24 ตุลาคม 2024

มาจากการ“ผสมเทียม” ของ“คณะรัฐประหาร คสช.” จึงรู้คุณค่าผู้“แต่งตั้ง”เป็นอันมากส์

“สว.ลากตั้ง ๒๕๐ คน” จะอยู่ครบ ๕ ปี หมดวาระเสียที ท่ามกลางประชาชนโห่ร้องดีใจกันทั้งแผ่นดิน

วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ก็จะ“ลอยตุ๊บป่อง”ไปกับการได้ดีจาก“กลิ่นอายปฏิวัติ” ไม่เหลือ“มรดกควันปืน” ให้เป็นที่“แสลงหัวใจ”ของผู้รักประชาธิปไตยต่อไป

นับแต่ได้รับการ“ประทับตรา”จาก“คสช.” เข้ามาเป็น สว. เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ดูเหมือน“สว.ลากตั้ง ๒๕๐ คน”สวมบทเป็น“เตมีย์ใบ้” ผู้มากด้วย(เนกขัมมบารมี) คือแกล้งเป็นคนง่อยเปลี้ย หูหนวก และเป็นใบ้

อดทนและมองไม่เห็นสิ่งต่างๆ ของ“รัฐบาล คสช.” ที่ฝากผลงานไม่เป็นโล้เป็นพาย ทั้งที่“ความล้มเหลว”ผุดขึ้นทุกวัน

เรียกว่า ๕ ปี ไม่เคยลุกขึ้นมาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตร ๑๕๓ ในการท้วงติง ให้แก้ไขสิ่งผิดโดยไม่ลงมติ

แต่กับ“รัฐบาลเศรษฐา” ที่ฝ่ายประชาธิปไตยพากันยล ตลอด ๖ เดือนที่เข้ามามีผลงานขี่คอเหนือ“คสช.”หลายกระบุง มี“สว. ๙๘ คน” ลงชื่อเกือบครึ่งหนึ่งของสภาฯสูงเพื่อสอบถามรัฐบาล ที่ไม่มีผลงานอะไร“เข้าตากรรมการ”สักเรื่อง

เดินหน้าเต็มพิกัด ฟัดรัฐบาลให้หนำหัวใจ โดยเฉพาะ“สว.สมชาย แสวงการ”ระบุ “รัฐบาลเศรษฐา”สอบตกทุกข้อ ผิดกับ“รัฐบาลคสช.” ที่ประชาชนรุมถล่มอึงมี่ ดังระงมอื้ออึงไปทั้งแผ่นดิน แต่สมาชิกวุฒิสภาไม่เคยได้ยินเสียง“ร้องโหยหวน” ที่คร่ำครวญเจ็บปวดด้วยความเสียใจที่รัฐบาลนั้นละเลยเขาไป

ข้อหา ๑๐ ประการ ที่“สว.”มอง“รัฐบาลของประชาชน”ว่า“บ่มิไก๊” ใช้ไม่ได้เลยนั้นมีดังนี้…

นโยบายกู้เงิน ๕ แสนล้านมาแจกดิจิตอลคนละ ๑ หมื่นบาท คงเป็นไปไม่ได้ เสี่ยงผิดกฎหมาย กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้จริง

การแก้ไขหนี้สินเกษตรกรและประชาชน ที่สะสมและซับซ้อน ต้องใช้เวลานาน สำเร็จก็มีแค่บางราย

ปัญหาพลังงานก็แก้เฉพาะหน้าเป็นการชั่วคราว ด้วยการคุมราคา ลดภาษีสรรพามิต ยืดชำระหนี้ค้างจ่าย ๑ แสนล้าน ยังไม่ใช่การแก้ปัญหาพลังงานทั้งระบบ

ยกเลิกวีซ่ากับหลายประเทศ เช่นจีน เป็นเรื่องดีประสบความสำเร็จ ต่อยอดกิจการต่างประเทศ แต่เป็นการเจรจามาแต่เดิม

การจัดแสดงสินค้ากระตุ้นการท่องเที่ยว เช่นเทศกาลสงกรานต์ไทย แต่จัดหลายพื้นที่ ไม่มีจุดเด่น สิ้นเปลืองงบประมาณ

ปรับปรุงสนามบินและสายการบิน ยังไม่เห็นการแก้ไขเป็นรูปธรรม

ปัญหาทุจริตไม่เห็นความตั้งใจและความพยายามอย่างจริงใจ

การปราบปรามคนที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวยังไม่มีรูปธรรม

ความเห็นต่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีความคืบหน้าอย่างแท้จริง

การฟื้นฟูหลักนิติธรรม ที่เข้มข้นมีประสิทธิภาพโปร่งใส เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ ข้อนี้เห็นผลเป็นลบที่ชัดเจนที่สุด ในกรณีใช้อำนาจบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และโรงพยาบาลตำรวจ กรณีนักโทษเด็ดขาด ทักษิณ อดีตนายกฯ จนประชาชนเสื่อมศรัทธา และขาดความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมไทย

แต่ไม่ยักเห็น “สว.ลากตั้ง” บรรจงลากไส้“ขบวนการก่อการร้าย”ที่ยึดสนามบินเพื่อมาล้มรัฐบาลประชาธิปไตย

ประเทศไหนๆ เขามองการ“ยึดสนามบิน” เป็นเรื่องวิกฤตที่สุดในโลก แต่ไฉนท่านไม่นำพาหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาขยี้กันมั่ง

ที่แน่ๆ สว.ที่มาจากท่ออำนาจ คสช. เมื่อสิ้นวาระ ๕ ปี จะลงสมัคร สส. หรือ สว. ไม่ได้ แต่มี“สิทธิ์”ที่จะไปเป็น“คณะกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ”ได้ เพราะ“รัฐธรรมนูญ ๖๐” เปิดช่อง ๘ เลนเอาไว้ให้

การซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ เพื่อ“หาแสง” ให้คนอื่นแลดูผลงานหรือไม่ ก็ไม่ทราบ แต่หมด“วาระเป็น สว.มาครบ ๕ ปีแล้ว” น่านอน “แบะแฉะ” อยู่ที่บ้านดีกว่า

ได้ดิบได้ดีมากับ“ชุดลายพราง” เดี๋ยวนี้“ทหารเขาถอยห่าง”ไม่มายุ่งการเมืองแล้ว

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *