24 ตุลาคม 2024

ท่าเรือที่เมือง Hambantota ของศรีลังกา

ดูราวกับว่าการแข่งขันทางการค้าทั่วโลกมีการแข่งขันกันแบบเปลี่ยนรูปโฉมไปไม่เหมือนเดิม กับหลายปีที่ผ่านมาสินค้าที่เคยถูกเสนอขายกับตลาดโลก มันเปลี่ยนแนวการนำเสนอ ต้องถูกและสวยงามกับประชาชนที่ยังอยู่ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา โดยเฉพาะประเทศแถบ South of Africa จีนก็เลยเข้าไปมีบทบาทในทางค้าขายกว่าใคร

ได้ข่าวว่าแม้กระทั่งโบ๊เบ๊ ย่านที่มีร้านขายส่งออก และแถวตึกใบหยก ก็ยังต้องสั่งของมาจากจีนที่จะขายต่อไปยังประเทศที่เคยเป็นลูกค้าโดยตรงกับเรา กางเกงทรงหลวมที่พิมพ์รูปช้าง ไทยก็ยังต้องสั่งเข้ามาจากจีนในราคาตัวละไม่ถึง 30 บาท

จีนเข้าไปมีบทบาทกับประเทศต่างๆพวกนี้ BRI(Belt and road initiative) ทางสายไหมที่คนไทยเข้าใจ ซึ่งจีนทำท่าจะไปไม่รอดเหมือนอย่างที่ตั้งใจไว้ ทำท่าจะหยุดชะงักลงไม่ราบรื่นเหมือนที่วางแผนแต่แรกที่ต้องใช้เงินเกือบ 200 Trillions เพราะบุกไปที่ไหนไม่ได้ราบรื่นคล่องคออีกแล้ว ประเทศที่ถูกสนับสนุน เพราะผู้นำที่คอรัปชั่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือจะว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ผิด ที่จะชักเงินทุนที่จีนนำเสนอ ถ้าจีนให้กู้มา 15Billions ผู้นำประเทศก็จะชักไว้สัก 2-3Billions แล้วที่เหลือก็ไม่ต้องพูดถึง

Budget ที่เหลือก็คงไม่พอที่จะนำไปสร้างต่อ เพราะมีระดับที่ต่ำกว่าก็ทอนกันไปเรียบร้อย ผลที่ตามมางานก็ไม่เสร็จ เงินก็หมด แม้แต่ดอกเบี้ยก็ยังไม่มีจะจ่าย ก็เลยเรียบร้อยโรงเรียนจีน เคยสัญญาเอาอะไรจำนองไว้ก็จะถูกยึด ผู้นำของประเทศนั้นๆเดือดร้อน บางประเทศถึงกับต้องหนีออกนอกประเทศ มีบางประเทศที่แข็งข้อก็เล่นระบบไม่มีไม่หนีไม่จ่าย จีนก็คงปวดหัวพอสมควร

ก่อนที่จะมีชื่อว่า BRI (Belt and road initiative) จีนตั้งชื่อโครงการนี้ว่า One Belt One Road จนถูกทักกันมากขึ้นว่าทำไมมันต้องเป็น ONE ทำไมถึงไม่เป็น ALL จีนก็เลยต้องเปลี่ยนชื่อ ซึ่งสิ่งที่จีนทำได้ แต่อีกหลายๆประเทศไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เขาไม่ทำกัน เช่นให้กู้เงินอย่างง่ายๆ ไม่ต้องมีคำถามเยอะว่า จะเอาเงินไปทำอะไร โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจีนจะไปแนะนำว่าทำโน่นสิทำนี่สิ อะไรก็ตามที่จะเป็นผลประโยชน์ให้กับจีน จีนจะยุให้ทำ สร้างจินตนาการไว้อย่างสวยหรู

เหมือนอย่างที่ศรีลังกาและปากีสถาน ที่จีนยุให้สร้างท่าเรือ(Port) ทั้งๆที่มีอยู่แล้ว แต่จีนก็ให้สัญญาว่าจะใช้เป็นที่ส่งสินค้าไปทั่วภูมิภาค เช่น port ที่เมือง Hambantota ของศรีลังกา พอศรีลังกาล้มละลาย จีนก็เลยยึดตามสัญญาว่าตัวเองมีสัญญาเช่าได้ไม่แพงถึง 99 ปี และนี่คือโครงการหนึ่งในหลายๆโครงการ ที่หลายๆประเทศเริ่มรู้ตัวว่าจีนหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง และเพราะว่าจีนกับอินเดียไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน เล่นเอาอินเดียคิดว่าจีนจะใช้เป็นฐานทัพ วันหนึ่งจะมาอยู่แบบจ่อคอหอยอินเดีย

วิธีการที่จีนเอามาชักชวนต่อประเทศที่ด้อยพัฒนา จีนนำเสนอแบบง่าย ไม่ถามไม่สนใจว่าคุณจะมีปัญญาใช้คืนหรือไม่คือ เงินที่จีนให้กู้ต้องเป็น Transaction ระหว่างประเทศนั้นๆ กับ Bank of China เท่านั้น ระยะเวลากู้ 15 ปี ดอกเบี้ย 7% โครงการทุกอย่างที่จะทำต้องเป็นบริษัทของจีนที่จะเข้าไปบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร ถ้าขาดต้องซื้อของจีนแต่ประเทศเดียว คนงานและแรงงานต้องใช้คนจีนเกือบ 90% จีนจะไม่ห้ามและถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไร โดยมองที่หลักประกันเป็นหลักที่จีนจะทำขึ้นมาว่าถ้าไม่จ่ายคืนจีนจะยึดอะไร

ผิดกับทุนจาก EU หรือจาก IMF ประเทศที่ด้อยพัฒนาหรือที่กำลังจะพัฒนาจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น และหลักการของทั้งสององค์กรนี้จะต้องมีเพื่อการศึกษากี่% สาธารณสุขกี่% infrastructure เช่นถนนหนทาง สะพาน อะไรที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม เขาจะหยิบขึ้นมาพิจารณา แต่เขาให้เวลาถึง 30 ปี และดอกเบี้ยแค่3% และก็ใช้คนในประเทศ Bankในประเทศ เห็นไหมครับว่า ผู้นำที่คอรัปชั่นจะรับไม่ค่อยได้

และในความเป็นจริงแล้วประชาชนที่ไม่ค่อยจะมีกินก็อยากได้แต่ของสวยๆงามๆ เช่น Shopping mall ตึกที่สวยงาม สะพานที่ตระกานตา การศึกษามาที่หลัง สำหรับคนพวกนี้

ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้เกลียดประชาชนจีน แต่ผมไม่ชอบการปกครองที่เอาเปรียบและริดรอนสิทธิ์เสรีภาพของประชาชน ผมเองก็เป็นคนจีน แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลจีนปกครองแบบเอาเปรียบ คนมักจะพูดว่าจีนเป็นประเทศที่มีคนเยอะมากเกือบ 1,400 ล้านคน เพราะฉะนั้นต้องเอาจริง ต้องปราบจริง ต้องเด็ดขาด ริดรอนเสรีภาพ ห้ามให้ประชาชนออกความเห็นอะไรเลย ผมว่าเป็นความคิดที่เชย และก็ข้างๆคูๆ ชีวิตและเกียรติยศของความเป็นมนุษย์ถึงเกือบไม่มีเอาเลย โดยเฉพาะ

“คุณค่าของความเป็นคน”

อำนาจ สุนทรวัฒน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *