เกาะกูด-ให้ทหารพูด
ต่อให้ “รัฐบาลเศรษฐา” พูดความจริง ปากเปียก-ปากแฉะ จนฉีกไปถึงปลายหูก็ตาม แต่ก็ “หักล้าง” ข้อมูลที่เขายัดใส่โสตประสาทกันทุกวันคงไม่สำเร็จ
เรื่อง “เกาะกูด” ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราด มีความใหญ่เป็นอันดับ ๒ รองจาก “เกาะช้าง” ที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน
“เกาะกูด” ยืนเดี่ยวเป็นอันดับ ๔ ที่ใหญ่ของประเทศไทย ว่ากันว่า “ทะเลสีเทอร์ควอยส์” ของเกาะกูด มีมนต์เสน่ห์ตรึงตรา-ตรึงใจนัก
ทำให้ “เกาะกูด” เป็นสวรรค์ของคนที่รักทะเล และมักจะ “วนลูป” มาลูบไล้ความเป็นธรรมชาติอยู่เป็นประจำ บนเกาะนั้นเล่า มี “น้ำตกคลองเจ้า” ที่ไหลทั้งปี ประชาชนลงเล่นน้ำได้ปลอดภัยหายห่วง
น้ำตกคลองเจ้ายังเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ ซึ่งครั้งหนึ่ง “พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว” เคยเสด็จประพาสเมื่อปี ๒๕๒๔ และได้ทรงพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก”
เพื่อเป็นที่ระลึกถึง “องเชียง สือ” กษัตริย์ญวนที่เคยลี้ภัยเข้ามาอาศัยแผ่นดินไทยในยุครัฐกาลที่ ๑
เกาะกูดมีชายหาดที่หลากหลาย อยู่รอบเกาะ.. ไม่ว่าจะเป็น อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ แหลมหินดำ หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ แหลมบังเบ้า หาดอ่าวพร้าว แหลมเทียนแหลมสับปะรด แหลมศาลา อ่าวยายเกิด อ่าวคลองหิน มีพื้นทรายที่ขาวบริสุทธิ์เป็นของแท้สำหรับคนที่มาเยือน
ฉะนั้น,เมื่อเป็นฉะนี้ “เกาะกูด” ถูกประทับตราขึ้นทะเบียนโลกเป็นของไทยเราแท้ๆ
แต่อยู่ๆคนไทยด้วยกันตบเท้ากันมาออก “งิ้วหลงโรง” อ้างในสิ่งที่ “ไร้สาระ” เขียนนิยายจอมปลอมกันขึ้นมา
ว่าการพบระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” กับ “สมเด็จอัครเสนาบดีเดโช ฮุนเซ็น” ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา ที่มาเป็นอาคันตะกุเยือน ณ บ้านจันทร์ส่องหล้า
จะมีการ “เอื้อ” เพื่อเอาใจฝ่ายเขมร จน “เกาะกูด” แหล่งท่องเที่ยวของไทย จะถูกแบ่งเป็นของกัมพูชา
ยกแม่น้ำร้อยสายขึ้นมาว่า ระวังเราจะเสียพื้นแผ่นดิน เหมือนกับเสีย “เขาพระวิหาร”
การ “ก่อหวอด” ทอดทิ้งความจริงเช่นนี้ ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งต้องไม่พอใจเป็นของธรรมดา
การปลุกเรื่องนี้เพื่อ“ล้มรัฐบาลเศรษฐา” หยิบเรื่อง “ทักษิณ” ขึ้นมาเป็นชนวน-กวนประเทศให้วุ่นเสียงั้น
ทุกคนต่างรู้ดี “เกาะกูด” เป็นสมบัติของชาติ สิ่งที่ทุกคนในชาติร่วมกันเป็นเจ้าของ แต่ก็เติมฟืนเป็นไฟ ทั้งที่ขาดความเป็นจริง
ถึง “ฝ่ายรัฐบาล” จะหยิบข้อกฎหมายออกมา “เจียระไน” แถลงชี้ชัดอย่างละเอียดถี่ยิบ แต่ “ศัตรูเก่าทักษิณ” คง “หาเหตุเกินเลย” มาใส่ไคล้สาดโคลนกันไม่ลดละ
เพื่อเป็นการ “ดับไฟเรื่องเกาะกูด”.. ต้องร่วมแถลงยกระดับ โดยมีทั้ง รัฐบาล-ทหารบก-ทหารเรือ-ทหารอากาศ ร่วมกันเป็น ๔ ประสานให้ความจริงในเรื่องนี้ เป็นการสร้าง “ขั้วบวก-ขั้วลบ” ในระบบพลังงานไฟฟ้าขึ้นมา
เพราะทหารทุกเหล่าทัพ มีคำพูดที่เหมือนกันหนึ่งประโยค “ไม่ยอมเสียพื้นแผ่นดิน แม้แต่ตารางนิ้วเดียวให้ใคร”
เอาทหารที่รักษาอธิปไตยของชาติเข้ามาร่วมแถลงด้วย ย่อมสร้างความมั่นใจของกับประชาชนเชื่ออย่างสนิทใจ
รัฐบาลไม่ควรทำตัวเป็น “โดดเดี่ยวผู้เดียวดาย” แถลงชี้แจงความจริง แต่ “ฝ่ายปั่น” คงปั่นมือเป็นประวิง ไม่ยอมหยุด
ว่ากันแล้ว “รัฐบาล” กับ “ทหาร ๓ เหล่าทัพ” เป็นเสมือนขั้วบวก-ขั้วลบ ที่ให้การไหลของกระแสไฟ เกิดความสว่างจ้าทางปัญญาอย่างถูกต้อง
จาก ๒ ขั้วที่ว่าจะเกิดการแยกตัว หรือการเคลื่อนของอิเล็กตรอน หรือโปรตอน ทำให้เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าที่สว่างโชติช่วง
“ความจริง” ต้องสว่างไสวขับไล่ “ความมืดมิด”
มีทหารเข้ามาร่วมพูด “จุดเรื่องเกาะกูด” อย่างไร มันก็ไม่ติด
“กะพรุนไฟ”