23 ตุลาคม 2024

“ตาแดงกล่ำ-ทำใจไม่ได้” เมื่อประชาชน“กลุ่มเปราะบาง” และ“กลุ่มคนพิการ” พากัน“น้ำตาร่วง-พวงความดี”ปลาบปลื้มใน“รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”

เหมือนไป“เหยียบป้อม-ต่อมอิจฉา”ของ“เทพไท เสนพงศ์” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สอบตกในดินแดน“ไอ้ไข่-ใจขวัญ”ชาวนครศรีฯ

หัสเดิม-เริ่มที่ “ปักษ์ใต้บ้านเรา”เป็นเมืองหลวงอันแท้จริง ของ“สถาบันการเมือง”เช่น“พรรคประชาธิปัตย์”

ถึงกับคุยข้ามอ่าวไทย-ไปยังอันดามัน ว่า“๑๔ จังหวัดแดนสะตอ” เอา“เสาไฟฟ้า”ลงสมัคร ก็ได้เป็น“สส.”ผู้แทนไม่ยากเย็น

เพราะ“หลงในอดีต-คิดพัฒนา?” จึงทำให้“ประชาธิปัตย์”พ่ายหูรูด-ถอยกรูดกันอย่างไม่เป็นท่า

“เทพไท” ท่านอีกก็เช่นกัน..แพ้เลือกตั้งพรรษาให้กับ“คนบวชใหม่” ไม่ได้เป็นผู้แทน-แฟนๆ หันหลังให้อย่างไม่เหลียวแล

เกิดจาก“ศรัทธาตก-หกระเหิน” เพราะใช้กลยุทธ์“เอาดีใส่ตัว-เอาชั่วให้คนอื่นหรือไม่” อันนี้ไม่ทราบจริง ๆ

ไม่มีใคร“ชนะถาวร-แน่นอน” ต้องเกิดการพ่ายแพ้ เป็นของ“คู่กัน”

เมื่อ“พ่าย-ปราศรัย”อย่างไม่เป็นกระบวน ควรคิดจะ“ปรับปรุงแก้ไข-ได้ใจประชาชน”ถึงจะถูก แต่“ก็เปล่า-ออกข่าว”เพื่อโจมตีพรรคคู่แข่ง “จนฝังลึก-ตกผนึกลึกอยู่ในใจ ใช่ไม่ได้หรอกคุณ

ยามใดที่ “ออกหน้าจอ-ด่าทอ”พรรคเพื่อไทย “ทักษิณ ชินวัตร” และ“นายกฯอุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร เหมือนเป็นอาหารเช้า-ที่เขาถนัด

น่าเอาเวลา“อันมีค่าของชีวิต-ผลิตสิ่งดีๆ” เพื่อ“สร้างฐานเสียง-ให้ไหลเอียง” กลับมาอยู่กับ“ศรัทธาตนเอง” น่าจะดีกว่า

เพราะคิดมองเห็น“คนอื่นเป็นศัตรู-แสนหดหู่”เหี่ยวแห้งในหัวใจจริงๆ

“คนใต้-หัวไบร์ท” อีกทั้งยัง“สมองไว” เขาพากันรับรู้“ข่าวสาร”กันอย่างเที่ยงตรง ว่า “10,000 บาท” เงิน“ดิจิตอลวอลเล็ต” เป็น“หยาดเหงื่อภาษี-ที่เขาจ่ายให้รัฐ” เขารู้“ซึมซับ”กันทุกขั้นตอน ยิ่งกว่าลายนิ้วมือตัวเองเสียอีก

จำเป็นหรือ?.. ที่จะต้องมา“กระพือโหม-โจมตี”เขาเช่นนั้น

เพราะผู้บริหารรัฐบาล-ทำงาน ต้องสร้างสรรค์“ภาษีทุกบาท-ทุกสตางค์” ลงไปยังมือของประชาชนให้เร็วที่สุด ถึงจะเป็นการดี

ซึ่งเขาต่างรู้“ถ่องแท้-แต่ต้นแล้ว” ว่าเงิน“10,000 บาท”เป็นภาษีของประชาชน ทั้ง“67 ล้านคน”ที่นำมาแจกให้กัน ไม่ใช่เงิน“ทักษิณ ชินวัตร” หรือเงินในสมบัติพัสถานของ“นายกฯแพทองธาร” ที่“ล้วงลัก-ควักจ่าย”เสียหน่อย

เมื่อ“ภาษีแผ่นดิน”ทำให้“ประชาชนมีกิน” ด้วยทรัพย์สินนี้จะมา“ค่อนขอด” ด่าเขา“ฉอดๆ“อยู่ทำไมกัน

ดีกว่านำไป“ละเลง-ครื้นเครง” ให้แต่“นักการเมือง” และ“สส.”เหมือนกันที่ผ่านมาในอดีต เพราะเป็นการ“ล้างผลาญ-บ้านเมือง” สิ้นเปลื้องกันมานานแล้ว

“พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ทรงได้ตรัสเอาไว้ “เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด”

ผู้ที่“หยุดอิจฉา-ตาไม่แดง” ย่อมเข้าถึงพระธรรม และสามารถบรรลุถึงฝั่ง“แห่งตาสว่าง” จนสำเร็จเป็น“พระอรหันต์” กันได้

เห็นแล้วว่า “การหยุด-ผุดสิ่งดี“ ให้ตามนี้จะมีสิ่งดีงาม-ตามมาเสมอ เหมือนเช่น “องคุลีมาล” บันดาลผลสำเร็จ ก้าวสู่ห้วงการเป็น“พระอรหันต์”ได้ไม่ยากเย็น

ถามสักคำ “ใจที่เจ็บแค้น-แน่นความชิงชัง” ทำให้“เทพไท”มีความสุขจริงหรือ?

“ปล่อยวาง-ห่างความเกลียดบ้าง” น่าจะเป็นคุณแก่ชีวิตในช่วงท้ายที่ยังยืนหยัดอยู่ในโลกนี้ ควรคิดที่จะ“แย่ง-แข่งทำความดี” สู้กับ“พรรคเพื่อไทย”ตาม“ปณิธานแห่งตนเอง” จะไม่ดีกว่าหรือกระไร

ทำความดีกันมากๆ ความทุกข์ยากก็จะ“ถูกดับ-ลับสูญ”ไปจากแผ่นดินไทย

จ้องแต่จะ“ฟาดฟัน-แดกดัน”กันตะพึด-ตะพือกันอยู่เช่นนี้ ก็ไม่ได้เป็นการ“สร้างตัวตน-หนทาง” แจ้งเกิดให้กับ“คุณเทพไท” ในยามที่ไม่มีเส้นทาง“ช้างเผือก”ให้เลือก

“นำเวลาอันมีค่า-หาประโยชน์” คิดทำเพื่อประชาชนนั่นแหละ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็น“นักการเมืองที่รักชาวบ้าน”

อย่าลืมเสียว่า “พรรคประชาธิปัตย์” อดีตเก่าที่ท่านเคยสังกัด-มัดใจอยู่ด้วยกันมานั้น เป็น“รัฐบาลมาเนิ่นนาน-แต่ชาวบ้านไม่เทใจให้” ต้องย้อนกลับหันไปดูกันเสียให้ทะลุปรุโปร่ง

เพราะ“ประชาธิปัตย์” เป็นรัฐบาลก่อน-ตอนนั้น “ทักษิณ”ยังเพิ่งตั้งไข่ “พรรคไทยรักไทย”เพิ่งเข้ามา

อดีตนายกฯหลายท่าน ล้วนเป็นที่นิยม-ชมชื่นอย่างแรงในสายตา คอการเมืองประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น“ท่านชวน หลีกภัย-ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แสนที่จะโดดเด่น-เป็นประโยชน์ในการทำงานการเมืองเพื่อพรรค ด้วยกันทั้งนั้น

แต่“ที่เจาะ-เลาะตะเข็บ” ไม่ได้เข้า“ไปอยู่ในใจประชาชน” ท่านน่าจะรู้ดี…

โปรดหยุดเป็นอริ-ดีมีประโยชน์แก่“คุณเทพไท”มากกว่า..

ถึงเวลาควรหยุดได้แล้ว…“ทำปากแจ๋วๆ” แววแห่งการเป็น“นักการเมืองของประชาชน” ก็ลับหายไปทุกวัน

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *