23 ตุลาคม 2024

คิกออฟ! ‘30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว’ นำร่อง ร้อยเอ็ด-แพร่-เพชรบุรี-นราธิวาส

0

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะ เดินทางไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเปิดงาน Kick off “30 บาท รักษาทุกที่” ที่ลานสาเกตนคร หน้าหอโหวด โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ร่วมงาน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายเศรษฐา กล่าวเปิดงานว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิดงานนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งในจ.ร้อยเอ็ด และทุกจ.นำร่อง ที่ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันผลักดันนโยบายนี้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพของประชาชนคนไทยทุกคน การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชน เป็นหนึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนทุกกลุ่มในทุกพื้นที่

“นโยบายนี้ผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากหน่วยบริการทุกระดับทุกสังกัด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว ยังอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของบุคลากรทางแพทย์บริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะนำเทคโนโลยีดิจิทัล ในการจัดบริการสุขภาพแก่ประชาชนทางไกล โดยนำดิจิทัลมายกระดับบริการสุขภาพดิจิทัล และคำนึงถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์รวมทั้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดระยะเวลาการรอคอย และลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชาชน มีสุขภาพแข็งแรง มีพลังในการดำเนินชีวิตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป”

โดยนายเศรษฐา ได้เสียบบัตรประชาชนจำลอง คิกออฟการให้บริการ “30 บาท รักษาทุกที่” ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยเปิดงานพร้อมกัน กับจ.นำร่องให้บริการในระยะแรก ได้แก่ จ.แพร่ จ.เพชรบุรี และจ.นราธิวาส ก่อนถ่ายรูปหมู่กับรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งถือเป็นการเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ

ส่วน น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงที่มาที่ไปของโครงการ 30 บาท รักษาทุกที่ ว่า วันนี้มาสื่อสารสิ่งที่รัฐบาลกำลังต่อยอดจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่เป็นประโยชน์กับประชาชนคนไทยทุกคนตลอดเวลากว่า 22 ปี วันนี้จะเป็น 1 วันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพราะระบบสาธารณสุขไทยจะได้รับการยกระดับให้ทันสมัยขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีรวบรวมข้อมูลเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้ระบบสาธารณสุขดีขึ้นเรื่อยๆ และให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีขึ้นมีคุณภาพมากขึ้นเข้าถึงง่ายขึ้น

โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคมีมานานกว่า 22 ปี วันนั้นเราสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะพัฒนานโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ให้เป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยมีระบบมากขึ้น นอกจากรักษาฟรียังบริการดีทั่วถึงและทันสมัยมากขึ้น

ในวันนั้นมี นายทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลได้เพียง 2 เดือนก็เริ่มมีจังหวัดนำร่องในการทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทยอยทำจนครบทั่วทั้งประเทศ ส่วนวันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ถือเป็นวันเริ่มต้นนโยบาย โดยนำร่อง 4 จ. คือ แพร่ เพชรบุรีนราธิวาส และร้อยเอ็ด ซึ่งจังหวัดอื่นรอไม่นานจะครอบคลุมทุกประเทศ

“เราจะไม่ต้องรอ เสียเวลาวุ่นวายที่โรงพยาบาลไปหาโรงพยาบาลตามทะเบียนบ้านไม่ต้องเสียเวลาทั้งวันเพื่อไปรอ ไม่ต้องรอรับยานานเกินไป ตรวจเลือดซักประวัติก่อนพบหมอ สามารถทำได้เลยในสถานีอนามัย หรือคลินิกใกล้บ้านที่เป็นเครือข่ายสปสช. และในบางกรณีไม่ต้องมาโรงพยาบาลสามารถใช้ telemedicine พูดคุยกับคุณหมอผ่านทางออนไลน์และเมื่อเรารับยาไปสามารถปรึกษากับเภสัชผ่านออนไลน์เห็นหน้าพูดคุยได้ด้วย สามารถทำนัดออนไลน์ ผ่าน แอปพลิเคชั่น หมอพร้อม”

น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่านโยบายนี้จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องได้ไปตลอดกาลเหมือนที่ 30 บาทรักษาทุกโรคเคยทำมาแล้ว โดยเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ได้เริ่มในวันที่ 8 เมษายน และวันนี้เริ่มที่ 7 มกราคม เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้นโยบายของเราสามารถพัฒนาอย่างแข็งแรงขึ้น และแน่นอนว่ารัฐบาลจะสานต่อโครงการที่ดีมากๆอยู่แล้วให้ดีขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นตอบโจทย์ประชาชน ตามยุคตามสมัยเพิ่มมากขึ้น

“ขอขอบคุณ ผู้ที่ผลักดันและสร้าง 30 บาทรักษาทุกโรค ทั้ง นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และการผลักดันของนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ประเทศไทยมี โครงสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดี ถ้าไม่มีโครงการ 30 บาทในวันนั้นวันนี้เราคงทำงานได้ยากกว่า แม้ในตอนนั้นจะมีหลายครหาที่ไม่เข้าใจ มีวาทกรรมในแง่ร้ายมากมาย วันนี้ทุกท่านให้เห็นแล้วว่า 30 บาทรักษาทุกโรคได้เปลี่ยนชีวิตของพี่น้องประชาชนได้ดีขึ้นจริงๆนั่นแปลว่านโยบายที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้ วันนี้รัฐบาลกลับมารับไม้ต่อทำให้ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เราจะไม่หยุดพัฒนานโยบายที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”น.ส.แพทองธาร กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *