เนื้อนาบาป-ใครรับเงิน?
“มังกรจีน-แห่งม่านไม้ไผ่” ได้สมญานามว่าใน..“ยุคชุนชิว” เป็นช่วง“ความปั่นป่วน”อย่างหนัก ถือว่าแดน-แผ่นดิน“แม่น้ำเหลือง”ในช่วง“ชุนชิว” คือ“กลียุค-ทุกข์หนักของชาติ”ทีเดียวเชียว
มี“สงครามสู้รบ”ไม่เว้นแต่ละวัน..จนมีคนอุปมา-อุปไมย ว่าเป็นฤดูไม้ผลิ-ไม้ร่วง ที่มีแต่“ความสับสน-จนประเทศเดินไม่ได้”
นี่ก็คล้ายกันกับ“ประเทศไทย”ในช่วงรอยต่อ“หน้าร้อนชนหน้าฝน” เพราะเป็นฤกษ์“แห่งความเสื่อม”
ไม่ต้องดูอื่นไกล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ใช้จังหวะเดินหน้าเข้าเกียร์สี่ กันอย่างเต็มกำลัง “วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗” ใช้แสนยานุภาพของกองทัพออกมา“รัฐประหาร” ยึดอำนาจ“นายกฯหญิงคนแรกเมืองไทย”
จนจารึกด้วย“ประวัติศาสตร์หน้าดำ” ทำไปได้ไฉน.. ให้“เมืองไทย”ถอยหลัง-พังไม่เป็นท่า กันปานนี้
ที่ดูจะ“รุ่งเรือง-เฟืองฟู” บานเป็นดอกเห็ดต้องฝน ก็ว่าได้..หลังทำ“หลอดแก้ว-คลอดรัฐธรรมนูญ”กันออกมาแล้ว…ผลปรากฏว่า สร้างอาชีพ“นักร้อง” มือปืนรับจ้าง“ระดับตี๋ใหญ่”ขึ้นมาเต็มบ้าน-เต็มเมือง
พวกนี้มี“มวลสาร”ที่เป็น“เนื้อของเทหวัตถุ” ที่เป็น“หนึ่งของมวลรวม” เข้ากับ“องค์กรอิสระ”ตามที่“รัฐธรรมนูญมีชัย” คิดค้น-กำหนดกันมา และมักจะมี“ปาฏิหาริย์”คาตา-น่ามหัศจรรย์ กันอยู่มิได้ขาด
เห็นได้เป็นพยาน-หลักฐานมันฟ้องๆกันอยู่.. คราใดที่“ร้องยุบพรรค”ที่อยู่ข้าง“ฝ่ายประชาธิปไตย” จะยุบได้สำเร็จสมใจนึกบางลำพูกันแทบทุกเที่ยว ไม่มีทางรอด-ปลอดภัยไปได้เลย ..ร้องเมื่อไหร่ “พรรคโดนยุบ-บุบสลาย”หายไปฉับพลัน
นับว่าเป็น“ยุคแห่งความป่วน-ชนวนตีรวน” เอากับ“พรรคประชาธิปไตย”กันอย่างหนัก
เพราะเมื่อ“สวมวิญญาณเป็นนักร้อง” ดูเหมือนสร้าง“ฐานะแห่งความรวย-อำนวย”เงินเข้ากระเป๋าพวกนี้..จนมีการระเบิด-เปิดโปงกันออกมาว่า…ถ้า“องค์กรอิสระ”รับเป็นคดีแล้ว
อันดับแรก ได้เงินเข้ากระเป๋า-ชิลชิลเบา เอาไป 200,000 บาท หนทางไหนที่จะ“กอบโกย-โซ้ยเงิน” เท่ากับเป็น“นักร้อง”ที่สร้างเนื้อ-สร้างตัวด้วย“ไมค์หมดหนี้-ดีเช่นนี้เล่า”
แต่“ละสเตป-เก็บผลประโยชน์”ได้อย่างอื้อซ่า จนทำให้“นักร้อง-ร่ำรวย” มีเงินซื้อบ้านหลายหลังในหมู่บ้านเดียวกัน
พฤติการณ์มันชัด ไม่ได้ทำ“เพื่อประชาชน” แต่เป็นการ“สร้างประโยชน์โภคผล”ให้ตนร่ำรวยนั่นเอง
ฉะนั้นเราจะคงเห็น“นักร้องพวกนี้”เดินสาย ร้องหา-ค่าเหนื่อย“เที่ยวละเป็น ๒ แสน”มากขึ้นทุกวัน
นอกจากเป็น“ยุคแห่งความเสื่อม-เหลื่อมล้ำ”อย่างสุดๆ ในการอาศัยอำนาจปืน-ฝืนระบบประชาธิปไตย จนเกิดอาชีพใหม่ของนักร้องกันบานเบอะแล้ว..อีกหนึ่งอาชีพ“ที่ผุด-จุดขึ้นมา”ทำความรุ่งเรือง ร่ำรวยกันอย่างไม่รำไร
ก้อ,ธุรกิจ“ขายตรง” ชงกันอย่างเต็มกำลัง ให้ทำ“แชร์ลูกโซ่”กันขึ้นมาอีก ทำให้ประชาชน-คนไทยตาดำๆ นับหมื่น-นับแสน ตกไปเป็น“เหยื่อ-เสืองาบ”กันสนั่นเมืองในตอนนี้…
มีการจ่ายเงิน“ดิวแรก-เพื่อแลกกฎ” ให้ทำธุรกิจได้อย่างสะดวกโยธิน เพื่อไม่ให้มีใคร“หมายปอง-มาจองจับ”
ก้อนใหญ่-จ่ายไป ๓๐ ล้าน .. และ“งาบรายเดือน”อีกเดือนละแสน
ถ้าอยากจะ“ดีดนิ้ว-สร้างดิว” ให้ตัวเองมีอำนาจใหญ่มากกว่านี้ ต้องจ่าย“เงินเพิ่ม-เติมตั๋ว” ก็จะได้“อำนาจสั่งการ”กันอย่างทันที
“จะชี้นกก็เป็นนก จะชี้ไม้ก็เป็นไม้” ขนาดจะตั้งผู้มีอำนาจสูงสุดใน“สอคอบอ-ก็ฮ้ดแร่ด” ทำได้ดังใจนึก
“ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ที่มีการ“ชุบตัวเป็นทอง” เหนือกว่า“สังข์ทอง”ใน“วรรณคดีใหญ่” ชิ้นเอกของแผ่นดิน..
นี่ไม่ใช่การ“กล่าวหาเลื่อนลอย” พล่อยๆ เอาเองด้วยนะ แต่เป็นคำยืนยัน จาก“อดีต สส.สิระ เจนจาคะ” ท่านออกมาเฉลย-เผยคำอย่างละเอียดยิบ
นับตั้งแต่เกิดยุค“กาฝากในแผ่นดิน” กลุ่ม“นักร้องที่ออกมาบิน” เป็นพวกที่“ร้องมั่ว-สั่ว”เหลือจะกล่าว เพราะแอบไปใช้สิทธิ์ เพื่อตั้ง“องค์กรปราบโกง”ในเรื่อง“ธุรกิจปราบแชร์ลูกโซ่”ขึ้นมา..
แต่ทว่า“เนื้อแท้” ไม่ได้“เหลียวแล”แคร์ทุกข์ยากของประชาชนกันเสียหน่อย มีการ“ซิกแซก-หาแดร๊ก”กันอย่างหน้าด้าน..ใช้“องค์กรตัวเอง”ไปตบทรัพย์-รับเงินจากเจ้าของธุรกิจ ขึ้นร่ำรวยกลายเป็น“เทวดา-เหนือสวรรค์”
จากคนที่ต้อง“เช่าบ้าน-เช่ารถ” เดี๋ยวนี้เขาว่า“รวยเป็นโคตรเศรษฐี” ซื้อคฤหาสน์หลังโตแถวราชพฤกษ์ แดนเศรษฐีเกิดใหม่ หลังละ ๕๐ ล้าน..
ประโยชน์ของ“รัฐธรรมนูญ ๖๐” เกื้อกูล-หนุนหลังเป็นอย่างดีแก่“นักร้อง-พวกยุบพรรค” และ“บริษัทขายตรง-แชร์ลูกโซ่”
เรียกได้ว่าเป็น“เนื้อนาบาป-ประทับใจ”พวกนอกรีต-นอกรอยกันยิ่งนัก
“เงินก้อนหนัก-ที่ควัก”ให้กับใครไป “ก้อนโตถึง ๓๐ ล้านบาท” ต้องตามและดำเนินคดีเพื่อให้ไปถึงตัวกันหน่อยนะ
ถ้าไม่มีนักการเมืองเป็นแบ็ก..”พวกนี้ก็ยังคงปอดแหก”.. เพราะแพ็คเป็นทีมเดียวกับนักการเมือง มันจึงกล้าทำทุกอย่าง นั่นปะไร
“กะพรุนไฟ”
