24 ตุลาคม 2024

“ประเทศไทย”ไม่ใช่“ค่ายทหาร” จึงไม่ควรมีสโลแกน“เขตทหารห้ามเข้า” หลัง“ปฏิวัติปี ๕๗”เหมือนปิดประเทศไปกรายๆ ประตูแผ่นดินที่ปิดสนิท ทำให้“ชาติอับปาง” ไม่มี“คู่ค้า”เข้ามาลงทุนนานกว่า ๑๐ ปี

แต่ ๗ เดือนที่ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” มาเป็น “ประมุขทำเนียบรัฐบาล” ท่องไปในโลกกว้าง ๒๐-๓๐ ประเทศนั้น ออกไป“ทัวร์ราชการ” ขายไอเดีย ทั้งดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเพื่อมากู้ฐานะเศรษฐกิจที่ติดพิษควันปืนปฏิวัติ

และการเดินสายไป“โรดโชว์”เมืองน้ำหอม ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ที่ผ่านมา… การพบกับ “mr.jean todt @ jean todt” นักแข่งระดับโลก อดีตผู้บริหาร Ferrari และประธาน fla ที่บ้านพักชานกรุงปารีส เพื่อต่อยอดเรื่องนำ formula E ซึ่งเป็นการแข่งรถไฟฟ้าเข้ามาจัดในประเทศไทย

การจัดแข่ง formula E ช่วยต่อขยายภาพลักษณ์ของไทย ที่ยกระดับเป็น“ศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต” ซึ่งเป็น ๑ ใน ๘ ของวิสัยทัศน์ ที่“รัฐบาลเศรษฐา”มุ่งมั่นคิดทำให้สำเร็จ เพื่อชาติ-เพื่อแผ่นดิน และประชาชน

Formula E แข่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วย“พลังงานไฟฟ้า ๑๐๐ %” แบบล้อเปิด ที่นั่งเดี่ยว เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสร้างมลภาวะทางเสียงและทางอากาศในปริมาณที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับแข่ง formula 1 ที่มีต้นทุนสูงลิบลับ

สนามที่จัดแข่งนั้น “นายกฯเศรษฐา”เล็งไว้ที่“เชียงใหม่” เพื่อดึง“กระแสการเงิน”ของคนรถความเร็วมาใช้จ่ายให้เต็มที่

เชียงใหม่ถูกขนานนามว่าเป็น“เมืองหลัก” มี“นักท่องเที่ยวต่างชาติ”อยากมากันทั่วหน้า

เรามีโรงแรมระดับ ๕-๖ ดาวไว้ต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง..มี“สนามบินเชียงใหม่”ที่เป็นความภาคภูมิใจไม่รู้ปลื้ม เปิดพื้นที่กว้างเพื่อให้ “เครื่องบินโดนสาร-แลนดิ้ง”ลงสู่พื้นดินได้อย่างปลอดภัย

ที่จริงแล้ว การคิดจัด“formula E” ทาง“รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ได้พูดคุยกับ“นายเบอร์นี่ แอ็คเคิลสโตน”ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ จนลุล่วงด้วยดีแล้วในต้นปี ๒๕๕๗ และยังได้กำหนด-โปรแกรม เอาไว้ว่าเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗ ท้ายปีช่วงฤดูหนาว ก็จะแข่งขันกัน

แต่“คสช.”เคลื่อนรถถัง พร้อมอาวุธครบมือ ตัดหน้าโค่น“รัฐบาลประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โครงการนี้จึง “พับฐาน-ล้มเลิกไป” เพราะ“คสช.”ปฏิวัติล้มกระดานกันดื้อๆ

เท่าที่ทราบ “เอกชนไทย”ให้การสนับสนุนด้านการเงินเต็มสูบ มี“เรดบูล”ควักทุนจ่ายให้ไทยดังกระหึ่มโลกและบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ว่า สิงห์-ปตท.-โตโยต้า-ฮอนด้า สมัครสมาน สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อควักทุน-หนุนอีกด้วย

จาก“เงิน”ทั่วโลกทุกสาย จะ“ไหลเข้ามาแผ่นดินไทย”กลายเป็น“หายวับ”ไปทันตา จากการปฏิวัติของ คสช.

มาดูการแข่งเฟอร์มูล่าที่สิงค์โปร์ จัดมาครั้งแรก ปี ๒๐๐๘ หรือเมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว เขาสร้างมูลค่าเพิ่ม-เติมเงินให้ชาติร่ำรวย มีนักท่องเที่ยว ๕๕๐,๐๐๐ รายเข้ามาสร้างรายได้การท่องเที่ยว ๒,๐๐๐ ล้านดอลล่าร์สิงค์โปร์ ราว ๕๓,๐๐๐ ล้านบาท

ยังมีประโยชน์ตามหลังมาจากผู้ชม ๑,๐๐๐ คน ที่ดูการถ่ายทอดสด เงินไหลท่วมแดนลอดช่อง “เมืองเมอร์ไลออนสิงโต” ที่ใครต่างเห็น“หัวสิงโต”กันจนกระฉ่อน นี่ไม่รวมกับนักท่องเที่ยวที่พาเหรดเข้าประเทศเขา ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ เพราะประทับใจเมื่อได้มาสัมผัส

ระหว่างจัดแข่งรถยนต์ “สิงคโปร์”จัด“คอนเสริ์ตระดับโลก” ไว้รอรับสำหรับคนที่ซื้อบัตรแข่งขันรถไม่ได้

ประโยชน์ยังตามมาเป็นพรวน-เป็นรถด่วนขบวนยาวก็แล้วกัน บริษัทท้องถิ่นที่จัดการด้านโลจิสติกส์ ขายบริการได้ล่ำซำ โรงแรมทุกแห่ง มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก รวยกันอย่างเบิกบานหัวใจ ประโยชน์ได้เต็มที ชาวสิงคโปร์รวยทันตาเห็น

แต่การ“ปฏิวัติ คสช.” ทำให้ไทยจมลึกสู่ก้นเหวแห่งความล้มเหลวทันที

เมื่อ“นายกฯเศรษฐา” พร้อมจัด formula ที่เชียงใหม่ จะทำให้คนเหนือ-คนไทย เป็น“คนมั่งคนมี”รวยกันขึ้นมา

“เศรษฐา” ทำเพื่อคนไทย..แต่พวก“ใจบอด-จิตมอดไหม้” มันว่าเขาไม่ทำงาน ไม่มีผลงานอะไร

พวกนี้มีแต่ใจอิจฉา-ตาไร้คุณธรรม เสียจริง

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *