24 ตุลาคม 2024

“ความกลัวทำให้เสื่อม”

ตรรกะแห่งเหตุผลอยู่ในตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เพราะไม่มีความกล้า”เป็นปฐมในเบื้องแรก จะทำอะไรก้อ“ล้มเหลว”ไปกว่า ๑๐ ส่วน..

ยากเย็นเข็ญใจที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ เมื่อมัวแต่“ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” เลยไม่สามารถ“ชักแถว”เพื่อ“แก้เศรษฐกิจ”ให้เดินหน้าฉลุย

“เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรี เหมือนเป็น“ว่าวที่ขาด” หยุดจากห้วงอำนาจของประชาชนตามที่เห็น

“ใช้อำนาจประชาธิปไตย”ที่ประชาชนมอบให้ผ่านรัฐสภาไปอย่าง“อีหลักอีเหลื่อ”เต็มกลืน

ถ้า “ประมุขทำเนียบ” มี“แสงอยู่ในตัวเอง”

“นโยบาย” โครงการที่กำหนดเป้าหมายอย่าง “ดิจิตอลวอลเล็ท”แจกเงินประชาชนคนละหมื่นบาท คงไม่กลาย“เป็นหมัน” แท้งกลางอากาศ ลูกผี-ลูกคนเช่นนี้

ถึง “แบงก์ชาติ” และ “ปปช.” จะเป็นองค์กรอิสระ..จะใช้อำนาจ“บริหาร”ของ“รัฐบาล”เข้าไป“ขัดแตะ”ไม่ได้

แต่ถ้า “ผู้นำประเทศ” ทำตัว“หงอ”เหมือนกับเป็น“กุ้ง” ชาติและแผ่นดินจะเกิดการสร้างใหม่เพื่อให้ทันกับ“วิกฤต-เศรษฐกิจ”ที่ร่วงผล็อย ได้ฉันใด

การคิดทำ“สิ่งที่เหนือน้ำ” สร้างความชุ่มฉ่ำให้กับประชาชนและแผ่นดิน จะต้องมี“ความกล้า”เมื่อเสนอตัวเข้ามา

แต่ ๕-๖ เดือนที่ผ่านมา “นายกฯเศรษฐา”ติดนิสัยอยู่ในกรอบ การเป็น“พ่อค้า-นักธุรกิจ”อสังหาริมทรัพย์ “ขยาด” ครั่นคร้าม กลัวต่อ“ระบบข้าราชการ”ที่เป็นเสือ จ้องกินเลือดกินเนื้อพวกนักธุรกิจได้ตลอดเวลา

อำนาจจากประชาชนไม่ใช่“ขี้ไก่” ควรจะใช้“ปลดทุกข์-สร้างสุข”ได้อย่างคับแก้ว ไม่ใช่ปล่อยให้มีดุ้น หรือ“ขวากหนามมาทิ่มตำ” ต้องรัฐบาลกลายเป็น“เป็ดง่อย”

ย้อนไปดูสมัยที่ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” เป็นนายกฯ มี “สมหมาย ฮุนตระกูล” เป็นขุนคลัง ก้อใช้ปังตอสับฟันเปรี้ยง ปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ “นายนุกูล ประจวบเหมาะ” ให้หลุดไปทั้งยวง

ที่“ป๋าเปรม”ต้องลงดาบไม่ยั้งรอ..เพราะเศรษฐกิจของประเทศยามนั้นต้องการฟื้นตัวจากนโยบายส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการส่งออก และการท่องเที่ยว ต้องใช้แรง“กระตุ้น” ขับเคลื่อนกันเต็มลิมิต

เปรียบไปแล้ว สถานการณ์ยุค“ป๋าเปรม” และ“เศรษฐา” ตกที่นั่งเศรษฐกิจชำรุด-จุดเดียวกันเป๊ะ แต่ยุค“เศรษฐา”หนักกว่าหลายกิโลขีด

เพราะ “ประชาชน-คนรากหญ้า”เงินเกลี้ยงกระเป๋า จึงต้องสร้าง“พายุหมุน”ให้มีเงินเข้ามาในระบบ แจกดิจิตอลวอลเล็ท คนละ ๑๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นคำตอบ“ที่ใช่เป็นที่สุด”

จึงไม่ควรให้“ปราการใหญ่” อย่าง“แบงก์ชาติ”มาเป็นกำแพงล้อมกั้นดิจิตอลวอลเล็ท

“ใบกำกับ”ที่เป็นเสมือนหนึ่งแห่งเหตุผลในการ “ปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” ก็มีอึ้ดทึ่ด

เหมือน “ท่านเศรษฐา” กลัวว่า เมื่อตกบัลลังก์อำนาจ “จะถูกเอาคืน”

แบบอย่างที่มี และดีเสียด้วย ไม่ดู“ป๋าเปรม”เล่า.. ท่านอยู่ได้ ๘ ปี เศรษฐกิจโชติช่วงชัชวาล

“เศรษฐา”คิดจะอยู่ครบเทอม ๔ ปี และบวกอีก ๑ สมัย เป็นนายกฯถึง ๘ ปีนั้นคงจะยาก.. หากสยบยอมให้“องค์กรอิสระ” และ“รัฐราชการ”

ท่านอยู่มาไม่กี่เดือน ทำให้“อำนาจประชาชนเสียของ”จนบอกไม่ถูก

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *