ตกยุค-จุกอกเชียว
“นรชนใด ห่อปลาร้าด้วยใบหญ้าคา” แม้ใบหญ้าคาของนรชนฉันนั้น ก็ย่อมมีกลิ่นเน่าฟุ้ง ไม่จรุงใจแก่คนยึดหลักแห่งความยุติธรรม
ไม่ได้มี“สารตั้งต้น-หนทาง” อันเกิดจาก“นักการเมือง”ขึ้นมาเป็นหลัก…ในการคิด“แก้รัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา-พิจารณาจุดสตาร์ทอัพ” เกิดจาก“ประชาชน” ผู้เป็น“ศูนย์กลางแห่งอำนาจอธิปไตย”
ว่า“รัฐธรรมนูญ ๖๐” ที่ต่อท่อ-ก่อเกิดจาก“มดลูก คสช.” ในการ“ปฏิวัติ-รัฐประหาร” จาก“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกฯ ๒ สมัย
มี“สูติแพทย์-ตำแย” ผู้ยกร่างให้กำเนิด จากมือผู้ชรา “มีชัย ฤชุพันธ์” ที่มา“รับจ็อบ”หารายได้พิเศษจากเงื่อนไข ของ“คสช.”
มี“ปฏิสนธิ” เกิดจาก“อำนาจปฏิวัติ” โดยมีเซลล์“แห่งอำนาจปืน” ที่ก่อให้เกิดรัฐธรรมนูญ ๖๐ ฉบับนี้ขึ้นมา จะเห็นว่า“มีคุณ-หนุนนำ”ให้แก่“คสช.”เป็นอย่างยิ่ง
เสมือนหนึ่งกับว่า “รัฐธรรมนูญมีชัย” ที่รับ“บัญชา”มาจาก“คสช.” จะเป็น“เนื้อแท้-แก่ผู้ปฏิวัติ”ทุกประการ
ต่อให้ร้องเรียน ปากฉีก-จิกตี“ผู้ให้กำเนิดรัฐธรรมนูญ”ไม่ได้แม้แต่หนังกำพร้ำ…มีแต่“หลุดรอด-ปลอดภัย”กันทุกสถาน แม้แต่แค่“ลูบไล้-ยังทำอะไรไม่ได้เลย”จะบอกให้
เมื่อ “กฎหมายสูงสุด” อันเป็น“กฎเหล็ก”ปกครองคนทั้งประเทศ ต้องมี“ความเสมอภาค-หากเลือกปฏิบัติได้” จะเป็น“รัฐธรรมนูญ”เพื่อทุกคน-ทุกฝ่ายได้ฉันใดกันล่ะคุณ
ก็สมควรที่จะต้อง“แก้ไข-ไทยทั้งชาติ”จะได้หลุดจาก“บ่วงโซ่”ที่ล่ามขาประเทศเอาไว้
ก่อนหน้าที่ “มีชัย ฤชุพันธ์” ผู้เฒ่าแห่งสำนักตำรากฎหมาย ยังแอ่นตัว-จั่วหัว เข้ามาเป็น“ประธานยกร่างรัฐธรรมนูญ ๖๐”กันนั้น “หน้าที่-ตีกฎหมายรัฐธรรมนูญ” เป็นภาระที่ชัดแจ้งของ“บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า ที่มีความเชื่อถือเป็นหลักได้
“รัฐธรรมนูญ ฉบับร่าง”สร้างขึ้นมาเสร็จสรรพ.. แต่ทว่า ไม่เป็นที่“อุปถัมภ์-ค้ำชู” หนุนแก่ผู้ที่เคยยึดอำนาจมาเสียเท่าไหร่
เมื่อเข้าสู่“สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” หรือ“สนช.” ๑ ในแม่น้ำ ๕ สาย ที่เป็น“พลังและอำนาจ”ของ“คสช.” ที่“ตกไข่-กลไกจากปฏิวัติ” จึงมีมติ“คว่ำรัฐธรรมนูญ” ที่“ท่านบวรศักดิ์”สร้างขึ้นมาเพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกคนในสารทิศ
ถึงขั้นที่ว่า “บุรุษ”อย่าง“บวรศักดิ์” ประกาศก้อง-ร้องบอกไปทั้งปฐพี ว่าเขา“ต้องการจะอยู่” ซึ่งก็เป็นไปตาม“ความรู้ทัน”ทุกอย่างเลย
เมื่อ“รัฐธรรมนูญ ๖๐” ที่ประชาชนมองว่ายังมี“สารพิษ-ติดเชื้อ”ให้กับ“ฝ่ายประชาธิปไตย”กันอย่างสุดลิ่ม จึงมี“เจตนารมณ์-กลมเกลียว” ที่จะให้แก้“รัฐธรรมนูญ ๖๐” ให้เกิดขึ้นโดยไว
ซึ่ง “พรรคเพื่อไทย”และ“พรรคร่วม” ก็ได้“รับไม้ต่อ-จ่อแก้รัฐธรรมนูญ”กันเป็น“รายมาตรา” เพื่อ“ดับเหตุ-เภทภัย” อันก่อขึ้นให้กับ“ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่มี“ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”กันอย่างไม่เนิ่นช้า
มี “พรรคประชาชน”ของ“คนรุ่นใหม่” เข้ามาร่วม“สตรีม-ทีมเวิร์ค”กันด้วย เป็นอีก“น้ำหนึ่งใจเดียว” ที่ปรากฏว่ามี“พรรคร่วมรัฐบาล” กับ“พรรคฝ่ายค้าน” เป็นปึกแผ่น-แน่นปึ กันได้ถึงขนาดนี้
แต่ความเป็น“ประชาธิปไตย” ก็รู้กันอยู่ว่า ไม่มีการมองเห็น“ดวงอาทิตย์” ในการเปล่งแสงสว่างในมุมมองเดียวกันได้
จึงมี“ประชาธิปัตย์”สายที่“ตกยุค-จุกอก” เพราะการที่“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรค และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม ที่เข้าร่วมประสาน-เป็นรัฐบาล กับ“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร
ดูเหมือน “อู๊ดด้า”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค อดีตเจ้ากระทรวงการขาย “จะขัดใจ-ตายลงเสียให้ได้”ในการแก้รัฐธรรมนูญ
“ตีโพย-ตีพาย”ไปไกลเกินความจริง ว่า…เป็นการ“แก้เพื่อตัวเอง เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง”
แต่“รัฐธรรมนูญที่เป็นสมบัติ-ยัดประโยชน์”ให้กับ“คสช.”. .ไม่ยังเห็น“จุรินทร์-ดิ้นพล่าน” ว่าสร้างขึ้นมา“เพื่อประโยชน์ตัวเองเลย”
ยิ่งยามที่เป็น“รัฐบาล”อยู่กับ“พล.อ.ประยุทธ์”ด้วยแล้ว.. ไม่เคยคิดปล่อยแสง “ออกมาเจิดจ้า-เป็นตุ๊กตา”นิ่งเฉย ก็ไม่ปาน
หลักแก้“รัฐธรรมนูญ รายมาตรา” เขาไม่อยากให้มีการ“เหาะเกินลงกา”ตามที่ได้มีกำหนด ถ้าทุกอย่างเป็นตาม“ตัวอักษร-ราษฎร”พร่ำเรียกให้แก้ไขกัน
“พรรคร่วมรัฐบาล-พรรคเพื่อไทย-พรรคประชาชน” เขาอยู่กับชาวบ้าน เมื่อมีการเรียกร้องมา ก็ต้องปฏิบัติตาม ฐานะ “ผู้รับใช้เสียงสวรรค์”
ยุคหนึ่ง “ประชาธิปัตย์”อยู่กับวังวน-คนปฏิวัติ ทำให้หัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ต้องถอนสมอ-ขอออกไป
วันนี้เขาจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อที่“ดับโศก-สิ่งสกปรก”ให้หมดไป มีสิ่งใดที่ไม่ดีล่ะหนอ
ค้านเป็นล่ำเป็นสัน.. “ไม่ฟังเสียงชาวบ้าน”..ท่านคิดว่า มาถูกทางแล้วหรือ??
“กะพรุนไฟ”
