ด่าสร้างกระแส-ถึงแพ้ไง

“สยามเมืองยิ้ม-พิมพ์ใจ”ที่เหือดหายเพราะแสน“อัตคัด” ในมือ“รากหญ้า”ไม่มีเงินจับจ่าย-ใช้สอยกัน

บัดนี้“ท้องอิ่ม-ยิ้มกันออก” เพราะเงิน“10,000 บาท” จากนโยบาย“ดิจิตอลวอลเล็ต” ก๊อก ๒ -วันที่ ๒ ไหลสู่บัญชีเบิกจ่าย-ให้เศรษฐกิจขยับ

เมื่อเกิดแรงจาก“พลังกลุ่มเปราะบาง-ปังเช่นนี้” การซื้อขายสินค้าในตลาด พุ่งทะยานเหนือกว่า“พายุหมุน”หลายเท่านัก

ใช้“ความสามัคคี-ดีต่อกัน”ในการสร้างเงิน-สร้างรายได้ ให้“เครื่องยนต์เศรษฐกิจ-ติดเป็นเทอร์โบ” จะ“สร้างงาน-เก็บภาษี”ตามมาในระบบ

นับเป็นเรื่อง“มองการณ์ไกล”จาก“พรรคเพื่อไทย” ที่มีการ“สร้างจุด-ยุทธศาสตร์”ดิจิตอลวอลเลตขึ้นมา ถือว่าเป็นนโยบาย“เรือธง-ส่งตรง” เพื่อสร้างชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ให้ประชาชน“มีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี” ได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ตามเจตจำนงที่แถลงกับสภาฯเอาไว้

ไม่มีการ“ทิ้งขว้าง-วางลง”กันในระหว่างทาง เหมือนกับ“บางพรรค”ที่นโยบาย“โดนใจ-ใช้หาเสียง”….จนคะแนนเสียง“ไหลบ่า-เข้าตาประชาชน”กันได้อย่างรวดเร็ว

“ปลุกเสียง-เปรี้ยงปร้าง” ให้“ท่านผู้แก่-ผู้เฒ่า”ออกจากบ้านมา“หย่อนบัตรใส่คะแนนให้” เพราะเงินเดือนที่มอบให้“ผู้ชรา”เดือนละ “3.000 บาท”นั้น.. เป็น“สิ่งดี”แก่ผู้“ปลดเกษียณ”อยากได้กันทั่วหน้า

ถือเป็น“เสาเอก-สเปก”ที่ถูกใจ“ผู้สูงอายุ”จนเกินบรรยายก็แล้วกัน พอได้“ผู้แทน-คะแนนเข้าวิน”ถูกทักท้วง-ทวงถาม ว่าจะทำกันกี่โมง ก็ชิงปรับตัว เป็น“จิ้งจกเปลี่ยนสี-ตีหัวห่างนโยบาย”

ในเมื่อตรงนี้ นับว่าเป็น“ความคิด-จุดติด”กันมาแล้ว เปรียบไปก็เหมือนกับ“ตอม่อที่แข็งแรง” ไฉนเจอ“ลมปาก-จึงเก็บฉาก”ลงไปดื้อๆ

“ร้อยพันหมื่นนโยบาย”ของ“พรรคเพื่อไทย” ให้ดีเลิศประเสริฐศรีประการใด แต่ยังลบสิ่งที่“ฝังตรึง-หนึ่งเดียวกับนโยบาย” ในการให้“เงินผู้สูงอายุคนละ 3.000 บาทไม่ได้

เพราะนี่เป็น“ยอดน้ำแข็ง-แทงใจ”คนในแผ่นดินกันเป็นอันมากส์

1.เป็นการ“ช่วยปลดเปลื้อง-รายจ่าย” ที่ลูกและหลานจะส่งให้พ่อแม่ ปูย่า ตายาย กันได้เป็นอย่างดี

2.“ช่วยทด-เงินสด”ที่จะจ่ายไปยังบ้านเกิด ที่จะมอบให้กับ“ผู้ให้กำเนิด” นับเป็นการ“เช็คแคร์-ดูแล”จากพรรครุ่นใหม่ที่ดีเยี่ยม

แทนที่จะเอา“รอยแค้น-แน่นอก” ว่าสาดใส่การให้เงิน“10,000 บาท”ตามนโยบาย“ดิจิตอลวอลเล็ต” ว่าจะไม่มีใครได้แม้แต่คนเดียว

นี่ก็ปรากฏเห็นแล้วว่า “เงิน-เดินสู่บัญชี”ผู้เปราะบางและผู้พิการ ตามที่“พรรคเพื่อไทย” และ“พรรคร่วมรัฐบาล”ช่วยกันทำออกมาจนสำเร็จ

หาก“มุ่งเป้า-เฝ้าทำประโยชน์”ให้กับ“ประชาชน”อย่างมั่นคง ไม่น่าจะ“หลงทิศ-หลงทาง” ทำให้แพ้พ่ายการเลือกตั้งมากว่า 10 สนามที่ชิงธง

แม้นจะ“มีข้ออ้าง-กางตำรา” ว่าแต่ละการเลือกตั้ง ทั้ง“สจ.-นายกฯอบจ-และเลือก สส.”นั้น..ทางพรรคถูก“บ้านใหญ่รุม-ทุ่มกำลัง”พรรคจึงแพ้

หากไป“วิเคราะห์-เจาะลึก”กันดูจะเห็นว่า“ประชาชน”เขาไม่“เชื่อน้ำมนต์-พ่นน้ำลาย”ที่ใช้มาในระยะหลัง

เพราะ“ออกจอ-จ้อทีไร” มีแต่“การโจมตี-เสียดสี” ล้วนด้วยคำที่ไม่สร้างสรรค์ ทำให้ประชาชนเขาอยู่ดีกินดีได้ฉันใด

กลยุทธ์ด้วยการ“สร้างอีเว้นต์-ด้วยน้ำลายเหม็นๆ” นานไปก็ย้อนกลับหันมาเล่นงานอย่างทีเห็น

อยากให้“พรรครุ่นใหม่-ที่ไทยทั้งชาติ”เคยเทใจให้ชนะจนเป็น“ที่หนึ่งในแผ่นดิน”มาแล้ว จงสร้าง“นโยบาย-ให้เป็นจริง” ซื้อใจประชาชนอย่างไม่เลิกร้าง

ด่าเอามันส์ เป็น“พ่อค้า-แม่ค้าในตลาด” มันเหมือนกับจะ“ขาดสติ”กันไปหน่อย น่าจะจำเอาไว้

ไม่มีอะไรที่อยู่เหนือ“กฎธรรมชาติ-ยึดหัวหาด”โดยไม่ยุบ-ไม่บุบสลายลงไป “มีเกิด-มีแก่-มีเจ็บ-มีตาย”เป็น“วัฏจักร-ชักนำ”ทุกสิ่งไปหา“เสื่อมดับ”ด้วยกันทั้งนั้น

“พรรคเพื่อไทย”เคยเป็น“ผู้ชนะ-สะสมชัย”กันมานานเกือบจะ ๒๐ ปี..แต่ก็มาถูก“ทลายลง-แหกโค้ง” พ่ายชัยให้กับ “พรรคก้าวไกล” กว่าสิบคะแนนเสียงของมือที่อยู่ในสภาฯ

ถือเป็นการ“ล้มยักษ์-หักปากกาเซียน”กันมาได้ .. ควรที่จะรักษา“มาตรฐาน-นาน”ไปจนถึงเลือกตั้งปี ๒๕๗๐ ถัดจากนี้แค่ “๓ ปี” เท่านั้นเอง

“ไม่นานเกินรอ-สอสอ”ที่ว่าจะได้..”มากกว่าครึ่ง-หนึ่งในสภาฯ”อาจเป็นจริง โดยไม่ต้อง“เข็นครกขึ้นภูเขา”ให้ลำบากเสียด้วย

อะไรที่อยู่นานเกินไป ย่อมที่จะ“เกิดความเสื่อม-เชื่อมไม่ติด”ตามมาเป็นอันดับของความจริงในโลกนี้ทั้งสิ้น

“พรรคประชาชน-จนมุมตัวเอง” เลิกทำด้วยวิธีการ“โจมตี-มีประโยชน์”เกิดขึ้นตรงไหนกัน

จงกลับมาเป็น“พรรครุ่นใหม่-ในใจประชาชน”เหมือนเดิมจะดีกว่า

ด่าสร้างกระแส…”พรรคตัวเองถึงแย่”..แลความจริงตรงนี้กันหน่อย แล้วจะได้ชัยตามมาดังที่ประชาชนเขาหวังเอาไว้

“กะพรุนไฟ”