ผนึกกันติด-เป็นมิตรได้ไหม

“ภัยร้าย-ไฟรถบัส” ที่นำความสูญเสียไปยังชีวิตน้อยๆ ๒๐ คน พร้อมกับ“คุณครู”อีก ๓ ท่าน.. เป็นเรื่องใหญ่หลวง-หน่วงหนักแก่คนทั้งแผ่นดินเป็นอย่างมากส์

เป็นการ“เสียต้นอ่อน-ตอนยังเล็ก” อันไม่น่าเกิดขึ้นกับ“ภัยท้องถนน”เช่นนี้…

คราใดที่มีเหตุการณ์“มากระทบ-ประสบเข้า” ทั้งผู้น้อย-ผู้ใหญ่ จะหันมา“สามัคคี-มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” เป็น“ต้นกำเนิด-เกิดขึ้นเสมอ”ที่“คนไทยเรา”จะหันหน้ามาคลี่คลายปัญหากันอย่าง“เป็นทิศทางเดียวกัน”

“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงความสูญเสียต่อเกิดการณ์นี้กันอย่างทันที เพื่อหา “บทสรุป-ลูปแห่งเหตุการณ์” ว่าเกิด“ยางระเบิดหรือไม่ ยางระเบิดได้อย่างไร มีการซ่อมบำรุงรถหรือไม่”

ที่สำคัญ “ประตูฉุกเฉินถึงเปิดไม่ได้” เป็นรถ“ทัศนาจร-ขั้นตอน”ความปลอดภัยต้องสูง

ซึ่ง “สส.วิโรจน์” ตั้งข้อสังเกต-เหตุมหาภัย”ของ“รถบัสเด็กอนุบาล” มีการตรวจ“ด้านวิศวกรรม”กันบ้างหรือเปล่า

“การตรวจสอบ-กรอบความปลอดภัยนี้” เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็น สามารถตรวจสอบกันได้ ขึ้นอยู่กับว่า“เอาจริง-เอาจัง” เพื่อให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายกันหรือเปล่า

“ใครจะว่าวัวหายล้อมคอก-ขอบอกว่าจะต้องทำ” เพื่อให้เรื่องนี้ “เกิดความปลอดภัยแน่นหนา-ไม่ให้เด็กอันเป็นแก้วตา” จะต้องมาเจอะเจอกับเหตุการณ์อันแสนเศร้าสลดในครั้งนี้

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเป็นอีก“หนึ่งแรงใจ-แสดงความอาลัย”ต่อการสูญเสียเด็กน้อย และครู ๓ท่าน

“แสดงตรรกะ”แห่งความเป็นห่วง-เป็นใยในเรื่องนี้กันอย่างเต็มกำลัง ว่า..“พรรคพลังประชารัฐ จะผลักดันมาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้อีก”

“..เพราะเยาวชนถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ จึงต้องดูแลคุณภาพชีวิตของพวกเขาด้วย”

เป็น“ความรับผิดชอบ” ในฐานะที่“พล.อ.ประวิตร”เป็นฝ่ายค้านที่ช่วยเหลือ“ประชาชน” พร้อมกับ“ครอบครัวที่สูญเสีย”อย่างจริงใจ

“รัฐบาล”ก็เร่งรีบ-แอคทีฟ ความช่วยเหลือกันอย่าง“เต็มกำลัง-สะพรั่งพร้อม”ได้อย่างน่าชื่นชม

“นายกฯอุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หลั่งน้ำตาในฐานะ“แม่ลูก ๒” ที่อยู่วัยใกล้เคียงกับ“๒๐ ชีวิต”ที่ได้จากไป แสดงความสามารถ“ล้นปรี่-มีคุณภาพ”..รุดไปยังโรงพยาบาลที่ดูแล“หนูน้อยวัยยังไร้เรียงสา” ร่วมกับ“พ่อแม่-ผู้ปกครอง”ที่เดินทางมาถึง

พร้อมกับ“คุณอนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ฐานะรองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ไปกันเพื่อดูแลความรับผิดชอบไม่ตกหล่น

“ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย พื้นที่โรงเรียนอนุบาลที่เกิดเหตุการณ์อันใหญ่หลวง เฝ้าติดตามเหตุการณ์ไม่ห่าง “รัฐมนตรีดีดา” ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ แห่งมหาดไทย บุตรสาวคนที่ ๒ ของ“คุณชาดา” มาอำนวยความสะดวกช่วยเด็กและคนเจ็บเต็มกำลัง

พร้อมทั้งร่วมเดินทาง นำ“หนูน้อย-กลอยใจ”คืนกลับสู่อ้อมอกของคุณพ่อ-คุณแม่ ได้เป็นอย่างดี

“ไทยเรานั้น”มีความกลมกลืน ที่จะเป็น“ดวงอาทิตย-ดวงจันทร์” เสมือนหนึ่งเป็นดวงเดียวกันได้เสมอ แต่จะมา“ผนึกกำลังกันติด-เป็นน้ำมิตรกันได้” ก็ต้องเมื่อ“เกิดเหตุอันไม่คาดคิด”

แต่ในฐานะที่ท่านเหล่านี้เป็น“นักการเมือง” ถึงจะอยู่กัน“คนละซีก-ปีกกันคนละทาง” แต่ก็เป็นผู้ที่“รับใช้ประชาชน” เหมือนกันถึงจะถูก

วันนี้ไม่สมควรที่จะ“เล่นบทแรง-แย่งชิงอำนาจ”…ใครที่ได้เสียงอันชอบธรรมจาก“สภาผู้แทนราษฎร” เป็นเสียงข้างมาก ก็ให้เขา“บริหารชาติ-ใช้อำนาจ”เพื่อประชาชนกันอย่างเต็มที่

ใครที่เป็น“ฝ่ายค้าน” ต้องมีหลักฐาน“น้ำหนักให้เชื่อ-ว่าเป็นผู้คัดหางเสือ” ไม่ให้“รัฐบาล”กลายเป็นผู้เถลิงอำนาจหลงฝูง ถูกต้องแล้ว

ทุกคน“ต่างทำหน้าที่-มีประโยชน์” ด้วยความรับผิดชอบให้เต็มสูตรครบเทอมด้วยกันทุกฝ่าย ไม่ใช่“เที่ยวฟัด-กัดไม่ปล่อย”เอากับรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง จนทำให้“เสียเวล่ำ-เสียเวลา”โอกาสที่“รัฐบาล”จะทำให้กับ“ชาติและประชาชน”เสียไปอย่างไม่จำเป็น

ไม่ว่า“พรรคใด” จะก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาล-ผ่านมา ๔ ปี แล้วค่อยมาเลือกตั้งกันใหม่ เพื่อหา“พรรคที่ถูกใจ-คนไทย”ให้การสนับสนุนขึ้นมาเป็น“ประมุขตึกไทยคู่ฟ้า” เราจะได้เศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ประชาชนกินดี-อยู่ดี

ไม่ใช่หาหนทาง“แทงข้างหลัง-หวังเป็นรัฐบาล”กันอย่างไม่ลืมหู-ลืมตา

อยากเห็น“ไทยเป็นไทย” โดยไม่ต้องมี“ภัย-อันตรายใด” มารวมศูนย์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนกับ“รถบัสที่เกิดขึ้น”ในครั้งนี้

เล่นการเมืองตามกติกา…“ชาติไทยถึงจะก้าวหน้า”..นี่ดีแต่เข่นฆ่าปัญหาทุกเรื่อง อาจเกิดขึ้นเหมือน“รถบัสเด็กอนุบาล”อีกก็ได้

“กะพรุนไฟ”