ขัดขวาง-ย่างสามขุม
“รุกฆาต” แต่น่าเป็นการ“ตัดทางเดินของชาติ”เสียมากกว่า “คณะนิติชน-เชิดชูธรรม”เดินหน้าออกมา เพื่อที่จะ“คว่ำรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” พร้อมกับ“รัฐมนตรี ๓๖ คน” ให้ถูกดูดจมแผ่นดินลงไป
ทำหนังสือร้องไป“คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ“กกต.” ให้เป็นผู้เดินสาร ยื่นหนังสือไปถึง“ศาลรัฐธรรมนูญ”
เพื่อให้วินิจฉัย“ความเป็นรัฐมนตรี” ของ“แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรียกสำรับ-ให้ขับพ้นไปจากตำแหน่ง
โดยยกแม่น้ำทั้ง ๕ มากล่าวหากันอย่างเต็มเครื่อง เพราะเหตุ “ขาดคุณสมบัติมีลักษณะต้องห้าม แถลงนโยบายต่อรัฐสภาขัดรัฐธรรมนูญ มุ่งประชานิยม ไม่คำนึงถึงที่มีแห่งรายได้”
คิดเดินหน้า-ใส่เกียร์ห้ากันเต็มสตรีม “แจกเงินดิจิตอล ๑ หมื่น รวมโครงการอื่นอีกเพียบ”
เอา“มีดปักหลัง” เรียกว่า“แทงไม่ยั้ง”กันอย่างเต็มเขี้ยวเชียวแหละ ด้วยข้อหา“ไม่ซื่อตรงต่อการปฏิบัติหน้าทีอย่างครบถ้วน เข้าข่ายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”
ก่อน“โปร่งใส” ทำหน้าที่“เปิดโปง” ไม่อยากทุกชุดที่ออกมาฟาดฟัน อย่าทำตัวเป็น“ซุเปอร์บิ๊กโม่ง” โก่งคอขันโดยไม่เปิดเผยนามเลย
ทำไมไม่ยึดหลักตรงไป-ตรงมา ที่สำนวนจีนกล่าวเอาไว้ว่า “ยืนไม่เปลี่ยนแซ่-นั่งไม่เปลี่ยนนาม”
การออกมา“ปกป้องประโยชน์ชาติ” ต้อง“เผยตัวตน-แห่งหน”กันให้ชัดเจน..มิควรมา“ปิดอำ” ปกปิดบังชื่อกันเลย จริงไหมล่ะท่าน
การกล่าวหา“เพื่อฆ่าทิ้งรัฐบาลทั้ง ๓๖ คน”ให้ตายในดาบเดียว ต้องให้เกิดความ“สง่างาม-นำไปจารึกในแผ่นดินได้” มาทำตัว“ปิดทองหลังพระ-เสียสละ”กันเช่นนี้ไม่ได้ดอก-บอกให้รู้เอาไว้
การ“แจกเงิน” สร้างสภาพคล่องให้เดินหน้า ไม่ใช่มีแต่“รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”เท่านั้น ที่มี“ดีล”ทำกันเช่นนี้
สมัย“รัฐบาลประยุทธ์” ก็“แจกคนละครึ่ง” เพื่อดึงเศรษฐกิจให้โงหัวขึ้นมาได้ แต่ทุกอย่าง“กลับเงียบฉี่-มือดี”ไม่ยักออกมาทำงาน “ร้องเรียน”ให้“กกต.” และ“ศาลรัฐธรรมนูญ” ลงอาญาแต่ประการใด
ไม่อยากพูดว่าเป็นการ“เลือกปฏิบัติ-แต่เห็นชัด”น่าจะใช่
การทำให้“เศรษฐกิจเดิน-เงินสะพัดในแผ่นดิน” ปรากฏว่า“รัฐบาลในโลกนี้” เขาต่างก็ทำ-โปรดจำเอาไว้
หลายประเทศ“เขาแจก-แลกความอยู่ดีของประชาชน”..ด้วยวิธี“นำเงินเข้ากระเป๋าประชาชน” ให้เกิดผล“การใช้จ่าย”ในประเทศไม่เห็นหรือ
ลองไล่เรียง-เมียงมองกัน ที่“สิงคโปร์” เศรษฐีมหาศาลมือใหญ่ เขายังมีนโยบายแจกเงินให้ประชาชน สร้างเศรษฐกิจใหคั่งมั่งขึ้นไปใหญ่ แจกจ่ายให้กับเกาะเล็กๆแดนสิงโตพ่นน้ำ ตั้ง“๑.๕ ล้านคน” ใช้งบ“๑.๒ พันล้าน” รับเป็นเงินสด“๗๐๐ ดอลล่าร์”
รับกันเสมอหน้าทุกคน รายละ“๒๔,๕๐๐ บาท” ช่วยค่าใช้จ่ายให้ประชาชน“หมุนเงิน” สร้างฐานะให้เกาะสิงคโปร์-โตพรวดพราดไปอีก
“เกาหลีใต้”ไม่น้อยหน้าอีดฉีดเงิน“๖๗ ล้านวอน” หรือ“๑,๗๐๐ ล้านบาท” เพื่อมอบเป็นบัตรกำนัลแก่ประชาชน ช่วงวันหยุด ๖ วัน อันเนื่องมาจากเทศกาลปีใหม่เกาหลี หรือ“ชูช็อก”ที่มีในสิ้นเดือนกันยายน..
ให้จับจ่าย-ใช้สอยกันไปถึง“วันสถาปนาแห่งชาติ” ในวันที่ ๓ ตุลาคม..ซึ่งเกิดผลแพร่สะพัด-อัดฉีดเศรษฐกิจ ได้เป็นเนื้อเป็นหนังเร็วมากนัก
ส่วน“รัฐบาลญี่ปุ่น” ออกเงินแจกเด็กเดือนละ“๕,๐๐๐ เยน” และให้ประชาชนชาวปลาดิบอีก“๖๐,๐๐๐ เยน” หรือราว“๑๔,๐๐๐ บาท” รวมไปถึง“คนต่างชาติ”ที่เข้าไปอยู่ในแดนภูเขาฟุจิ ที่มีมิติแห่งการท่องเที่ยว ก็ได้รับอานิสงส์ สร้างงาน-สร้างเงินให้ญี่ปุ่นอีกหนึ่งทาง
อีกทั้ง“ดินแดนมังกรบิน” อย่าง“จีนแดง” นั้นเล่า…ก็มอบ“ของขวัญ”เป็นเงินสดจากรัฐบาลถึง“คู่แต่งงาน”เป็นครั้งแรก
และ“เจ้าสาว”ใดมีอายุ ๒๕ ปี หรือน้อยกว่านั้น “รัฐบาลกำแพงเมืองจีน”มอบเงินให้“๑,๐๐๐ หยวน” หรือ“๔,๘๐๐ บาท” เป็นการเพิ่มประชากร และสร้างเศรษฐกิจไปในตัว
ไม่มีการ“ขัดขวาง-ย่างสามขุม”ออกมาคัดค้าน เพื่อ“เสียบตัดขา”รัฐบาลที่พร้อมใจทำเพื่อประชาชนกันเลย
แต่แผ่นดินไทย ไม่รู้ว่าเป็นอะไร..ครั้งใดที่“รัฐบาลประชาธิปไตย”ขึ้นมาสู่อำนาจ-มักถูก“เกมรุมฆาต” กระโดดใส่อยู่ร่ำไป
เมื่อเขาคิด“ทักท้วง-ห่วงกันเช่นนี้” ก็ให้ว่ากันไปตามบริบทของแต่ละคนที่จะดำเนินการกันไป แต่อย่างไรก็ดี, “การกระทำ”จะต้องมีผลลัพธ์ตามมา ไม่ใช่ให้เกิดการ“ร้องเรียน”พร่ำเพรื่อ โดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆเหมือนที่ผ่านมา
ใครอยาก“กระหน่ำ-ทำให้รัฐบาลคว่ำ” ก็ว่ากันไปตามกิจวัตรของใครไปเลย
หากแม้นว่า“กกต.” หรือ“ศาลรัฐธรรมนูญ” ท่านได้“ตีคำร้องตก” ต้องได้รับ“โทษทัณฑ์-กันอย่างสาสม”
ไม่ใช่“พอร้องเรียน” ทุกอย่างปรากฏว่า“ไม่เป็นความจริง” แล้วก็เลิกกันไป เหมือนว่า“ไม่มีอะไรในกอไผ่”นั้น คงจะไม่ได้หรอกนะ
เมื่อ“ร้องเรียน” หากว่าเรื่องนั้น“ไม่เป็นจริงดังว่า” ต้องได้รับผลตามหลังมาอย่างสาหัสเป็นดัง“กรรมตามสนอง”
อย่าปล่อยให้นักร้องลอยชาย…“รอดตัวไปสบาย” คอยถ่วงขาให้รัฐบาลกระตุกเช่นนี้ มันไม่เป็นผลดีแก่ชาติแน่นอน
“กะพรุนไฟ”
