24 ตุลาคม 2024

อัยการคดีพิเศษ 1 ส่งหนังสือด่วนถึง อธิบดี DSI ตามจับ ‘วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ’คดี STARK

0

ยื่นฟ้องเพิ่มอีก 2 ผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK ขณะที่อัยการคดีพิเศษส่งหนังสือด่วนถึง อธิบดีดีเอสไอตามจับ ‘วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ’ ทายาทสีหมื่นล้าน ระบุมีพฤติกรรมหลบหนี ให้ตามตัวมาฟ้องในอายุความ หากหนีออกนอกประเทศให้ขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดน

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ได้นำตัว นางสาวยสบวร อำมฤต ผู้ต้องหาที่11 นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐ ผู้ต้องหาที่ 5 ในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าของความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ยื่นฟ้องไปเเล้ว 7 ราย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารับฟ้องของศาลอาญาเเละขั้นตอนการประกันตัว

ส่วนนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ STARK ทายาทตระกูลธุรกิจสีทีโอเอ ทราบนัดเเต่ไม่เดินทางพบพนักงานอัยการโดยมีรายงานว่าได้ประสานผ่านทางทนายความขอเลื่อนเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน

โดยมีรายงานว่า ทางสำนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหา ความว่า ตามที่ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 57/2566 คดีที่มีการกล่าวหา นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวกรวม 12 คน ผู้ต้องหา ในความผิดฐานกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ร่วมกันกระทำการลงข้อความเท็จในบัญชีหรือเอกสารของบริษัท ร่วมกันทุจริตหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชนหรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง จัดการทรัพย์สินของนิติบุคคลโดยมิชอบ เบียดบังทรัพย์สินเป็นของตนเองหรือผู้อื่น แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณา

ต่อมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว มีคำสั่งฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว, ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย, กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พรบ.นี้ โดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ

กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตามพรบ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ (1)ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว (2)ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น หรือ (3) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ, ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41, 343

แต่เนื่องจากนายวนรัชต์ ผู้ต้องหาที่ 2 หลบหนีไม่มารายงานตัวตามกำหนดนัด จึงขอให้ท่านจัดการติดตามให้ได้ตัวผู้ต้องหามาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันกระทำความผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ต้องหาที่ 2 อยู่ต่างประเทศให้จัดการให้ได้ตัวมาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 141วรรคท้าย (ส่งผู้ร้ายข้ามเเดน)โดยให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเคร่งครัด และตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดให้ครบถ้วน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *