24 ตุลาคม 2024

คดี ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ถึงเวลามองอนาคต ไม่ใช่มองแค่วันนี้

0

และแล้ว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็รอดพ้นด่านแรก ที่มีคนไปร้องจะให้พ้นสภาพ ส.ส กรณีมีหุ้นไอทีวีอยู่ในครอบครอง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมา สอดคล้องกับที่ประชาชนทั้งประเทศรู้สึกมาตลอด

ในเมื่อไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อแล้ว ยุติการทำบทบาทสื่อ ถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นสถานีโทรทัศน์ตั้งแต่ปี 2550 นานกว่า 15 ปีแล้ว จะผิดในประเด็นถือหุ้นสื่อได้อย่างไร

ก็อย่างที่ประชาชนถามกันนั่นแหละ ว่าถ้าจะดูช่องไอทีวีต้องกดหมายเลขอะไร หรือใช้จานดาวเทียมแบบไหน ซึ่งไม่ได้คิดถามตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่ต้องการถามคนที่ไปร้องมากกว่า

เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วิเคราะห์ว่าไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อ ฉะนั้นพิธาจึงไม่ต้องพ้นสภาพการเป็น ส.ส สามารถกลับเข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภา ในฐานะ ส.ส ได้แล้ว หลังจากที่ถูกสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่มากว่าครึ่งปี จึงเป็นประเด็นที่ตรงใจประชาชน

ภาพที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ พิธารอดหรือไม่รอด หลายคนอาจจะมองว่านี่เป็นชัยชนะอีกครั้ง ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ของพรรคก้าวไกล แต่สำหรับบางกอกทูเดย์ มองไปที่ภาพรวมในวันวินิจฉัยคดีมากกว่า ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลยังคงมีคะแนนนิยมสูงอย่างมากในสายตาประชาชน ทั้งที่ไปปรากฏตัวเป็นกองเชียร์บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และเสียงตอบรับที่กระหึ่มทั่วประเทศจากคำวินิจฉัยที่ออกมา

ดังนั้น ใครก็ตามที่กำลังพยายามทำเรื่องโง่ๆอยู่ ควรจะตระหนักได้แล้วว่าความรู้สึกส่วนรวมของประชาชนคนรุ่นใหม่ คิดเห็นอย่างไรต่อทิศทางการเมืองไทยในอนาคต คิดเห็นอย่างไรต่อความพยายามทำลายล้างทางการเมือง

ถ้าประชาชนไม่ได้ยึดติดกับชื่อพรรค ไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคลที่เป็นนักการเมือง แต่ยึดติดกับอุดมการณ์ ยึดติดกับประชาธิปไตยที่แท้จริง ความพยายาม ยุบพรรคก้าวไกล ความพยายามกำจัด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ออกไปจากสนามการเมือง จะไม่มีวันทำลายพรรคการเมืองที่มีจุดยืนร่วมกับสังคมระชาธิปไตยแบบคนรุ่นใหม่ได้เลย

นักการเมืองรุ่นเก่า ที่ปากท่องคำภีร์ อวดอ้างความดีแปะหน้าผากกันนั้น บอกได้เลยว่า มีแต่จะเป็นนักการเมืองตกรุ่น ทฤษฎี “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น” แล้วเป็นอีแอบซื้อเสียงเข้ามา ถึงเวลาสูญพันธุ์ไปเรื่อยๆแล้ว

บางกอกทูเดย์ มีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่ได้เชียร์ใครแบบมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่เป็นสื่อที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยตลอดมา จึงกล้าวิพากษ์วิจารณ์ทุกรัฐบาลแบบตรงไปตรงมา กล้าวิจารณ์นายกรัฐมนตรีทุกคนบนเหตุและผล ที่ยึดมั่นต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

เอ่ยชื่อเรียงแถวมาเถอะ ตั้งแต่ก่อตั้งสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ในปี 2546 นายกรัฐมนตรีทุกคน ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร ชวน หลีกภัย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ เมื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หลุดพ้นคดีถือหุ้นไอทีวีหลายคนมองไปถึงการกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล การกลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ และ โอกาสในการที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต คงต้องบอกตรงๆว่า กลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯในห้วงเวลานี้ ถือเป็นเพียงตามกติกา แต่ระยะเวลาตอนนี้ คงไม่ง่ายและไม่ใช่

ส่วนถ้าเป็นในอนาคตข้างหน้า อันนี้มีแนวโน้มสูง เพราะด้วยความรู้ความสามารถ ต้องถือว่าพิธามีพร้อม เดินออกมาจากศาลให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ ด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว สละสลวย นี่คือไอดอลของคนรุ่นใหม่ ที่วันนี้ใช้ภาษาอังกฤษกันเก่งกว่าคนรุ่นเก่าเป็นอย่างมาก

จินตนาการถึงภาพของพิธาไปขึ้นเวทีต่างประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย แล้วใช้ภาษาอังกฤษอย่างแคล่วคล่อง สละสลวย นั่นคือความภูมิใจของประเทศมิใช่หรือ

คงไม่มีใครอยากได้ตัวแทนประเทศไทยที่ขึ้นไปพูดภาษาอังกฤษได้แค่เป็นคำๆ ติดกระดุมเม็ดแรกผิด ภาษาอังกฤษว่าอะไรนะ เยส โน โอเค อือฮึ แบบนี้คือ ฟังแล้วอมยิ้มด้วยความขมขื่นใจ

ถ้ายังจำกันได้คลิปที่นักการเมืองรุ่นใหม่อย่าง ท๊อป วราวุธ ศิลปอาชา ที่ไปขึ้นเวทีต่างประเทศที่ดาวอส แล้วกล่าวสปีชอย่างฉะฉาน สวยงาม กลายเป็นไวรัลที่ฮือฮา ส่งต่อกันเพียบ เป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย นี่คือนักการเมืองรุ่นใหม่ที่คนไทยรุ่นใหม่ในอนาคตอยากเห็น

เพราะฉะนั้น หากในอนาคต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือนักการเมืองรุ่นใหม่ๆ ที่มากความสามารถ ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่สำคัญเป็นเรื่องที่สมควรเกิดขึ้นด้วย

จึงขอเตือนบรรดานักการเมืองรุ่นเก่า นักการเมืองแผ่นเสียงตกร่องทั้งหลาย ที่ยังเดินย่ำเท้าอยู่กับน้ำเน่าทางการเมืองแบบไม่เปลี่ยนแปลง ควรตื่นจากโลกเก่ามาสู่โลกใหม่ได้แล้ว การใจแคบ จ้องกล่าวหา จ้องทำร้าย ทำลายทางการเมือง ควรจะหมดสิ้น ไปจากประเทศนี้เสียที

ประเทศไทยของทุกคนจะได้ก้าวพ้นการติดหล่มการเมือง ที่จมปลักฉุดรั้งประเทศมาเกือบ 20 ปีแล้วไปได้เสียที

กรศิริ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *