‘The Icon’ ยอมแพ้จริง หรือแค่เกม? EP1

ดู พอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ออกรายการโหนกระแส เหมือนกับ ดูซีรีย์เกาหลี เลยจริงๆ

อาการที่ออกตอนแรกเหมือนรู้สำนึก เหมือนพ่ายแพ้ เปิดซีนด้วยน้ำตาน้องหน้า ประกาศว่าผมแพ้แล้ว แต่แปลกๆ ตรงที่บอกว่าไม่รู้ว่าสู้กับอะไร

มาเฉลย ตอนเดี่ยวไมโครโฟน กับ หนุ่ม กรรชัย คำตอบที่ได้กลายเป็น ไม่รู้ ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น

บริษัทเปิดให้ซื้อสินค้าได้ตั้งแต่ 2,500 บาท แล้วขยับเพิ่มเป็น 25,000 บาท หรือไปถึงขั้น 250,000 รวมทั้งสูงกว่า250,000 ก็ได้ แล้วแต่ใครจะซื้อสินค้า

ตลอดเวลาคือร้องไห้ หน้าเศร้า โอดครวญ จะเป็นลม สุดยอดซีรี่ย์จริงๆ

ซีรี่ย์เกาหลีที่ว่าแน่ๆ ที่เคยดูๆกันนั้น ถ้าไม่ใช่ตอนอวสาน สังเกตไหมว่าเวลาตัวผู้ร้าย ถูกอัยการ หรือถูกตำรวจซักถาม ก็จะออกอาการเหมือนพ่ายแพ้แล้ว ยอมแพ้แล้ว แต่พอถึงเวลา ก็จะพลิกเกมกับทุกครั้ง

จนถึงตอนจบนั่นแหละ ผู้ร้ายในซีรี่ย์เกาหลีถึงจะยอมจำนน เดินคอตกเข้าคุก

ไม่รู้ว่าเรื่องของ The Icon กับ พอล จะจบแบบซีรีส์เกาหลีหรือไม่

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญ คือ พอล พูดชัดเจนว่าธุรกิจออนไลน์ไม่ได้เหมาะกับทุกคน มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ หรือสำเร็จบ้างปางกลาง และที่ล้มเหลวไม่สำเร็จเลย

ปัญหาคือ เมื่อรู้ความจริงเช่นนั้นอยู่แก่ใจแล้ว ได้บอกความจริงนั้นให้กับบรรดาผู้สมัครสมาชิกทั้งหลายได้รู้ความจริงข้อนี้หรือไม่

เพราะคลิปที่เห็น ที่ปรากฏออกมา มีแต่การกระตุ้น เชิญชวนให้เป็นสมาชิกด้วยการการันตีว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอนทั้งนั้น

น่าคิดว่าคำเชิญชวนของทั้งพอล และบรรดาดาราที่กินเงินเดือนจากพอล จะเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงให้สมัครสมาชิก ให้จ่ายเงินเลื่อนระดับตัวเองด้วยเงินหลักแสนหลักล้าน หรือไม่?

ยิ่งหาก พอล อ้างว่าไม่เข้าใจ อ้างว่าไม่รู้ว่าทำผิดอะไร อ้างว่าธุรกิจของ The Icon เป็นธุรกิจซื้อมาขายไป ตรงนี้แหละจะเป็นดิจิตอลฟุตปริ้น ที่ระวังว่าจะมัดตัวเองในอนาคต

เพราะยอดขายที่อ้างว่าเป็นรายได้ของบริษัทนั้น ชัดเจนว่ามาจากการให้เปิดบิล การให้ขยับเกรด จาก 2,500 บาท เป็น 25,000 บาท เป็นหลายๆแสนบาทนั้น นี่คือการขายสินค้าอย่างตรงไปตรงมาอย่างนั้นหรือ

มั่นใจจริงหรือว่าเป็นการขายสินค้าตรงๆให้กับประชาชน ไม่ใช่การขายสินค้าให้กับสมาชิกที่ฝากความหวังเหล่านั้น เอาสินค้าไปถือไว้แทน ขายได้ขายไม่ได้ ไม่รู้

นี่คือการสร้างยอดขายสินค้าตามปกติของกันค้าทั่วไปเช่นนั้นหรือ?

ระหว่างยอดขายที่มาจากสมาชิกมาจากการสร้างดาวไลน์ กับยอดขายที่เกิดจากผู้บริโภคโดยตรงจริงๆนั้น ถามว่า พอล ไม่รู้จริงๆหรือว่าแตกต่างกันอย่างไร

แต่ที่แน่ๆวันนี้ บรรดาคนที่ออกมาร้องเรียนหลายร้อยคน พูดตรงกันหมดว่าที่ยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าเพื่อเลื่อนชั้น เพื่อขยับฐานะ ในขณะที่สินค้าที่ได้มานั้น มีทั้งกองอยู่เต็มบ้าน และมีทั้งที่บริษัทอ้างว่าเก็บไว้ให้ในคลังสินค้า ซึ่งสินค้าเหล่านั้นขายไม่ออก ต้องเอาไปกินเองบ้าง เอาไปแจกบ้าง

วันนี้เส้นทางการตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นธุรกิจหลอกลวง สร้างความหวังให้คนเข้าไปเป็นสมาชิก ให้ความหวังว่า คนที่เป็นดาวไลน์จะพ้นความยากจนพ้นความเดือดร้อน คนกลุ่มนี้ คือ ลูกค้าหลักของ The Icon ใช่หรือไม่?

เส้นทางรายได้ของ The Icon ตรวจสอบได้ไม่ยาก ผลิตสินค้าออกมาเท่าไหร่ ขายได้จริงเท่าไหร่ ขายให้ใคร ไม่ยากเกินจะตรวจสอบ

หากจะตรวจสอบกันจริงๆ

ภูวนารถ ณ สงขลา