ปรับครม.-จ้อกันไป

มิตรร่วมพรรค-ผลักให้ไปนั่งข้างเวที เป็นแค่คนดู มีหน้าที่แค่ส่งสายตาปริบ ๆ

หากไม่ได้สำแดงฝีมือ ในการ “บริหารประเทศ” เขาใครจะเอ็นจอย ด้วยหละ

มี “สื่อ-ถือหางบางค่าย” แจ้งข่าวเป็นรายวัน ถึงการ “ปรับคณะรัฐมนตรี” เพื่อเปลี่ยน “เก้าอี้ดนตรี”ให้คนอื่นเข้ามานั่งมั่ง

ถึง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี กรีดด้วยคมวาจา ว่าไม่มี “แพลน-แผน” ปรับแต่ประการใด แต่ยังทู่ซี้ตรากตรำ ที่จะถามกันอยู่ได้

ผู้เป็นเสมือน “กุนซือรัฐบาลนิด” หยั่งกะ “ภูมิธรรม เวชชยชัย” รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ยันจนซี่โครงบาน ไม่มีการ “ปรับครม.” ให้เสียรังวัด

เมื่อรัฐบาลมาตัวเปล่า ไม่มีงบประมาณติดมือ เพื่อลงไปทำงานตามนโยบาย ได้ “ชิ้นงาน-เนื้องาน” ฝากเอาไว้กับแผ่นดิน โดยยังไม่ผ่านวาระ ๒-๓ ก็ผลิตจนเกิดผลลัพธ์ ยอดเยี่ยมดังน้ำค้างบนยอดหญ้าเช่นนี้..

ไม่มีหรอก-คิดปรับใครออก ตามแรงสื่อที่เป็น “ตัวเสี้ยม” ทั้ง “ยุยง-ปลุกปั่น” กันมาตลอด..เพื่อทำให้รัฐบาลที่แข็งแกร่งเหมือน “ไม้ไผ่” ที่มัดร่วมกันเป็นหนึ่ง ยากต่อการใช้หัวเข่าทำให้หักสะบั้นเป็น ๒ ท่อนได้

“งบประมาณก้อนแรก” ยังไม่ได้ดำเนินการแตะต้องกันซักกะแดงเดียว จะเอา “เกณฑ์อะไรมาปรับ” ไม่มีจริงๆ “มาตรฐานพันธุ์นี้”

เที่ยวไปเอกซเรย์ ว่ารัฐมนตรีคนนั้น-คนนี้ “ผลงานบ่มิไก๊” ไม่มีอะไรในกอไผ่ให้เป็นที่ชื่นชมของประชาชนได้ จึงจะต้อง “เขี่ย” ให้พ้น “เส้นทางสายอำนาจ” ไป

เมื่องบประมาณ ยังอยู่ในช่วงที่ “คาลำกล้อง” ต้องผ่านการพิจารณาวาระ ๒-๓ จนไม่อาจใช้เป็นหลักพิจารณาวินิจฉัยตัดสินใดๆ ได้เลย

สมควรหรือที่จะมา “ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก” จะให้ปรับครม.แบบโมเมไร้ข้อตัดสิน

ขนาด “พรรคก้าวไกล” ที่มีคุณภาพการค้าน โดยเข้าถึง “ข้อมูล” เป็นอย่างดี ยังบอกว่าเล่นยาก-ไม่กล้าเปิดฉาก เปิดอภิปรายรัฐบาลเศรษฐา ต้อง“ถอยกรูด”ไม่เปิดซักฟอกในสมัยนี้

“ก้าวไกล” เขาก็บอกตรงๆซื่อๆ จะเอาอะไรไปตีให้ “รัฐบาลพัง”

“ขุด” อะไรขึ้นมาล่อเขา..เอาเรื่องใดมาลากไส้ เพื่อเล่นงาน“ทุจริต” เมื่อเขายังไม่ได้ใช้งบประมาณกันเลย

ปฏิกิริยา “เศรษฐา” ขยันทำงานวันละ ๒๔ ชั่วโมง เสาร์-อาทิตย์ วันหยุด วันโกน วันพระ ก็ไม่หยุดเพื่อนอนทอดหุยไม่เอาธุระ “เป็นวันหยุดของข้านอนดีกว่า”

หัวหน้ารัฐบาล ทำงานแบบ “ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน๊อต” รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง จะมา“เกียจคร้าน”ไร้ผลงาน เป็นไปได้ฉันใด

ที่มีการ “กระพือโหม” มีการเผยแพร่ และกระจายข่าวกันอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องอย่างไม่มีขีดจำกัด โดยยกเอา “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มาเป็น“จุดอ่อน” ข้อด้อยเพื่อเข้าตีจะได้ชัยโดยง่าย

แต่ “ผู้กองธรรมนัส” เหมือน“กระท้อน” ยิ่งทุบยิ่งหวาน ยิ่งมีคุณภาพมากขึ้น

กระทุ้ง “ท่านธรรมนัส” เพื่อให้เกิดแรงกระแทก จนทำให้รัฐบาลทะลุ เป็นการ“สร้างข่าว”ของ“ขบวนการ-สื่อปีจอ”

ที่จ้อหวังทำลายรัฐบาล เท่านั้นแหละ

“กะพรุนไฟ”