‘สมชัย’ ชี้ ดิจิทัลวอลเล็ต ถ้าแจก 45 ล้านคน เงินจะมีไม่พอ เชื่องวดสองไม่ทัน ธค.นี้แน่

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ปั่นไปไหน – สมชัย ศรีสุทธิยากร ใจความว่า

เพื่อไทย ตั้งงบปี 67 โดยทบทวนงบที่ตั้งไว้จากรัฐบาลก่อนหน้า เท่ากับเริ่มตั้งไข่งบดิจิทัลวอลเล็ตด้วยตนเองได้ตั้งแต่ ธันวาคม 2566 โดยรู้ว่าหากจะใช้เงินรายการนี้ ต้องใช้ให้หมดในเดือนกันยายน 2567

เพื่อไทยตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม อีก 1.22 แสนล้าน โดยกู้เงินเพื่อมาสมทบในรายการดิจิทัลวอลเล็ตโดยการอนุมัติของ ครม. ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2567 โดยรู้เช่นกันว่า ต้องใช้เงินจำนวนนี้ให้หมดภายในเดือนกันยายน 2567

หากมีการเตรียมการวางแผนที่ดี ประหยัดงบประมาณปี 67 ได้จริง และทำงานอย่างเป็นระบบ เงินก้อนแรก ประมาณ 2.5 แสนล้านบาทหรือครึ่งหนึ่งของทั้งโครงการควรแจกเป็นเงินดิจิทัลได้ ภายในเดือนกันยายน เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องใช้ให้หมดในเดือนกันยายนนี้

การจ่ายเป็นเงินสด รวมแค่ประมาณ 1.45 แสนล้านบาท ในวันที่ 25-30 กันยายน จึงแปลความหมายได้ดังนี้

1.รัฐบาลนี้สามารถประหยัดงบปกติปี 67 มาสนับสนุนดิจิทัลวอลเล็ตได้เพียง 1.45 ลบ 1.22 แสนล้าน หรือ 23,000 ล้านบาทเท่านั้น

2.การจ่ายงวดแรกเป็นเงินสด หมายถึงเวลา 1 ปี ที่ผ่าน ไม่สามารถเตรียมการในเรื่องระบบได้ทัน ทำได้แค่จดทะเบียนคนรับ ส่วนระบบร้านค้า ระบบหลังบ้าน การแก้ไขกฎหมาย ล้วนไม่สามารถทำเสร็จ จึงต้องจ่ายเป็นเงินสด

3.สิ่งที่ต้องยอมรับในผลจากการจ่ายเป็นเงินสด คือ เงินจำนวน 1.45 แสนล้านที่จ่ายให้แก่กลุ่มเปราะบางโดยไม่มีเงื่อนไขการใช้จ่าย อาจไม่เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหรือจีดีพีของประเทศแม้แต่น้อย เพราะกลุ่มเปราะบางส่วนใหญ่จะมีหนี้สินพ้นตัว โดยเฉพาะการมีหนี้นอกระบบ หากเจ้าหนี้มายืนรอรับในนาทีแรกที่เงินมาถึง พายุหมุนที่หวังก็จะเป็นลมสงบนิ่ง

4.โจทย์ใหญ่ถัดไป คือ อีก 30 ล้านคน จะเอาเงินปี 68 ที่มีการเตรียมเงินไว้เพียง 1.87 แสนล้าน แต่หากเต็มเป้า 45 ล้านคน ยังต้องการเงินอีก 3 แสนล้าน ขาดอยู่ 1.13 แสนล้าน จะเอาเงินที่ไหน จะจ่ายเป็นเงินสด หรือเป็นดิจิทัล จะจ่ายหมดหรือกำหนดกลุ่มจ่ายอีก หรือจะไม่จ่ายอีกแล้ว เพราะประเทศยังต้องการใช้เงินเพื่อการพัฒนาในด้านอื่นที่จำเป็น จึงไม่มีคำตอบชัดเจนว่า งวดสองที่เหลือจะจ่ายเมื่อใด จ่ายเป็นเงินสดอีก หรือเป็นดิจิทัล หรือจะจ่ายเป็นแห้วแทน คงต้องรอดู

5.การไม่ยอมเปิดให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติม หลังจาก 15 กันยายน 2567 สำหรับผู้ที่ไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ แปลว่า รัฐบาลเริ่มลังเลว่าจะจ่ายเงินที่เหลือหรือไม่อย่างไร ดังนั้น กว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่ม จึงไม่มีทางที่เงินงวดสองจะจ่ายได้ทันในเดือนธันวาคม 2567 ตามสัญญา