24 ตุลาคม 2024

‘ชัยชนะ’ เผย ไปดูหน้าห้อง ‘ทักษิณ’ ชั้น 14 แล้ว สิ้นข้อคาใจ รพ.ตำรวจ

0

วันที่ 12 มกราคม ที่โรงพยาบาลตำรวจ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ปมการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร โดยกล่าวว่า วันนี้มาตามกรอบกฎหมาย ม.129 ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สังคมสงสัย ซึ่งก่อนหน้าได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะเป็นผู้ดูแลโรงพยาบาลตำรวจ และได้ทำหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากเป็นเจ้าของไข้ เป็นหนังสือเกี่ยวกับขั้นตอนในการรักษา และการปฏิบัติในการรักษา ให้มีการชี้แจงว่านายทักษิณ ได้รักษาตัวถึงขั้นตอนไหนและรักษาตัวอยู่ชั้น 14 จริงหรือไม่ ซึ่งทางราชทัณฑ์เคยชี้แจงแล้วว่า ก่อนหน้าเคยมีผู้ต้องขังรักษาตัวเกิน 120 วันอยู่ ทั้งนี้ ตนอยากไขข้อสงสัยของสังคม หากทางโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์ไม่อยากเป็นจำเลยของสังคมก็ต้องตอบข้อสงสัยนี้ให้ได้

นายชัยชนะ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าศึกษาดูงาน ว่า จากที่ได้พูดคุยกับทางโรงพยาบาลตำรวจ โดย พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์ สบ.7 จึงได้ทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องขังที่มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจที่ค้างคืนมีเเค่คนเดียว คือ นายทักษิณ ที่เหลือเป็นเพียงผู้ต้องขังที่มีอาการป่วย แต่เป็นการรักษาแบบเช้าเย็นกลับ ตนได้หารือตามกรอบระเบียบของทางโรงพยาบาลตำรวจ จึงได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ชั้น 14 เพื่อไปดูขั้นตอนในการคุมขัง โดยตนและคณะกรรมาธิการการตำรวจนั้น ไม่ได้เข้าไปภายในชั้นทางเดินของชั้น 14 หรือภายในห้องแต่อย่างใด เพียงแค่อยู่ในจุดบริเวณหน้าห้องเพียงเท่านั้น ซึ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 2 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 3 นาย รวมเป็น 8 นาย แต่ประจำอยู่จุดไหนไม่สามารถบอกได้

นายชัยชนะ กล่าวว่า หลังจากนั้นจึงได้ลงมายังชั้น 7 เพื่อมาดูขั้นตอนในการปฏิบัติงานการรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังที่มีโรคต้อกระจกว่าเป็นอย่างไร โดยมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ดูแลเช่นเดียวกัน จึงจะเห็นได้ว่ากรมราชทัณฑ์ปฏิบัติกับนักโทษที่มารักษาตัวอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนว่าในตอนที่ขึ้นไปชั้น 14 ได้พบเจอนายทักษิณหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของ พ.ร.บ.ส่วนบุคคล ที่จะอนุญาตให้เยี่ยมหรือไม่ให้เยี่ยม แต่ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจไม่ได้เจาะจงมาเยี่ยมใครเป็นพิเศษ เพียงแต่มาเพื่อดูว่าขั้นตอนในการปฏิบัติรักษาเท่าเทียมกันหรือไม่

“ได้รับข้อมูลมาว่า ประตูห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณที่อยู่บนชั้น 14 นั้นไม่ได้มีการล็อกใดๆ ทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่สามารถเปิดเข้าออกได้ตลอดเวลา”

ส่วนคณะกรรมาธิการการตำรวจ มีความสงสัยหรือไม่ว่านายทักษิณจะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจไม่ขอก้าวล่วงในการรักษาของแพทย์ เพียงแต่วันนี้มาตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนี้ต้องกลับไปถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่าเอกสารที่ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจได้ขอไป 1.เรื่องของข้อมูลผู้คุมคนใดที่ได้มาเข้าเวรที่นี่ และมีการปรับเปลี่ยนเวรอย่างไร 2.ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ที่แจ้งว่าใช้สิทธิของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่าถ้าเกินสิทธิสามารถไปใช้เงินส่วนตัวได้นี้นั้นใช้ระเบียบข้อไหน 3.สำเนาใบ รท.101 ที่ได้ขอไปนั้นได้ทำไว้หรือเปล่า ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจจะต้องไปตามเอกสารจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณทางโรงพยาบาลตำรวจที่ให้ทางคณะกรรมาธิการได้ขึ้นไปตรวจสอบยังชั้น 14 จึงไม่มีข้อข้องใจกับทางโรงพยาบาลตำรวจแล้ว ยังเหลือเพียงแต่ข้อข้องใจกับทางกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับเอกสารที่ทางคณะกรรมาธิการได้ขอไปเพียงเท่านั้น

นายชัยชนะ กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่กรมราชทัณฑ์จะต้องออกมาชี้แจงกับสังคมอย่างชัดเจน หากเมื่อไหร่ที่ชี้แจงไม่ชัดเจน จำเลยของสังคมก็คือกรมราชทัณฑ์เอง ส่วนตนขอยอมรับว่าสิ่งที่โรงพยาบาลตำรวจทำในวันนี้ถูกต้องที่สุด หน้าที่ในการยืนยันว่านายทักษิณอยู่หรือไม่อยู่โรงพยาบาลตำรวจไม่ใช่หน้าที่ของตน แต่เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์

“ฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า ของบ 2-5 ล้านบาท มาซ่อมกล้องวงจรปิดอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา เพราะเสียแทบทั้งตึก เนื่องจากติดตั้งมากว่า 10 ปี ตั้งแต่ก่อนนายทักษิณเข้ารักษาตัวแล้ว”นายชัยชนะ ระบุ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *