาจาก“เลือกสลับฟันปลา” ของคนที่ลงสมัคร“๓-๔ หมื่นคน” ที่ไม่ได้มาจากประชากร-คนไทยทั้งหมด
เราจึงได้เห็น“ไอเดีย-เพลียหัวใจ”กันอย่างสุดขีด ..นับเป็นความพรั่งพรู-กรอกหูประชาชนที่น่าขัดเคืองยิ่ง ดูเหมือนว่าท่านจะไม่“คล้อยตาม-นำความคิดประชาชน” ไปปรับปรุงแก้ไขให้สำเร็จกิจ
นับเป็นโชคดี บุญแห่งโสตประสาทการรับรู้ยิ่งนัก ที่การ“แถลงนโยบายรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ได้ตั้งกรอบให้“สว.”ใช้สิทธิ์อภิปรายได้ ๕ นาที
นี่ควรเป็นช่วงเวลา“อันมีค่า-หาประโยชน์”ให้กับชาติมิใช่หรือพ่อคุณ
ไฉนท่านถึงได้“ปลาบปลื้ม-ดื่มด่ำ” กับ“รัฐธรรมนูญ”ที่ “คสช.”ใช้ปืนจ่อหลัง-จ่อศีรษะ บังคับ“นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย”ไม่ให้กระดิกตัว
นับได้ว่าเป็นการ“ชูงวง-ชูงา” ออกหน้า-ออกตากันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเชียวนี้เล่า..ว่า“รัฐธรรมนูญปฏิวัติ ไม่ใช่ปัญหา”..เหมือนว่าท่านจะ“ฝังตัว”อยู่ใน“ระบบราชการ” จึงมองรัฐธรรมนูญ คสช.ไม่ทะลุ-ทะลวง
ถามหน่อย เพื่อนำมาประดับความรู้ ว่าเคยที่จะ“เงี่ยหูฟัง”ความคิดประชาชนสักครั้ง..ที่เขาพากัน“ปฏิเสธ” ไม่เอา“รัฐธรรมนูญ ๖๐”
กระทั่ง“นายมีชัย ฤชุพันธ์” ประธานยกร่างรัฐธรรมนูญ ยังออกมา“สารภาพหมดเปลือก” ว่าตัวเองไม่มีทางเลือก ร่างรัฐธรรมนูญอย่างอิสระไม่ได้ ต้องทำตาม“ใบสั่ง”ของ“คุณพ่อ คสช.” ที่ได้ยื่นโนตีส“จดหมายน้อย”สั่งมา
ฝ่ายที่“ล้มยึดอำนาจประชาชน”ด้วยปืนเอ็ม ๑๖ เขาจะคิดร่าง“กฎหมายสูงสุดของประเทศ” เพื่อประโยชน์ทั้งหลาย หรือกระไร..
ไม่มีหรอก?..การร่างรัฐธรรมนูญ ที่เป็นคุณอนันต์กับ“ประชาชน” และ“นักการเมือง” ทุกคนต่างส่งเสียงว่า“ไม่มี-แน่นอน”
“ทุกมาตรา-เดินหน้า”เพื่อเป็นประโยชน์กับ“ฝ่ายปฏิวัติ” ที่มาจาก“คสช.”ทั้งสิ้น
ท่านมองอย่างไรว่า“รัฐธรรมนูญปฏิวัติไม่ใช่ปัญหา”..ช่างอ้างได้สะเด็ดน้ำ ว่า“คนโกงต่างหาก ที่เป็นปัญหา”..ในเมื่ออารัมภบท-กำหนดความเลวออกมาดังนี้..ทำไมไม่ยักเห็น สว.แบ่งกลุ่ม เช่นท่าน..“ฟ้องร้องเอาคนโกงเข้าคุกไปเล่า”
“การรัวฝีปาก-เล่นท่ายาก”กันพรรค์นี้..ในสายตาของประชาชน เขาไม่โอเค ก็จงโปรดได้รับรู้เอาไว้
ยิ่งจะทำให้ประชาชน อยากให้แก้“รัฐธรรมนูญ”กันเสียไว ๆ ..เพื่อที่จะ“โละรุสต๊อก” เทกระจาด ไม่ทิ้งญาติทิ้งผู้เป็น“สว.”ให้ทำหน้าที่ต่อไป
แทนที่เข้ามา จะทำหน้าที่เป็น“สภาพี่เลี้ยง” ทำหน้าที่คอยแนะนำ ดูแล ช่วยเหลือ“รัฐบาล” ให้เดินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น “กลับมาเล็ง-เด้งตัว” เห็นดีเห็นงามตามไปกับ“รัฐธรรมนูญปฏิวัติ” ที่คนในชาติพากันปฏิเสธกันอย่างเสียงแข็ง
อย่าได้ไป“นิยาม” โดยกำหนดความหมายที่ตัวเองเข้าใจไปเองเสร็จสรรพ ว่านี่เป็น “รัฐธรรมนูญ-ปราบโกง”
ถามกลับหน่อยเหอะ นับตั้งแต่มี“รัฐธรรมนูญ-ปราบโกง” คดีทุจริตของ“ข้าราชการ-นักการเมือง” ลดฮวบตกต่ำ-ถลำลงหรือ!
มีแต่“ทะยานโจน-โหนขึ้นฟ้า” มากขึ้นบานเบอะเสียมากกว่า
ที่จับมาลงทัณฑ์ รับกบิลบ้านกบิลเมือง ล้วน“ปลาซิว-ปลาสร้อย”..ส่วนตัวโต “ใหญ่คับแผ่นดิน”รอดไปได้“เหนือปาฏิหาริย์” ก็เห็นกันอยู่
“ประชาชน”เขาจึงอยากให้“แก้รัฐธรรมนูญ” เพื่อไม่ให้ใช้“กฎหมายที่คุมแผ่นดิน”ของชาติต้องเกิดช่องโหว่..ใครจะแฮปปี้กันได้ลง หยั่งกะเรื่อง“แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน” ที่รอด-ปลอดภัยไปได้โดยไม่มี“ฝุ่นจับ”หนังกำพร้า ให้ระคายเคืองเลย
“รัฐธรรมนูญที่เลือกปฏิบัติ” เป็น“สิ่งแน่ชัด”ที่คนไทยผู้มีใจเป็นธรรมเขาไม่เห็นด้วย อยากให้แก้ไข-ไว เหมือนกับการ“ออนไลน์” ที่ส่งข้อความไปถึงอีกเครื่องได้ทันที
ถึง“สว.ชุดนี้”จะมิได้มาจาก“เสียงสวรรค์ของประชาชน” แต่หูท่านต้องไม่ดับ-ตาท่านก็ต้องไม่ได้บอด
ไม่รู้ถึงความต้องการของ“ประชาชน”กันหรือไร? เขาไม่เอาแล้วกับ“รัฐธรรมนูญ”ที่ออกมาแบบมาเพื่อ“อภิสิทธิ์”ของ“คสช.”
จะยกก้นรัฐธรรมนูญนี้ก็ทำไปเหอะ..“แต่ไม่ควรเยอะ” เชื่อไอ้เรืองเถอะ ท่านยิ่งจะตายไปจากใจประชาชนเร็วยิ่งขึ้น
“กะพรุนไฟ”
