24 ตุลาคม 2024

ทำเป็นเหมือน“หน่วยซีล”ปฏิบัติการณ์อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพในการ“จู่โจม” โดยไม่“พลาดเป้า”

แต่ดูเหมือน “ปฏิบัติการณ์ฉายเดี่ยว”ของ“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะ“คว้าน้ำเหลว” ไม่ได้ผล ไม่ได้อะไรติดมือมาฝากให้กับแผ่นดิน

รู้อยู่เต็มอกว่า ระบบตรวจคนเข้าเมือง “ตม.”สนามบินสุวรรณภูมิ ที่จะยกเป็น“ฮับแห่งภูมิภาคอาเชี่ยน”ด้อยและล้าหลัง

และก็เป็นจริงดังว่า เมื่อ“นายกฯเศรษฐา”ไปไหนมาไหนคนเดียว.. ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ เจอเข้าไปถึงสะอึก ชะงักงัน นิ่งอึ้งไปเลย

ใครจะไปเชื่อ..เราจะเป็น “ฮับ” ของสนามบิน ..แต่ทว่า, ระบบ “Back up system” ล่มบ่อย จนหลายคนเซ็งมะด้องก้อง

ส่งผลเสียหายค่อยๆพังทลาย ยับย่อย ให้แก่“ธุรกิจการท่องเที่ยว” และ“นักธุรกิจ”ที่หอบเงินปริมาณมากๆเข้ามาลงทุน พากันเบื่อหน่าย จนหมดรสชาติที่จะเข้ามาเมืองไทยเป็นคำรบที่สอง

เมื่อเทียบกับ “สนามบินชางงี”ของสิงคโปร์ ที่ได้รับการโหวตให้เป็นที่ ๑ มาถึง ๘ ปีซ้อน

โดยเฉพาะ “โรงแรมคราวน์ พลาซา” ที่อยู่ในสนามบินให้บริการยากที่จะลืมเลือน จนสนามบินเรา “ตามกินฝุ่นเขา” มาจนถึงทุกวันนี้

ในเรื่องสนามบิน เราคงใช้สุภาษิต ที่ว่า “ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม” คงจะไม่ได้หรอกท่านผู้ฟัง ปล่อยให้นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ต้องชักสะพานแหงนถ่อรอเข้าคิว“ตรวจระบบเข้าเมือง”นานตั้ง ๓๐ นาที

เสียเวลาเปลืองประโยชน์ไปอย่างเปล่าๆปลี้ๆโดยไม่จำเป็น อะไรมันจะ“งามหน้า”ขายปลาช่อนได้ถึงขนาดนี้เล่า

มาครั้งที่ ๒ เมื่อวานนี้(๒๖ กุมภาพันธ์) .. “นายกฯเศรษฐา” เป็นศิลปินเดี่ยว ลงดูงาน“การลงแส้”ไว้กับสนามบินสุวรรณภูมิอีกหน คิดว่าจะ“เพอร์เฟค” สมบูรณ์ดีพร้อมไร้ตำหนิ มีการ“ยกเครื่อง-ซ่อมใหญ่”ให้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็น“ฮับการบิน”อย่างทันตาเห็น

แต่เหมือนว่าจะ“เสียแรง” สิ้นปัญญาไร้ประโยชน์ ไม่คุ้มกับการออกโรง ทั้งที่“ลงดาบไปแล้ว” ก็หายต๋อยไปซะงั้นแหละ

“นายกฯเศรษฐา”คงพบปัญหาเดิมๆ ไม่“ต่อเติมสิ่งใหม่ๆ”ที่กระทุ้งกันเอาไว้

โดย “ไม่พอใจในจุดบางจุด” ที่ยังไม่ยกระดับมาตรฐานให้เป็นสากล

พิจารณาด้วยใจเป็นธรรมแล้ว คงไม่“ประทับใจจ๊อด”แก่นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เข้ามาอีกนั่นแหละ

โดย “นายกฯเศรษฐา” ตอกหัวตะปูย้ำให้เจ้าหน้าที่ลดเวลาใช้บริการตามจุดต่างๆให้น้อยลง ทั้งที่เพิ่มประสิทธิภาพของ“เทคโนโลยี” และ“บุคลากร”เข้าไปแล้ว แต่ยังทำงานไม่ทันรับประทานอยู่ดี

หากแม้ขาด“งบประมาณ” เพื่อเข้ามาเสริมทักษะให้เกิด“ความรวดเร็ว”ว่องไวเหมือนสนามบินเพื่อนบ้าน ต้อง“ตัดงบประมาณ”การไปดูงาน..หรือพูดให้เข้าท่าหน่อ“งบไปท่องเที่ยวต่างประเทศ” พากันไปเตร็ดเตร่กันมากกว่า

ไม่ว่างบ “สส.หรือ สว.” รวมกระทั่งงบของ “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่”.. “ต้องตัดให้เหี้ยน”.. กลับมา ไม่เห็นได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

จง..“ตัดงบดูงาน-ท่องเที่ยวต่างประเทศ”ขลิบอย่าให้เหลือไว้ทำพันธุ์

เอามาถมใส่ “งบตรวจระบบคนเข้าเมือง” ที่สนามบินสุวรรณภูมิ “มันคุ้มกว่ากันเยอะ” กับประโยชน์ที่ประเทศจะได้มา

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *