เหลิงมาก-ยากที่ใครจะรับ

“จุดอ่อนของกลุ่มอีลิท คิดว่าตัวเองมีอำนาจล้นเหลือ” ตลอดเวลา มักได้“สิ่งต้อง-ของประสงค์”กันตลอดเวลา ได้“จนเหลิง-บันเทิงใจ”กันมาทุกเรื่อง

แม้นว่าใครไม่เห็นด้วย ออกมา“ขัดขวาง” เขาก็ย่อมที่จะ“ย่างสามขุม”กันด้วยความลำพอง

“ยึดทำเนียบ-เหยียบสนามบิน”ก็ทำมาแล้ว จนเป็นที่เศร้าหัวใจของคนที่“รักความยุติธรรม” ถ้าเป็นแผ่นดินอื่น รับประกันซ่อมฟรีว่า“ไร้ที่ยืน” ติดคุก-รับทุกข์กับการกระทำนี้ทุกประการ

ด้วยความ“ย่ามใจ”กันอย่างนี้นี่แหละ..แผ่นดินไทย“จึงแตก-แยกสามัคคี”กันมาหลายทศวรรษแล้ว

ขนาดคนที่“ประณาม-หยามเหยียด” ว่า“นักการเมือง”บ่มิไก๊ ยัง“มองฤทธิ์-ความคิดอีลิท เหล่านี้”เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ

เขาออกมา“ถลุง-กระทุ้ง”ฝ่ายอีลิท-ที่คิดเป็นใหญ่ โดยไม่ผ่าน“การเลือกตั้ง” ด้วยการชำแหละ-เรียกแผลได้อย่างหนำใจ

คิดออกมาได้อย่างไร ที่จะเอา“คนนอกสายตา” ที่ไม่อยู่บน“เส้นทางประชาธิปไตย” ให้มาเป็น“ม้าสอดแทรก-แหกด่าน”เป็น“นายกรัฐมนตรี”

จนหลายคนเขาเซ็งมะก้องด้อง กับ“ความโหลยโท่ย”ของอีลิทชนชั้นสูง ที่คิดว่า“มีเงิน” กลุ่มของตัวเองต้องใหญ่สุด ในแผ่นดิน

เนื่องด้วย“พฤติการณ์-สะท้านทรวง” ล้วงอำนาจโดยไม่เห็น“หัวประชาชน”กันเยี่ยงนี้ จึงไม่มีแล้ว “การก้มหัว-กลัวชาวอีลิท”.. ในเมื่อคุณก็“มีหนึ่งเสียง” ทางเขาก็มี“หนึ่งเสียง”เหมือนกัน

จะมา“อวดเดช-อวดศักดา” เกินหน้าชาวประชา ผู้เป็นรากหญ้ามันก็มากเกินไป

ขนาด“หลงตัว-หัวโง”กันไม่ขึ้น วันๆสร้างแต่“วาทะกรรม-ตำบอน”กันออกมาแล้วว่า คนหนึ่งแสนที่อัดแน่นความรู้ความสามารถ “มีคุณค่า-ล้ำหน้า” มากกว่าชาวรากหญ้าทั้งแผ่นดิน

นี่เป็นการพูดให้“ชาติแตกแยก-แหกกฎ” ในเรื่อง“ความสามัคคี”กันเป็นอันมากส์ และนี่ยังเห็นพฤติการณ์-บานทะโร่ ของ“ชาวอีลิท”ที่ทำกันมาอย่าง“จำเจ”โดยไม่รู้เบื่อเสียด้วยล่ะ

ยามนี้มีอีลิทบางคน เชียร์“คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย..เชียร์อย่าง“ไร้หัวใจ” ขาดคุณธรรมไปรึป่าว

คิดออกมาได้อย่างไร ว่า“ท่านผู้ว่าฯแบงก์ชาติ”ดีเหลือประมาณ-ทำงานครบคุณภาพ ให้กับชาติเกินหมื่นเปอร์เซ็นต์

หูหนวกตาบอด-กกกอดความเป็น“มนุษย์ชั้นสูง” ที่มี“ชาวอีลิท”ที่มีเหลือแค่กระหยิมมือของคนไทย ๖๗ ล้านคนทั่วประเทศมากไปแล้วนะ

“ประเทศไทย”เป็นเมืองระดับหนึ่งของโลก ที่มี“รายได้มหาศาล”มาจาก“การท่องเที่ยว” พลเมืองนักเที่ยว-เกี่ยวก้อยกันมาดื่มด้ำ-ฉ่ำหัวใจกับแผ่นดินที่ฉ่ำปอด ไร้สารพิษ-มลพิษ สร้างความสุขใจให้ทั้งทะเล และภูเขาที่ได้ไป..

เขาเข้ามา เที่ยวทั่วไทย”ไม่ได้เดินเข้ามาตัวเปล่า-เล่าเปลือย แต่นำสกุลเงินตราจากทุกเมืองเข้ามา ในการจับจ่าย-ใช้สอย กันอย่างเต็มที่

“กระตุ้น-หนุนเศรษฐกิจไทย”ให้เฟื่องฟู ประชาชนมีอยู่มีกินกันอย่างมีระดับใครก็เห็นกันอยู่

แต่เชื่อไหม?..ท่านสาธุชนพุทธบริษัท เจ้าข้าเอ๋ย “คุณเศรษฐพุฒิ” ค้าน-ดันทุรัง ไม่สนับสนุน“การท่องเที่ยวไทย”

ทั้งที่เป็นหนทาง“เลี้ยงปาก-เลี้ยงท้อง” พี่น้องคนไทยให้มีกินกันนับหลายล้านครอบครัว

เหตุที่“ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” ไม่“อีนัง-ขังขอบ” ไม่ชอบ“นโยบายการท่องเที่ยว” ที่“อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ปลุกปล้ำ-ทำขึ้นมาจนเดินทางได้

โดยมี “รัฐบาลอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามา“รับช่วง-ทำงานใหญ่หลวงนี้”จนก้าวหน้า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาล้นประเทศ

เหมือนกับวันที่“ประเทศไทย”ของเรามีรายได้ ในการเลี้ยงประชากรได้อย่างผาสุก ..ก่อนที่“กลุ่มอีลิท”หนุนทหารออกมา“ปฏิวัติ”

นอกจาก“การท่องเที่ยว” ที่เลี้ยงพลเมืองของชาติ ทำให้“จีดีพี”มูลค่าของประเทศสูงขึ้น ทันเพื่อนบ้านแล้ว..“คุณเศรษฐพุฒิ” ยัง“ขวาง-ปิดหนทาง”การส่งออกอีกด้วย

เราเป็นเสมือน“ครัวโลก” เป็น“ห้องอาหารเลี้ยงโลกขนาดใหญ่” และยังทำการ“ผลิตสินค้า” ส่งออกไปจากประเทศ โกยเงินเข้ามา…

แต่ทำไม-ไฉนหรือ? “คุณเศรษฐพุฒิ” ถึง“ออกมาตบ-รบเร้า” ให้มีการ“ตัดการส่งออก-เศรษฐกิจเราไม่น็อก”จนตรอกได้อย่างไรกัน

ที่ “ผู้ว่าฯเศรษฐพุฒิ”ไม่กระทบ-กระเทือน เพราะ“ฟาดเงินเดือน”ที่อยู่ในตำแหน่ง“เป็นล้านๆ” รับประทานกันชาตินี้ยันชาติหน้าก็ยังสบาย

ถ้าคนไทยมีรายได้“ต่อหัว-ต่อคน” รวยเหลือล้น-ทนเหลือหลายเหมือน“คุณเศรษฐพุฒิ” เราไม่ต้องง้อการท่องเที่ยว-ส่งออก ก็ไม่ได้ก็ย่อมได้

แต่“คนไทย”หม่ำกินเงินรายวัน แค่“๓-๔๐๐ บาท”เท่านั้น.. เรียกกว่า“เลี้ยงตัวยังไม่รอด” ไม่ต้องพูดถึง“ครอบครัว”ที่แทบไม่ไม่แดร็ก

“ชาวอีลิท-ติดใจ” คิดให้“คุณเศรษฐพุฒิ” เป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติที่มีผลงานประทับใจจ๊อดเป็นอย่างดี

แต่กับคนไทยทั้งหลาย…วันๆเขาอยากไล่…ให้ออกไป เพราะวันที่ไม่มี“เศรษฐพุฒิ” เขารวยสำราญใจกันทุกคน

“กะพรุนไฟ”