24 ตุลาคม 2024

‘ประเสริฐ’ ขานรับ ปั้นไทยฮับเศรษฐกิจดิจิทัล ดึงบริษัทไฮเทคขยายลงทุนในไทย

0

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการแถลงวิสัยทัศน์ Thailand Vision ที่ทำเนียบรัฐบาล ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลและสุขภาพอาหาร การบิน การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เทคโนโลยี และการเงิน ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงดีอีโดยตรง คือ การนำคลาวด์มาให้บริการประชาชน การมุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล การเสริมสร้างทักษะดิจิทัล การสร้างคนและส่งเสริมโอกาสให้เติบโตได้ในประเทศของตนเอง การดึงการลงทุนด้านเทคโนโลยี และได้ยกวิสัยทัศน์ การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) ดังนั้น ดีอีพร้อมดำเนินการในการเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ (The Growth Engine of Thailand) ที่เน้นการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล (Human Capital)

“ในวงการกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีประเทศไทยมีบุคลากร สถานศึกษา และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ประเทศไทยถือเป็นพื้นที่แห่งการการวิจัยและพัฒนาที่ช่วยเสริมแรงให้กับการวิจัยและพัฒนาร่วมกับบริษัทต่างๆ โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้นักศึกษาไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้วย ดังนั้นกระทรวงจะเดินหน้าเต็มที่”นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าดึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต Digital for all Technology Innovation AI ให้มาขยายธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยีไฮเทคต่างๆ ทั้งการลงทุนโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ การตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์รองรับคลาวด์ การวิจัยและนำเอไอมาใช้งานในประเทศไทย เกิดการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อยกระดับความสามารถของคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง โดยใช้ความร่วมมือจากบริษัทเอกชนแถวหน้าของโลก รวมถึงดึงบริษัทเทคโนโลยีระดับสูงที่มีความซับซ้อน ผ่านการค้นคว้าวิจัย และคิดค้นขึ้นมาใหม่จากนวัตกรรมเชิงวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ (Deep Tech) ให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยด้วยเช่นกันผ่านโมเดลแซนด์บ็อกซ์

นายประเสริฐ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะมีเงินสนับสนุนบริษัทที่ต้องการผ่านกองทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและจะทำการจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน (Matching Fund) เติมทุนให้กับบริษัทที่มีศักยภาพด้วย ขณะเดียวกันเตรียมปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการตั้งบริษัท การทำงาน การรับ-จ่ายเงินเดือน การถือครองทรัพย์สินต่างๆ เพื่อดึงคนที่มีความสามารถเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนให้บริษัทสามารถประกอบธุรกิจข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้จุดแข็งทางด้านการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่ที่อยากจะร่วมงานกับบริษัทชั้นนำในระดับโลก ไม่ต้องย้ายไปอยู่ในต่างประเทศ และจะเป็นโอกาสให้คนไทยที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจสตาร์ตอัพสามารถสร้างยูนิคอร์นของตนเองต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *