24 ตุลาคม 2024

‘ชูศักดิ์’ แนะแก้รธน.ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ลั่นไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคง่ายเกินไป

0

วันที่ 27 มีนาคม ที่อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดเสวนาวิชาการเรื่องพรรคการเมืองสร้างชาติ และการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการพรรคการเมือง โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายวุฒิสาร ตันไชย นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมการเสวนา ทั้งนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวเปิดงาน และนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าวรายงาน โดยมีสมาชิกพรรคการเมืองเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคการเมืองทุกพรรคล้วนแต่มีเจตนาต้องการเข้ามาบริหารบ้านเมือง นำนโยบายมาใช้เพื่อประโยชน์ประชาชน คงไม่มีพรรคใดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชีวิต สำหรับประเทศไทยบริบทของกฎหมายที่เขียนรับรองในรัฐธรรมนูญ เรื่องสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยให้ตั้งพรรคการเมืองได้ ปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งในมาตรา 45 ข้อสำคัญระบุว่า พรรคที่จะจัดตั้งขึ้นต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของสมาชิก

การให้สมาชิกมีส่วนร่วม ไม่ให้บุคคลที่มาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามาครอบงำพรรคการเมือง และต้องไม่ให้สมาชิกเข้าไปดำเนินการผิดกฎหมายเลือกตั้ง จากนั้น มีการตรากฎหมายพรรคการเมือง โดยล้อบทบัญญญัติมาตรา 45 แล้วมาสร้างข้อจำกัดมากมาย เช่น การห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาครอบงำพรรคโดยบุคคลภายนอกไม่ใช่สมาชิกพรรค ซึ่งหากทำสามารถยุบพรรคได้ และมีการกำหนดเรื่องยุบพรรคไว้ในหลายๆมาตรา

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จากบริบทดังกล่าวหมายความว่าพรรคการเมืองตั้งขึ้นแล้วถูกกำกับด้วยรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พรรคการเมืองจึงขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบ ว่าจะแข็ง อ่อน หรือมองบริบทการเมืองไทยอย่างไร ส่วนใหญ่กฎหมายใดๆที่เกิดขึ้นหลังรัฐประการ บริบทการควบคุมพรรคการเมืองจะค่อนข้างเข้มงวด ทางออกที่ดีทีสุดคือต้องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยขึ้น

“เรามีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมายพรรคการเมือง แต่ปัญหาอุปสรรคสำคัญของพรรคการเมือง คือ ขาดความต่อเนื่อง พรรคการเมืองบริหารบ้านเมืองสักพักก็ยึดอำนาจ ยุบพรรค พรรคไทยรักไทยเราโดนมาแล้ว ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการบริหารบ้านเมือง ตนจึงไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคได้โดยง่าย เราเคยเสนอแก้ไขให้ตัดเรื่องการยุบพรรคออก แต่สุดท้ายไม่สำเร็จ”

นอกจากนี้ เราต้องสร้างนักการเมืองมืออาชีพให้มาบริหารพรรคการเมืองให้ได้ อีกประการคือบริบทของกฎหมายที่มาควบคุมพรรคการเมือง ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ เช่น การที่พรรคการเมืองต้องทำตารางให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่านโยบายจะใช้งบเท่าไหร่ ต้องทำผลวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของนโยบาย ดังนั้น ถึงเวลาที่ต้องสังคยานาทำให้กฎหมายพรรคการเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยมั่นคงกว่าที่เป็นอยู่

“ตอนนำเสนอนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อกกต. เราบอกว่าจะมีการใช้งบประมาณแผ่นดินแบบไหน แต่เนื่องจากรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลผสมมาจากหลายพรรคการเมือง งบประมาณที่มีอยู่จึงต้องนำไปใช้กับนโยบายอื่นๆของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย แต่ข้อสำคัญขณะเป็นรัฐบาลงบปี 67 ยังไม่ออก แปลว่า งบที่ตั้งความหวังที่จะนำมาใช้จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ รัฐบาลจึงคิดจะกู้เงิน ก็มีการบอกว่าอาจฝ่าฝืนวินัยการเงิน การคลัง ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางรัฐบาลประกาศแล้วว่ามีแนวทางจะดำเนินการตามนโยบายที่ประกาศไว้ และขอยืนยันว่า เป็นนโยบายที่คิดมารอบคอบแล้ว”นายชูศักดิ์ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *