23 ตุลาคม 2024

“ภัยเศรษฐกิจ” ได้“ครอบงำ-ไทยตกต่ำ”กันมาเกือบ ๒ ทศวรรษ เกือบ ๒๐ ปี

อยากให้“นักการเมืองไทย”หันสนใจกับอดีตของ“มังกรจีน” ดินแดนแห่ง“อาณาจักร”ที่แย่งชิงอำนาจกันมายาวนานหลายชั่วอายุคน

เขาถูก“รุกราน”ด้วยอำนาจจักรวรรดิญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม คศ.๑๙๓๗ จนถึงวันที่ ๒ กันยายน คศ.๑๙๔๕ สู้รบกันกว่า ๘ ปี เป็น“สงครามมหาบูรพา”แห่งภูมิภาคเอเชียในศตวรรษที่ ๒๐ มีการบาดเจ็บ-ล้มตายอย่างมหาศาล ใน“สงครามแปซิฟิก”

มี“ประชากรชาวจีน”ที่ร่วมรบด้วย ๑๐-๒๕ คน กับ“ทหารจีน” ต่อกรกับ“ทหารญี่ปุ่น” มีคนตายมากกว่า ๔ ล้านคน

จาก“ความรุนแรง-แย่งชิงอำนาจ” จาก“๒ มหาอำนาจ”ที่เข้าทำสงครามกัน นำมาซึ่ง“ความอดอยาก” เดือดร้อนอย่างหนัก น่าหวาดกลัว

นี่ควรจะเป็น“อุทธาหรณ์” ที่ทำให้“นักการเมืองไทย” ไม่ว่าจะเป็น“รัฐบาลหรือฝ่ายค้าน” ตระหนัก ซึมซาบ กันเข้าไปถึงก้านสมอง ว่าในยามที่“ชาติวิกฤต-ติดลบ”กันถึงขนาดนี้..ควรหันมา“ปรองดอง-หนองยุ่ง” เป็นปึกแผ่นกันดีกว่าไหม

เลิกเหอะพ่อคุณ การมา“ฮึ่มฮั่ม” สำแดงเดชเข้าใส่กันวันละ ๒๔ ชั่วโมง มิได้เกิดประโยชน์อันใดแม้แต่น้อย

ควรทำหน้าที่“เพื่อประชาชน”ด้วยสติ ใช้ความคิดเห็นชาติและประชาชนมาก่อนถึงจะดีที่สุด อย่า“หน้ามืดตามัว” ให้“เส้นประสาทตา” สั่งการ..จะ“ยื้อแย่ง-แรงแค้น” ชิงอำนาจกันอย่าง“มองไม่เห็นหัวประชาชน”กันทั้งสอง

ที่น่าเป็นนิมิตหมายอันดี เมื่อ“สส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ตัวตึง-อีกหนึ่งคนของพรรคประชาชน นำความเดือดร้อนราษฎรนำแก้ไข

โดยออกมาเป็น“รามสูรขว้างจักร” ใช้อำนาจที่เป็นสิ่ง“ศักดิ์สิทธิ์” ที่“ประชาชน”ได้มอบหมายให้มาทำหน้าที่ได้น่าชื่นชมนัก เพราะ“สส.วิโรจน์” คงโกรธ-พิโรธเต็มเหนี่ยวก็ว่าได้…

เมื่อ“ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ“ธปท.” นิ่งเป็น“กบในกะลาครอบ-ไม่รับผิดชอบเงินประชาชน”

ปล่อยให้“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ขบวนการ“มิจฉาชีพ” ที่ทำการหลอกลวงเหยื่อผ่านโทรศัพท์ ตกเป็นเหยื่อ“โอนเงิน”ให้ไปอย่างมหาศาล

จน-คนไทยบางคน“สิ้นเนื้อประดาตัว” ต้องปลิดชีพ-ดับชีวิตตัวเองลง เพราะเสียรู้ให้กับ“โจรคอลเซ็นเตอร์”

ซึ่งวิธีการป้องกัน “ธนาคารแห่งประเทศไทย”มีอำนาจที่จะ“ดำเนินการ-เล่นงานพวกนี้ได้” ชนิดที่อยู่หมัดได้ไม่ยากเย็น

มีมาตรการเด็ดขาดกับ“ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งแล้ว” เชื่อว่า“แก๊งหลอกให้โอนเงิน”ไม่สามารถฉ้อฉล-สร้างกลโกง ลวงคนไทยได้หรอก

ซึ่ง“สส.วิโรจน์”เขาเชื่อเช่นนั้น..หาก“ท่านผู้ว่าฯเศรษฐพุฒิ” มีการ“ออกไม้แข็ง” เพื่อเป็น“กฎเหล็ก”ให้แบงก์ทำตามเสียอย่างแล้ว รับประกันซ่อมฟรี..“แก๊งคอลเซ็นเตอร์”หารับประทาน หลอกแดร็กคนไทยไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ผ่านกันมาหลายปีแล้ว “สส.วิโรจน์”ยังไม่เห็น“ธนาคารแห่งประเทศไทย”ทำหน้าที่เป็น“ทัพหน้า” สกัดการโกงกินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้

จึงได้รุกออกมา“กระหน่ำ-ทิ่มตำหน้า” เรียกเลือดได้อาบเต็มหน้าเชียวแหละ

เมื่อ“ฝ่ายค้าน-ประจาน”กันอย่างหนัก “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องร่วมเป็น“เพชฌฆาตดาบ ๒”..“ร่วมกันบี้-ตีแบงก์ชาติ”เสียให้อยู่!!

อย่าให้เขาใช้ความเป็น“องค์กรอิสระ” ที่ทำตัว“เอกเทศ” ไม่สังกัดขึ้นกับหน่วยงานใดทั้งสิ้น

เพราะปล่อยให้เป็น“ผักตบที่ลอยน้ำ” คิดจะทำอะไรก็ได้ “ผักตบชวา”จึงเป็นเหตุให้“ขวางทางน้ำ” ระบายออกได้ยาก-อย่างที่เห็นกันอยู่

ใน“สงครามแปซิฟิก” ที่“สาธารณรัฐจีน”กลับมามีชัยเหนือ“จักรวรรดิญี่ปุ่น” เป็นการ“ผนึก-ปึกแผ่น”ของผู้นำในชาติ ถึงจะมี“แนวคิด”ที่เรียกว่า “สุดโต่ง”ไปกันคนละทาง แต่ทว่า“เพื่อประเทศชาติ” ก็หันมาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันได้

เป็นการ“สงบศึก-นึกไม่ถึง” ระหว่าง“ท่านซุน ยัต เซ็น” กับ“ประธานเหมา เซ ตุง” ที่จากเผชิญหน้ากัน-ห้ำหั่นอย่างถึงพริก-ถึงขิง

แต่เพื่อชาติและบ้านเมือง มีแต่หนทาง“บัดกรี-เชื่อมไมตรี”กันเท่านั้น ชาติถึงปลอดภัย

เมื่อ“ท่านซุน ยัต เซ็น” และ“ประธานเหมา เซ ตุง” มาจับมือกันแน่น..ก็กวาดล้างไล่ศัตรูญี่ปุ่นออกจากแว่นแคว้นแผ่นดินจีนได้ไม่ยาก

ทั้ง“ฝ่ายค้านพรรคประชาชน” และ“พรรคร่วมรัฐบาล” ใต้แม่ทัพหญิงมู่หลาน แพทองธาร ชินวัตร หันมาเพิ่มศักยภาพทำงานให้ดีขึ้น

ฝ่ายค้านโดย“สส.วิโรจน์” ชี้จุดหย่อนยาน การทำงานแบงก์ชาติยุค“ดร.เศรษฐพุฒิ” ได้เป็นฉากๆ-ลากออกมาแฉกลางถนน ละเอียดถี่ยิบ

น่าเป็นช่องทางในการ“ปลด”พ้นจากตำแหน่งได้..เพราะนี่“ฝ่ายค้าน”ชี้ช่องว่าปวกเปียก เฉื่อยชา ประการใด

นี่เป็น“ข้อบกพร่อง” ในการ“ชี้ช่องจากฝ่ายค้าน” มิได้เป็นการ“รังแก” ไปบีบไข่เยี่ยวม้าเขาเสียด้วย

“ฝ่ายค้านกับรัฐบาล”หันมาทำงานเพื่อชาติ ทุกอย่างร่วมเกิดประสิทธิผล-คนในชาติจะได้พากันพ้นทุกข์

ร่วมพลังแก้ปัญหา…“บ้านเมืองก็เดินหน้า” เพราะการขัดขา ไม่เป็นสิ่งดีแก่ชาติด้วยประการทั้งปวง

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *