23 ตุลาคม 2024

การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ 75 ปี ความสำเร็จในการพัฒนาประเทศที่น่าชื่นชม

0

วันที่ 1 ตุลาคม ถือเป็นวันชาติจีน และสำหรับในปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 75 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีการสถาปนาประเทศเมื่อปี ค.ศ.1949 บนเส้นทางการพัฒนาประเทศตลอด 75 ปีที่ผ่านมา จีนสามารถพัฒนาประเทศจากเดิมที่อยู่ในสภาพยากจนและล้าหลังทุกด้าน ให้กลายมาเป็นประเทศที่พ้นความยากจน มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองของโลก โดยที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งธุรกิจการค้า ตลอดจนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศล้วนเป็นที่ 1 ของโลก จนมีการคาดการณ์กันว่าในอนาคตเศรษฐกิจจีนจะเป็นอันดับ 1 ของโลกได้แน่นอน

การจัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงเกิดขึ้นทั่วโลก โดยที่ประเทศจีนเองได้จัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชน ณ กรุงปักกิ่ง ในตอนเย็นของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีชาวจีนและชาวต่างชาติประมาณ 3,000 คน ร่วมกันเฉลิมฉลองวันชาติจีน

นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของจีน ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวและกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ โดยย้ำว่านับตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อ 75 ปีที่แล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้สามัคคีกันนำประชาชนชาติพันธุ์ต่างๆในประเทศจีนฟันฝ่าต่อสู้อย่างไม่ลดละ ได้สร้างปาฏิหาริย์ 2 ประการ ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและความมั่นคงทางสังคมในระยะยาว จีนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การฟื้นฟูและความเจริญอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนได้เข้าสู่กระบวนการทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ในยุคใหม่และการเดินทางครั้งใหม่ ประชาชนจีนจะสร้างความรุ่งโรจน์ครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมอย่างแน่นอน และจะสร้างคุณูปการใหม่ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นเพื่อกิจการอันสูงส่งแห่งสันติภาพและการพัฒนาของมวลมนุษยชาติ

“หลังจากการฟันฝ่าต่อสู้อย่างยากลำบากมาเป็นเวลา 75 ปี ความทันสมัยแบบจีนได้เปิดภาพอันงดงามและแสดงถึงอนาคตที่สดใสและงดงามเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันระหว่างทางแม้ได้พบความยากลำบากและอุปสรรค แต่เราจะต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้าเพื่อรับมือกับภยันตราย เอาชนะความเสี่ยงและความท้าทายที่ไม่แน่นอนและคาดการณ์ไม่ได้ทั้งหมดอย่างเด็ดเดี่ยว ไม่ว่าความยากลำบากใดๆ ก็จะหยุดยั่งการพัฒนาก้าวหน้าของคนจีนไม่ได้”

สำหรับประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้จัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วย

นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวปาฐกถา ว่า ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และบนเส้นทางสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีนนั้น จีนได้รับเอกราชของชาติ ประชาธิปไตยโดยประชาชน และความเจริญรุ่งเรืองของชาติในปัจจุบัน บนพื้นฐานของการเข้าสู่สังคมอยู่ดีมีสุขอย่างรอบด้าน

“ประชาชนจีน 1.4 พันล้านคนกำลังเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในการสร้างความทันสมัยแบบจีนในสังคมนิยมอย่างครอบคลุม และบรรลุการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน”

เมื่อมองไปยังอนาคต จีนจะปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาใหม่ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เสนอ ยึดมั่นในแนวทางที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา เพื่อตอบสนองความปรารถนาที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวจีน ยึดมั่นในการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและส่งเสริมนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างจริงจัง เพื่อช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจตั้งอยู่บนฐานของกำลังการผลิตคุณภาพใหม่ ยึดมั่นในการพัฒนาแบบเปิดกว้าง สร้างระบบเศรษฐกิจแบบเปิดกว้างระดับสูงใหม่ และแบ่งปันโอกาสและผลสำเร็จในการพัฒนากับประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน

“เมื่อไม่นานมานี้ การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ได้มีมติสำคัญและการจัดเตรียมอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับการปฏิรูปเชิงลึกยิ่งขึ้น และการส่งเสริมการปรับปรุงความทันสมัยในแบบของจีนเพิ่มมากขึ้น โดยได้เสนอมาตรการปฏิรูปกว่า 300 รายการ ซึ่งชี้ชัดว่าจะดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงภายในปี พ.ศ. 2572 โดยเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนของจีนในการปฏิรูปและพัฒนาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นที่จับตามองของทั่วโลก อนาคตอันกว้างไกลของความทันสมัยแบบจีนเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและสร้างแรงบันดาลแก่ประชาชนชาวจีนเป็นอย่างมาก”

นายหาน ยังกล่าวด้วยว่า ขณะที่จีนมุ่งเน้นพัฒนาตนเองนั้น จีนยังคงมีส่วนสนับสนุนที่สำคัญเชิงบวกต่อความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพของโลก จีนเป็นคู่ค้าหลักของกว่า 140 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ประเทศจีนมีส่วนผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึง 30% มานานกว่าสิบปีติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่สมชื่อ เมื่อเผชิญกับปัญหาและความท้าทายที่เกิดขึ้นใหม่ในโลก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เสนอข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก ข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก และข้อริเริ่มอารยธรรมระดับโลกตามลำดับ เพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงธรรมาภิบาลระดับโลก การรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก และการแก้ปัญหาสำคัญของมนุษย์ด้วยภูมิปัญญาและวิธีการของจีน

สำหรับจีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมโยงกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นญาติที่ดีด้วยสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่สองประเทศได้รักษาการประสานงานระดับสูงอย่างใกล้ชิด ประชาชนของทั้งสองประเทศช่วยเหลือซึ่งกันและกันและทำให้ความร่วมมือในมิติต่างๆ ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้ “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” หยั่งรากลึกในใจของประชาชนทั้งสองประเทศ

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-ไทย เป็นประโยชน์ร่วมกันและส่งผลดีต่อประชาชนทั้งสอง จีนและไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญของกันและกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดจีนได้ดึงดูดการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมากกว่า 40% ของการส่งออกสินค้าไทย จีนและไทยเป็นหุ้นส่วนการลงทุนที่สำคัญของกันและกัน และการลงทุนของไทยมีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทจีนมีความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ จีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักของไทย จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะทะลุ 7 ล้านคนสำหรับปีนี้ จะสร้างรายได้จากการบริโภคในการท่องเที่ยวทะลุ 3 แสนล้านบาท ขณะที่การฟื้นตัวและการพัฒนาทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นทางแห่งความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนและไทยนับวันจะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

“ปีหน้าจะครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศและมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองจะเข้าสู่จุดสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง โดยจะสนับสนุนซึ่งกันและกันในการพัฒนาอย่างมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ ร่วมกันรักษาการพัฒนาอย่างสันติของภูมิภาคและทั่วโลก ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์จีน-ไทยพัฒนาสู่ระดับที่สูงขึ้นอีกก้าวหนึ่ง และนำมาซึ่งความผาสุกให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ”

เส้นทางการพัฒนาประเทศตลอด 75 ปีที่ผ่านมาของจีน จึงเป็นการดำเนินการที่น่าชื่นชม และทุกประเทศทั่วโลกควรนำไปเป็นตัวอย่างและถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาประเทศตนเอง โดยเฉพาะนโยบายในการร่วมส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ เพื่อที่จะได้มีการส่งเสริมสันติภาพและสันติสุขให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

โดย นายภูวนารถ ณ สงขลา
ที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการการค้าชายแดนและข้ามแดน ด้านจีนตอนใต้ หอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว Bangkok Wealth & Biz และ สำนักข่าว บางกอกทูเดย์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *