ประชาชนไม่สนเงินเฟ้อติดลบ รู้แต่สินค้าแพงสาหัส

เร่งโหมประเด็น “เงินเฟ้อติดลบ” ดาหน้ากันออกมาจี้จุดนี้ ทั้ง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งบรรดาคณะรัฐมนตรี และโดยเฉพาะโฆษกรัฐบาล

โดยคงจะมองข้ามไปว่า ประเด็นเงินเฟ้อติดลบที่ว่านั้น สวนทางกับความรู้สึกของประชาชนอย่างที่สุด ทุกวันนี้ประชาชนไม่ได้รู้สึกเลยว่าเงินเฟ้อติดลบ เพราะข้าวของทุกอย่าง ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค แพงขึ้นไปอย่างมาก

ล่าสุดก็มีการปล่อยให้ขึ้นราคาน้ำนมดิบไป เป็นผลให้นมกล่อง ผลิตภัณฑ์นมต่างๆ และแม้แต่กระทั่งขนม เบเกอรี่ต่างๆที่มีนมเป็นส่วนผสม จ่อขยับราคาขึ้นไปตามๆกัน

และในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ค่าทางด่วนก็จะขึ้นราคาอีก

แต่ตลกร้ายของประเทศไทย เพราะในขณะที่ประชาชนโอดครวญกับข้าวของแพง แต่กระทรวงพาณิชย์สำรวจทีไร ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองว่าไม่พบสินค้าราคาแพง หรือขายเกินราคา ก็ไม่เกินราคาหรอก แค่ขึ้นราคาเป็นว่าเล่นเท่านั้นเอง

หลังปีใหม่เป็นต้นมา ถามว่ารัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน รู้หรือไม่ว่าราคาน้ำมัน ปรับขึ้นไป 8-9 ครั้งแล้ว ขึ้นไปรวมๆแล้ว 3-4 บาทต่อลิตรเข้าไปแล้ว กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงานทำอะไรบ้าง รัฐบาลท่องแต่เงินเฟ้อติดลบ แต่ไม่สนใจที่จะแก้ไขน้ำมันแพง ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนที่ทำให้สินค้าราคาแพง อาหารราคาแพง

วิกฤตเศรษฐกิจในสายตาของรัฐบาล คือ ความต้องการที่จะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทให้ได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในความรู้สึกของประชาชน คือรายได้ในกระเป๋าโตไม่ทันกับรายจ่ายที่พุ่งขึ้นอย่างบ้าเลือด ในเมื่อประชาชนไม่รู้สึกว่าเงินเฟ้อติดลบ รู้สึกแต่ว่าข้าวของแพงมากมายมหาศาล

เมื่อรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าเงินเฟ้อติดลบ เปิดตะกร้าการคำนวณตัวเลขเงินเฟ้อ มาอธิบายให้ประชาชนได้รับรู้ได้หรือไม่ ว่าคำนวณ มาจากอะไรบ้าง เพราะเท่าที่รู้ตะกร้าเงินเฟ้อที่ใช้คำนวณตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในขณะนี้ไม่เป็นปัจจุบัน สินค้าหลายตัวใช้คำนวณไม่ได้แล้ว ฐานราคาเปลี่ยนไปแล้ว แต่ยังใช้ฐานเดิมอยู่นั่นแหละ ไม่รู้ว่าเพื่อที่จะกดตัวเลขเงินเฟ้อให้ต่ำให้ติดลบใช่หรือไม่

จริงๆแก้ปัญหาของแพงได้ หยุดการขึ้นราคาน้ำมันได้ หยุดการรีดไถค่าบริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ค่าน้ำค่าไฟฟ้า ค่าทางด่วน ค่ารถเมล์ ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้าง สารพัดค่าใช้จ่ายที่กดทับประชาชนอยู่ในขณะนี้ ลดลงได้เมื่อไหร่จะดีมากกว่าสำหรับประชาชน อย่างน้อยก็ดีมากกว่ารอคอย เงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่จนวันนี้ ยังเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ยังไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ รู้แต่ว่ารัฐบาลเศรษฐายังมุ่งมั่น

แต่ตอนนี้ประชาชนไม่มั่นใจว่าการได้มาแค่หมื่นบาท จะทันกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวันได้หรือไม่

เข้าใจว่าต้องการให้เห็นว่าเป็นนโยบายที่ตั้งใจทำให้ได้จริงๆ แต่โบราณว่าน้ำไกลดับไฟไม่ได้ ตอนนี้ไฟสินค้าราคาแพงลุกโชน จึงอยากให้รัฐบาลเศรษฐา ตระหนักในเรื่องนี้ให้มากๆ และรีบแก้ไขสินค้าราคาแพงโดยด่วน

ภูวนารถ ณ สงขลา