รวมพลัง-อย่าพังรัฐบาล
“นารีขี่ม้าขาว-เข้าตา ไทม์อย่างแรง” นิตยสารก้องโลก ยกให้ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ผ่านวัยวันเกิด ๓๘ ฤดูฝน มาได้ไม่กี่มื้อ เป็น “นายกรัฐมนตรีหญิง” ที่อายุน้อยที่สุดในเอเชียที่เคยมีมา
ติดโผของ“TIME 100 NEXT” ขึ้นแท่น“ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต”
“เหยี่ยวข่าว-ตาน้ำข้าว” ยกให้“แพทองธาร”เป็นผู้ที่มีคุณภาพคับแก้ว เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาให้“ประชาชนอยู่ดี-กินดี”
ขณะที่“อีแร้งข่าวไทย-ไยถึงได้มองข้าม” เร่งกันอย่าง“รุ่มร่าม-หาม” เพื่อเอา“แพทองธาร”ลงจากตำแหน่งให้ได้
เหมือนจะมี“ชิพ-คลิปฝังหัว” แยกคนดีทำงานเพื่อชาติไม่เป็น พอมีนามสกุล“ชินวัตร-จัดเต็ม” ออกเทียบเชิญ“กองทัพฟันปลอม”ล่วงหน้า เพื่อ“ขับไล่”กันเสียตั้งแต่ไก่โห่
หากเป็นคนที่“เคารพบูชาอาจารย์”กันจริง..คงไม่ไล่“ผู้หญิง-แม่ลูกอ่อน ๒ คน” หยั่งกับ“แพทองธาร”กันอย่างไม่ดูตาม้า-ตาเรือกันดอก
ทั้งที่ “หลวงพ่อฤษีลิงดำ” ทำนายไว้อย่างเนิ่นนาน
“ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันพุ่งผุดขึ้นมาจนเห็นค่า พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาชนเต็มพระนคร”
นับไม่กี่สัปดาห์ “นายกฯแพทองธาร”ทำให้เห็นแล้วว่า ไทยเราเป็นอาณาจักร“ที่รุ่งเรือง-เมืองที่เจริญก้าวหน้า”
“ความอิ่มหนำ-ร่ำรวย”ก็เริ่มคืบคลานกลับมาให้เห็น แสงแห่งความเรืองรอง“ถูกปลุก-ลุกขึ้นทั้งแผ่นดิน” ด้วยนโยบายที่“ผู้เฒ่าหลังยาว-สร้างข่าว”ไม่เห็นด้วยกับการ“แจกดิจิตอลวอลเล็ม 10,000 บาท”
เต็มกระเป๋าเงิน-สร้างเศรษฐกิจเจริญ กลับขึ้นมาอย่างทันตาเห็น
เอา“ส่วนน้อย-ด้อยค่า”ออกมาโจมตี “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”แจกเงินกันอย่าง“ไร้ค่า-ให้ร่ำสุรา”กันอย่างครื้นเครง
ซึ่งมาจากข่าว“ทีวีโทรทัศน์”และ“วิทยุ” ที่สังกัดอยู่กับ“กองทัพ-ขยับเรื่องเท็จ”ออกมาโจมตีรัฐบาลอย่างไร้สติ-ตีกันอย่างขาดปัญญา ยิ่งนัก
ได้ตำแหน่งมาอย่างถูกต้อง-จำต้องเรียกร้อง ไปยัง“พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” ผู้บัญชาการทหารบกป้ายแดง กวดขัน“พิธีกร”ล้ำเส้นด้วย
อยากเห็นท่าน“ตรวจสอบ-หาผู้รับชอบ” ในการโหม-ประโคมข่าวกันอย่าง“สนุกปาก” เมื่อเอา“เรื่องเท็จมาโวลั่น-ปล่อยให้มันทำหน้าที่”อยู่ในสังกัดหน่วยงาน“กองทัพ”กันได้อย่างไร
“ปลาเน่า-ต้องเอาออกให้หมด” ให้มี“พิธีกร” หรือว่า“โฆษก”ที่พูดแต่ละความจริง-ไม่ชิงสุนัขเกิด ด้วยความเท็จกันเช่นนี้
“แสงแห่งความสำเร็จ”ได้เจิดจ้า กระทั่ง“ไทม์”ยังมองเห็นในตัว“แพทองธาร” จนยกให้เป็น“ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต”
แต่ “เหยี่ยวเฒ่า”แห่งบ้านทินกรดวงตะวันตกน้ำ ถึงมา“ขีดเส้นตาย” สร้างแรงสั่นสะเทือนโดยไม่จำเป็น
ยื่นโนตีส-คิดได้อย่าไรกัน ถึงได้เที่ยวบอกกับ“กลุ่มหญิงชาย” ที่เป็นเหมือนกับ“ยาหมดอายุ”จะเดินทัพลงสู่พื้นคอนกรีต
ถ้ามา“ทวงคดี-ที่ตั้งใจบอกนั้น” ทำไมผ่านมากันเป็นสิบๆ ปี ถึงเงียบฉี่-ไม่มีปากพูดออกมาเล่า
ยิ่งการ“ออกมาเต้น-เล่นรัฐบาล” ในเรื่อง“ฝูงชนเมียนมาร์” ที่แสดงออกมาถึงความเป็น“ชาตินิยม”กันอย่างเต็มที่
ในช่วง“ปฏิวัติ คสช” และต่อท่ออำนาจมายัง“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”อีกสมัย ทำไม่ถึงไม่ออกมา“กรีฑาทัพ-ขยับเท้าออกมาเดิน”ขย่มเหมือนวันนี้…
“รัฐบาลเพื่อไทย” ที่แตะมือนายกรัฐมนตรีกันมา ๒ คน จาก “เศรษฐา ทวีสิน” มายัง “แพทองธาร ชินวัตร” ก็จับคุม-กลุ่มชนพม่า เป็นที่ถูกใจแก่ประชาชนทั้งหลายกันเป็นอันมากส์
เขาไม่ได้มีความ“บกพร่อง-หมองไหม้”ในการใช้อำนาจแต่ประการใด “ปัญหาแรงงาน”เขาก็แก้ไขกัน อย่างเต็มที่-มิได้ขาดตกหกคะเมนแต่ประการใด ทุกคนล้วนแต่“มุ่งหน้า-สรรหา”ทำหน้าที่กันอย่างไม่ข้ามเส้น
“ติเตียน-เรียนมา” ทางรัฐบาล“แพทองธาร”พร้อมที่จะพูดคุย-อย่ามาลุยในยามที่บ้านเมืองตกสะเก็ด กำลังเช็ดถูให้ทุกอย่างดีขึ้น
“อย่ามีงาน-ถล่มรัฐบาล” กันแค่นั้นก็เป็นพอ
และอย่าให้มีเสียงอื้ออึง-อลึ่งฉึ่งออกมาว่า มีใครบางคนจาก“ป่าดง-พงไพร” เข้ามาเจี๊ยะเต้ดื่มกาแฟ-น้ำชา ในบ้านทินกรแห่งแสงสว่างเชียวนะ
ซึ่งเขาพูดกัน“เอ็นจอย-เป็นสาวกเหลืองอ๋อย”ที่เคยร่วมกันมาในอดีต
การที่จะ“มีมิตร-มีเพื่อน” เป็นสิ่งธรรมดาของโลก ในการคบค้า-สมาคมกัน
แต่อย่าให้มารวมพลัง- “มุ่งหน้าให้รัฐบาลพัง” ฝังประเทศอีกแบบนั้น มันไม่ไหวจริงๆ
“กะพรุนไฟ”
