24 ตุลาคม 2024

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ economy interesting center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ โชว์ตัวเลขมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในเดือนตุลาคมหดตัวลง ทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับเดือนกันยายนเดือนก่อนหน้าที่ยังขยายตัวได้

นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 20 เดือน และนับเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี

เหตุผลง่ายๆ ซึ่งเคยสะกิดเตือนมาแล้ว แต่บรรดาองครักษ์ บรรดาไอโอ ออกมาแก้ต่างว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา มีผลงาน เศรษฐกิจดีขึ้น แต่วันนี้ชัดเจนแล้วว่ามีผลงานจริงหรือไม่

เหตุผลหลัก ที่การส่งออกหดตัวอย่างรุนแรง ก็เพราะไม่มีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าจากไทยเข้ามาอย่างที่หวัง และตัวเลขเดือนพฤศจิกายนนี้ก็ยังย่ำแย่ ไม่มีออเดอร์อย่างที่ต้องการเช่นกัน

วัดดวงเฮือกสุดท้าย ก็คือเดือนธันวาคมนี้ จะมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าเข้ามาหรือไม่

ไม่มีออเดอร์ ผู้ผลิตสินค้าก็ต้องลดกำลังการผลิต ลดการจ้างงาน ผู้ส่งออกถ้าต้องการอยู่ให้ได้ก็ต้องประคองตัว ลดการจ้างงานเช่นกัน

บริษัทปิด โรงงานปิด คนตกงาน คนรายได้ลด สินค้าขายไม่ออก ซ้ำร้ายภายในประเทศ รัฐบาลล้มเหลวกับการควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ล้มเหลวกับการดูแลต้นทุนด้านพลังงาน ไฟฟ้าก็กำลังจะปรับขึ้นไปอีก

เศรษฐกิจถดถอยมาแน่ และมาแรงด้วย ย้ำอีกครั้งได้เตือนมาตลอด แต่รัฐบาลไม่เคยที่จะฟัง ไม่เคยที่จะใส่ใจเสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กทั้งหลาย

คิดแบบตื้นๆว่า ถ้าอุ้มชูเจ้าสัว อุ้มชูรายใหญ่ เศรษฐกิจจะไปรอด ซึ่งถือเป็นความคิดที่ไร้สติปัญญา และกำลังพาหายนะให้มาเยือนเศรษฐกิจไทย

ทั้งๆที่แม้แต่ เวิลด์ แบงก์ และ IMF รวมทั้ง ADB ก็บอกแล้วว่า เศรษฐกิจไทยจะบอบช้ำที่สุดในอาเซียน หากโลกเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ดื้อรั้นไม่ฟัง คิดแต่ว่าพวกข้าเก่ง ฟังแต่เสียงประจบจากคนรอบข้างที่ได้ประโยชน์จากการเลีย

วันนี้เป็นอย่างไร ผลงานรัฐบาลประยุทธ์อยู่มา 8 ปี ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน รอบแรกแค่ 10 ล้านคน มาวันนี้แห่ลงทะเบียนไปแล้วกว่า 21 ล้านคน ตรวจสอบข้อมูลได้สิทธิ์แล้วแน่ๆ 19.6 ล้านคน ผลงานประสาอะไร จำนวนผู้เดือดร้อนต้องขอรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มขึ้นขนาดนี้… 20 ล้านคนนี่คือ 1 ใน 3 ของคนในประเทศแล้วนะ

กู้เงินมาแล้วกว่า 10 ล้านล้านบาท แต่ประชาชนได้เป็นเศษเงิน ในขณะที่รัฐบาลถังแตกแต่ปากแข็ง ยังหลับหูหลับตาใช้เงินจ้างไอโอให้มาอวดโอ่ผลงานแบบผลาญภาษีประชาชน

อ้างว่าไม่ถังแตก อ้างว่าแม้จะกู้แล้วกู้อีกก็ยังอยู่ในเกณฑ์วินัยการคลัง อ้างว่าเศรษฐกิจดีจนไม่ต้องมีมาตรการคนละครึ่งแล้ว ช้อปดีมีคืนก็ยกเลิกแถลงด่วน ไม่รู้ว่าเพราะเป็นมาตรการภาษีที่ไม่มีปัญญาจะคืนหรือไม่

แต่วันนี้รัฐบาลประยุทธ์ โดยรัฐมนตรีคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ไฟเขียวเก็บภาษีขายหุ้น รู้ทั้งรู้ว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ แต่ก็ยังจะเก็บ ปีแรกจะได้เงินแค่ 8 พันล้านบาทก็ยังจะเอา เพราะไม่มีปัญญาจะไปหารายได้จากตรงไหนมาโปะ มาอุดรูรั่วได้แล้ว

วาดฝันปี 67 จะได้ 15,000 ล้าน แค่ยกเลิกซื้อรถถัง ซื้อเรือดำน้ำ ซื้อเครื่องบินรบ ก็เหลือเงินเป็นแสนล้านเอามาฟื้นเศรษฐกิจได้แล้ว

นักลงทุนในหุ้นคิดเอาเองก็แล้วกันว่าเพราะอะไร รัฐบาลนี้จึงเลือกที่จะรีดภาษีขายหุ้น แต่ไม่เลิกซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์

แถมกติกาที่ออกมาก็น่าเกลียดสุดๆ นักลงทุนรายบุคคลธรรมดาเสียภาษีตั้งแต่บาทแรกที่ขายหุ้น แต่เลือกที่จะอุ้มเจ้าสัว นักลงทุนรายใหญ่ บอกว่าจะไม่เก็บภาษีขายหุ้นของคนกลุ่มนี้ เพราะถือเป็นรายใหญ่ เป็น market maker จึงต้องอุ้มชู ส่วนนักลงทุนรายเล็กๆเสร็จ โดนรีด

นี่คือผลงานของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ามีสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพียงใด

ก็อยู่ที่นักลงทุน อยู่ที่คนชนชั้นกลาง และอยู่ที่บรรดาผู้ที่เดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ ว่ายังจะเลือกพรรคการเมืองที่ประกาศดันก้นประยุทธ์ให้ได้เป็นนายกฯต่อไปอีกหรือไม่

ภูวนารถ ณ สงขลา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *