แจกแล้วรวย-ช่วยดูมั่ง

“เป็นหนี้ยังลูกยันหลาน”

วาทะเดิม ร่องเสียงเก่าๆที่ “ขวางความเจริญ” ไม่ให้ “พรรคเพื่อไทย เดินหน้าแก้ปัญหาให้ฉลุย

“นักอนุรักษ์นิยม” ผู้ทำนาบนหลังคน เกี่ยวเก็บประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์จากหยาดเหงื่อแรงงานของเพื่อนมนุษย์ร่วมชาติ

“แจกดิจิตอลวอลเล็ท ๑๐,๐๐๐ บาท” แก่ประชาชน ๕๐ ล้านคน วงเงิน ๕ แสนล้านบาท “พรรคส้มกับอนุรักษ์นิยม” ฟาดงวงฟาดงา เอะอะอาละวาด เหมือนคนไม่สมประกอบ ที่ริมข้างถนน

“รถไฟฟ้าความเร็วสูง” ที่ “อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หัวใจเป็นนักการเมืองแต่ไม่ทำตัว “ขี้เหร่” ใช้เล่ห์นักการเมืองไปยึดอำนาจ ไม่ให้นายกฯหญิงนำความเจริญอันแท้จริงมาสู่บ้านเมือง

สิ่งดีงามอันงอกเงยมีรสชาติอย่างไร สัมผัสกับสิ่งที่ “ประเทศลาว” น้องเพื่อนรักที่บ้านและแผ่นดินติดริมโขงทั้งสองฝั่ง

ผลประโยชน์ที่ “น้องลาว” กำลังโกยกอบอย่างมหาศาล

มีเคลื่อนมหาชน “นักท่องเที่ยว” ต่างชาติไปเยือนเหยียบย่ำพื้นแผ่นดินสุวรรณภูมิของชาติเขาจนล้นหลามทุกเที่ยว

ทุกคนพากันมุ่งหน้าไปเสพชีวิตป่าดงดิบ ที่อารยธรรมความเร่งเร้าและรีบเร่งยังเข้าไปทำลายไม่ถึง

จุดหมายที่เขาไปชื่นชมโสมนัส คือ “หลวงพระบาง” ถิ่นธรรมะ ปั้นข้าวเหนียวใส่บาตรยามเช้า ช่างมีแต่ความสุขใจ

ไม่มีเขม่ารถหรือควันเสียเข้ามาแทรกให้ “ปอดดำ” เป็นตับเป็ดหรอก..

เพราะพี่น้องประชาชนคนลาว เขาไม่ “ใจบอดตาบอด” เป็นพวกนั่งสัปหงก มีอาการหน้าหงุบๆ คิดแต่จะหลับ

มองไม่เห็นความเจริญ ที่เป็น “วัฎจักรโลก” ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง

เป็น “ประโยคที่เรื้อรัง” ใช้กันมานานจนกลายเป็นคำที่ติดปาก

ในการเหยียบเบรกใช้ “งบประมาณก้อนใหญ่” ว่าจะเป็นหนี้ถึงลูกถึงหลาน อีก ๑๐ ปี หรือ “ชาติหน้า” ก็ใช้ไม่หมด

“รัฐบาลเศรษฐา” เขาปัญญาเลิศ.. ไม่ได้ “สมองกลวง” อย่ามา“พูดมาก-ไร้สาระ”.. “เงินที่จะคืน”เขาวางสเตปว่า “๓ ปี”ชำระก้อนนี้หมด

“การเปลี่ยนแปลง” เป็น “สมบัติคู่กัน” เพื่อพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

“สิงโต-สิงคโปร์” เป็น “ศูนย์กลางการเงิน-การค้า” ที่ติดท็อปฮิตของโลก

ปรากฏเป็นที่แน่ชัด “เงินเฟ้อ”อย่างหนัก..ทำให้ประชากรสิงคโปร์ “อมทุกข์” เพราะ “ความยากจน” มาเคาะถึงประตูบ้าน

ผู้นำแดนลอดช่อง ก็ไม่ได้เลิศล้ำไปกว่า “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” กันซักกี่ส่วน.. เขาแจกเงินคล้าย “ดิจิตอลวอลเล็ท” เหมือนกับประเทศไทยนี่แหละ

หนแรกจ่าย ๔๕๐ เหรียญ..แต่ยังอุดรูรั่วเศรษฐกิจ ยังไม่ทุเลาดี จึงแจกอีกในรอบที่ ๒ คราวนี้เพิ่มจำนวนเป็น ๕๐๐ เหรียญ เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ มีเงินจับจ่ายใช้สอย ..“เงินมือคล่องมือ” เศรษฐกิจก็รวยอื้อซ่า ขึ้นมาให้เห็น

ไม่มีหรอกที่จะมี “นักอนุรักษ์นิยม” หรือ “พรรคการเมือง” ที่ออกมาค้านกันอย่าง “ขาดเหตุผล” เช่นเมืองไทย

ค้านเพื่อให้ “คนไทยจมปลัก” ดักดานอยู่กับความจนเช่นนี้ มีแต่ “นักอนุรักษ์และพรรคฝ่ายค้าน” นี่แหละ ที่ทำเป็นสันดานซะจนเกินตัว

“มาเลเซีย-อินโดนิเซีย” จีดีพีเขาเติบโตและแข็งแรงอยู่ในระดับ๕% หรือ๗% ทิ้งห่างประเทศไทยกันไปหลายลี้แล้ว

“แบงก์ชาติ” หรือ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” โดยมี “เศรษฐวุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เป็น “หน่วยเปาเปียว” รักษาการเงินแผ่นดิน

“เป็นน้ำกับน้ำมัน”

“ผสมเคมีเข้ากันไม่ได้สักหยด”

ทั้งยังมี “ป.ป.ช.” องค์กรอิสระ ที่ผูกอำนาจ “สามขุม” มาจาก “คสช.” ตั้งหน้าค้านแจกดิจิตอลวอลเล็ต กันทุกเม็ด

ผลพวงที่ “สิงคโปร์-มาเลเซีย-อินโดนิเซีย” แจกดิจิตอลวอลเล็ต ให้ลงไปถึงมือของประชาชนทั้ง ๓ ประเทศ

เหมือนเป็น “ปุ๋ยชั้นดี” สร้างความเจริญให้กับ “ประเทศ” กันอย่างทันตาเห็น

เหมือนเป็นพวก “ช่างค้าน” อย่างหัวปักหัวปำ สาธุชนเขาไม่ว่ากัน

หาก “เศรษฐกิจไทย” ต้องมา “ตกต่ำกว่า ๑.๘%” พวกที่ค้านเพื่อไม่ให้ “บ้านเมืองเจริญ” ต้องรับผิดชอบ

จะมา “ลอยตัว” วิ่งหนีกันตัวปลิว กลางตลาดไม่ได้นะ

“ดิจิตอลวอลเล็ต” แจกแล้วเศรษฐกิจดีขึ้น คนรวยขึ้น ก็เห็นกันแล้วตั้ง ๓ ประเทศ

ทั้ง ๆ ที่การแจก..ไม่ได้ไปแด๊กบนศีรษะ ไอ้ลูกช่างค้านพวกนี้เสียหน่อย

“กะพรุนไฟ”