รอดไม่รอด ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’
ศึกสีกากีรอบนี้ ชัดเจนแล้วว่า ลึกซึ้ง และหนักหนาสาหัส อย่างยิ่งจริงๆ
วันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. น่าจะรู้แล้วว่า ความพยายามในการสกัดไม่ให้ก้าวสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. ในอนาคต มีอยู่จริง
ผลของการออกหมายจับ จะบานปลายเพียงใดก็รอดูกันต่อไป เพราะฝ่ายโค่นคงไม่หยุดแน่
แม้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะยังคงยืนยันในความเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นเพียงแค่ผู้ถูกกล่าวหา และที่ผ่านมา โจ๊กพยายามที่จะอิงหลักกฎหมาย ว่า คดีที่ถูกกล่าวหาไม่ได้อยู่ในอำนาจของตำรวจ แต่ต้องส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการ
แต่ก็ชัดเจนว่า กลุ่มตำรวจที่ทำคดีก็ยืนยันทั้งจากคำพูดและการกระทำอย่างชัดเจนว่าต้องถือเป็นอำนาจตำรวจ
นอกจากเป็นการต่อสู้กันด้วยเรื่องฉาวโฉ่ในวงการสีกากีแล้ว ยังเป็นการต่อสู้กันด้วยกระบวนการทางกฎหมาย ที่ทำให้คนดูต้องลุ้นกันชนิดชอตต่อชอต โดยเฉพาะการใช้กฎหมายป.วิ อาญา
ที่สำคัญ ถ้าถามกันจริงๆ เชื่อหรือว่าการที่สถานีตำรวจเตาปูนออกหมายเรียกอย่างรวดเร็ว 3 ครั้ง จนสุดท้ายนำไปสู่การได้มาซึ่งหมายจับ รวมถึงการเปิดหน้าชนของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว แบบไม่มีเกียร์ถอยหลัง เป็นไปได้จริงหรือที่จะไม่มี ‘ไอ้โม่ง’ หรือ ‘ใบสั่ง’ หนุนหลัง
ถือว่าผิดปกติวิสัยของตำรวจชั้นผู้น้อย ที่จะดับเครื่องชนตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีอนาคตไปได้ถึงขั้น ผบ.ตร.ในอนาคต
ทีมทนายโจ๊กคงต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ เพราะคำอธิบายในการออกหมายจับ ข้อที่ 3 ว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญา เป็นสิ่งที่ เหมือนกับเจตนาจะบอกทีมทนายโจ๊กตรงๆเลยว่า ที่ทำมาทั้งหมดมันมีช่องโหว่ในการต่อสู้
ทีมตำรวจสอบสวนไปแถลงต่อศาลอย่่างไร คาดเดาได้ไม่ยาก หลีกเลี่ยงการรับหมายเรียก 3 ครั้ง 3 หน ซึ่งแปลว่าตรงนี้คือช่องโหว่ให้โจมตี เพราะแน่นอนว่า การเร่งออกหมายเรียกถี่ยิบติดกัน 3 ฉบับอาจจะดูผิดปกติ แต่ทีมตำรวจคงไม่นำไปแถลงแน่ว่ามีการเร่งออกหมายเรียก
เช่นเดียวกับสิ่งที่โจ๊กและทีมทนายเชื่อ ว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นคดีเดียวกันกับที่ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ มันมีช่องให้ความพยายามแยกคดีแยกสำนวนรุกเดินหน้าได้
ทั้งทีมสอบสวน ทีมสถานีตำรวจเตาปูน และโดยเฉพาะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมเสี่ยงโดนคดีในอนาคตขนาดนี้ ธรรมดาเสียที่ไหน
เบื้องหน้าคือการปะทะกันด้วยตัวแทน เบื้องหลังส่อเค้าชัดว่ามีคนชักใย
ไม่แปลกที่จะถูกมองไกลไปถึงการเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ยิ่งหลังหมายจับ มีการสร้างกระแสเรื่องพักงาน เรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาอย่างรวดเร็ว ชนิดสื่อวิ่งตามกระแสปั่นแทบไม่ทัน
แง่คิดก็คือ ต่อให้สกัดได้ในรอบนี้ แต่จะสกัดยาว 5-6 ปี เป็นไปได้จริงหรือ
รอดไม่รอดสำหรับคนชื่อ ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’ ต้องดูกันไปให้ถึงตอนจบ
ศึกสีกากีครั้งนี้ น่าหนักใจที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ว่าจะใช้อำนาจไปในทิศทางใด ขนาดโยกเข้าทำเนียบแล้วยังหยุดศึกไม่ได้
ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.รอบนี้ ดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ
หนามกุหลาบ