24 ตุลาคม 2024

ไม่ใช่“มะม่วงจำบ่ม” เพราะ“ขั้วยังเหนียว” ไม่ร่วงหล่นตกจากต้นง่ายๆ คิดจะ“ปลิด”ให้หลุดจากเก้าอี้“นายกรัฐมนตรี” เหมือนสื่อช่วยรุมขย่มกัน

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ยังเป็น“กล่องดวงใจ” สิ่งล้ำค่าของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีพรรคไหนคิดสร้าง“วาระซ่อนเร้น” เพื่อเปลี่ยนตัว เอา“พี่ใหญ่”มา..

ยิ่งเรื่องการคว่ำ“งบประมาณ” เพื่อเท“นายกฯเศรษฐา”ให้หลุดขั้วอำนาจ เป็นสิ่งที่“ไกลเกินเอื้อม”

ทุกพรรค“สนุกกับงาน” ทำเพื่อชาวบ้านให้ลืมตา-อ้าปากกัน แล้วจะมา“เทกระจาด” ให้“งบประมาณ”คว่ำกลางสภาฯ หาพระแสงอะไร

ยิ่งผลงานของ“เศรษฐา” ที่เป็น“เซลแมนโลก” สร้างจุด“สปอร์ตไลท์”ให้ประเทศไทย ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ผลผลิตทางการเกษตร “พาเหรด”ขยับราคาขึ้นกันเป็นแถว

“ยางพารา”โอกาสทะลุขึ้นไป“โลละร้อย”อยู่แค่ติ่งจมูก “ข้าว-มันสำปะหลัง-อ้อย-ปาล์ม” กรีฑาพลโหนเถาวัลย์ขึ้นกันเป็นส่ำ-เป็นสัน

ไม่มีสิ่ง “ด่างพร้อย”เป็นมลทิน หมองมัว ความเสื่อมเสีย ของ“รัฐบาลเศรษฐา”ให้ปรากฏ

เริ่มออก“ซองสตาร์ท” เพื่อไต่อันดับ นำ“จีดีพี”ของประเทศไทยขึ้นมาสดใส

ถึง“เวียดนาม”จะพุ่งปรูดปราด เคลื่อนตัวนำหน้าเราไปอย่างรวดเร็ว จนติดแบรนด์เป็น “เสือตัวที่ห้า-ตัวใหม่ ” ของอาเซียน และมีแนวโน้มหนทางที่จะเป็นไปได้ว่าจะแซงและนำหน้า“มาเลเซีย”เอาอีกด้วย

ถึง“เศรษฐกิจไทย” จะติด“แบล็กสตาร์ท” ออกตัวช้า เพราะติดกลิ่นไอ-ควันปืน“ปฏิวัติ”จาก“คสช.” จึงทำให้“จีดีพี” ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศตกต่ำ ด้อยค่าช่วง ๙ ปี ๑๐ ปีที่ผ่านมา..

หลังจากที่“นายกฯเศรษฐา”ส่งเสียงลงแส้ ใช้อำนาจความเป็น“ขุนคลัง” ให้“แบงก์ชาติ”ลดดอกเบี้ย ชักเย่อระหว่าง“ท่านเศรษฐา” กับ “คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาสนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศ จนเหงื่อตกกีบ อีกทั้ง“เศรษฐกิจ” ก็ออกอาการ“แผ่ว”รวยรินหายใจผงาบ

“แบงก์ชาติ”ที่เป็น“ม้าพยศ” ดื้อไม่ยอมทำตามกับเสียงของ“ขุนคลังเศรษฐา” เตรียม“ลดดอกเบี้ย” ราวๆวันที่ ๑๐ เมษายน ก่อนที่สงกรานต์จะมาถึงไม่กี่วัน

นี่เป็น“ความเต็มใจ” ไม่ได้หวดหรือฟาด ตีกระหน่ำให้“แบงก์ชาติ”ปฏิบัติตามความต้องการของรัฐบาล

“สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ” หรือ “ทีดีอาร์ไอ” ที่พยายามปลุกกระแสไม่ให้ทำตามสิ่งที่รัฐบาลขอ ถึงกับโยงเรื่องเอาเหตุจากประเทศต่างๆมาเป็นตัว“ชูโรง” ไม่ให้“แบงก์ชาติ”อ่อนข้อกับรัฐบาล

ยกแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาบรรยายเป็นฉากๆ ถ้า“แบงก์ชาติ”ถูกบีบบังคับจาก“เศรษฐา”ให้ลดดอกเบี้ย มีตัวอย่างจากประเทศอื่น ว่า“นายกรัฐมนตรี”จะต้อง“ถูกปลด” หรือไม่ก็ต้อง“ลาออก”

นี่เป็นความเต็มใจ สมัครใจ อย่างไม่อิดออด ที่แบงก์ชาติจะลดดอกเบี้ยเอง

“ลดดอกเบี้ยได้” เศรษฐกิจไทยก็วิ่งได้ปร๋อ ไม่ต้องให้“ธนาคาร”มา“ทำนาบนหลังคนไทย”

เมื่อนั้นเศรษฐกิจไทยก็เดินจ้ำ-และล้ำหน้า เวียดนาม และ มาเลเซีย ได้เอง

ทำไม“ทีดีอาร์ไอ”ถึงต้อง“ตั้งป้อมค้าน” กับเรื่องนอกหน้าที่-เช่นนี้

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *