ครัวโลก-ที่ตกนรก
ยกเอาไว้เลิศเลอ ให้“ชาวนา”และ“เกษตรกร” เป็น“กระดูกสันหลังของชาติ อันเป็นส่วนสำคัญที่เป็นส่วน“ค้ำจุน”ให้ชาติดำรงอยู่ แท้ที่จริงเป็น“คำหวาน-ที่หว่านแค่หวานหู”เท่านั้นเอง
แต่ปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนฉายาใหม่เป็น“ประชานิยมเป็นกระดูกสันหลังของชาติ” เพื่อนำ“ประชาชนส่วนใหญ่ของชาติ”มา“แพ็ก”เป็นกองเดียวกัน ให้“นักการเมือง”ใช้ลิ้นเพื่อหลอกใช้
หากว่าส่วนประกอบของร่างกายคือการยกย่องให้“กระดูกสันหลัง”เป็นแกนหลักของลำตัว ซึ่งต่อกันเป็นข้อๆ ตั้งแต่บริเวณคอต่อลงมาจนถึงบริเวณด้านหลังของทวารหนักเคลื่อนไหวได้
ถ้าเป็นจริงเหมือนที่ “นักการเมือง”และ“นักการทหาร” สร้าง“วาทะกรรม”กันแล้วล่ะก้อ..ประชาชนส่วนที่เป็น“เกษตรกร” เอา“หลังสู้ฟ้า-หน้าสู้ดิน” คงจะไม่“ยากจน-เป็นคนไร้เกียรติ” กันหรอกครับ
ก็เห็นกันอยู่ว่า ทุกวันนี้เขายัง“จนข้นแค้น” อัตคัด-ขัดสน ไม่มีรับประทานเหมือนเดิม “ติดหนี้”กับ“ธกส.” ตั้งแต่ยามเกิด-จนยันตายก็ยังใช้หนี้ไม่หมด
หลายรัฐบาลกันมาแล้ว “โอ้อวด”พูดยกตัว ขี้คุยกันมานักต่อนัก ว่า“ประเทศไทย”เราเป็น“ครัวโลก” จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เมื่อ“เกษตรกร”ผู้ทำไร่นา-เรือกสวน คือ“ทาส”ที่เป็นหนี้-ไม่มีวันที่จะหลุดพ้นได้
เมื่อ“พรรคเพื่อไทย” โดย“นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ต้องการ“ปลดหนี้สิน”ให้เกษตรกรหมดไป ถือเป็นการ“รีฟอร์ม” มีความคิดในการ“เปลี่ยนแปลง”ที่น่าสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนอื่นต้องหันไปดูความสำเร็จของ“ประเทศซาอุดิอาระเบีย” แผ่นดินทะเลทราย ซึ่งใต้ดินเป็น“น้ำมัน” ที่เขาว่าเป็นทรัพย์มหาศาล เปรียบได้ดั่ง“ทองคำดำ”
แต่วันนี้พื้นที่กว่า“๒ ล้านกิโลเมตร”ของ“ซาอุฯ” ที่ใหญ่กว่า“ไทยถึง“๔ เท่าตัวนั้น” ปัจจุบัน..เขาพลิกฟื้นแผ่นดินที่ร้อนระอุเป็นนรก ให้กลายเป็น“พื้นที่เกษตรกรรมแล้ว”
เขาไม่มี“แม่น้ำ-ลำคลอง” ซึ่งเป็น“เส้นเลือดใหญ่”ในการปลูกผลผลิต แต่เขาใช้การระดมขุดทะเลทรายลงไปถึง“ชั้นล่าง” จนได้“น้ำจืด” ขึ้นมาปลูกพืชผลได้อย่างงดงาม และมีการทำ“โรงกลั่น” เอาน้ำทะเลที่เค็มๆมาเป็น“น้ำจืด”ใช้ได้อย่างมีระบบ
จากที่ต้อง“ซื้ออาหารทุกอย่าง”เข้ามาในประเทศ..เดี๋ยวนี้ “ซาอุฯ”ปลูกผลผลิตส่งออกไปยัง“สหรัฐอเมริกา”เบอร์ต้นๆ
“น้ำจืดที่ใช้แล้ว”ก็นำกลับไปเป็น“แหล่งน้ำในการเพาะปลูกต่อไป”
“ดินแดนทะเลทราย”ก็สามารถ“ปรับเปลี่ยน”ให้กลายเป็น“ดินเหนียว”ได้แค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ใครที่ทำ“การเกษตร”ในซาอุฯ ได้รับประโยชน์เข้ามาครบทั้ง ๑๐ ทิศ มี“รัฐบาล”คอยซับพอร์ท
พืชพันธุ์ธัญญาหารที่นำไปปลูก “รัฐบาลซาอุฯ”ก็สนับสนุน.. “เครื่องไม้-เครื่องมือ”ทางวิทยาศาสตร์ทุกอย่างก็ประเคนให้ ผู้ที่ปลูกผลผลิตป้อนประชาชน ได้รับการ“ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี” ไปซื้อสิ่งใดได้รับการ“ปลอดภาษี”ทั้งนั้น
แต่ “กระดูกสันหลังคนไทย” ที่มีประชาชนมากที่สุดของประเทศ “เสียภาษีตั้งแต่ต้นทาง-ยันปลายทาง” ต้องกู้เงิน“ธกส.”มาปลูกผลผลิตหรือเลี้ยงสัตว์เพื่อให้ประชาชนกิน ยังต้อง“เสียดอกเบี้ย”
“ปุ๋ย”และ“อาหารสัตว์”ที่ซื้อมาก็แพง “เสียภาษี-หลังแอ่น”จนไปไม่เป็น
“เครื่องไม้-เครื่องมือ” เขาไม่ใช้แค่“จอบและเสียม”กันแล้ว มี “อุปกรณ์ขนาดใหญ่”มาทุ่นแรง และให้ผลผลิตมากกว่า โดย“รัฐบาล”เป็นฝ่ายสนับสนุนให้การทำการเกษตร มีกำไร“สร้างเนื้อ-สร้างตัว”กันได้
เลิกเหอะคำชมว่าเป็น“กระดูกสันหลังของชาติ” แต่มี“หนี้บานเบอะ”
“รัฐบาลเศรษฐา”ควรสนับสนุนต้นพันธุ์ เครื่องมือก็ต้องมีให้ และภาษีอย่าได้รีดนาทาเร้นเหมือนเดิม
“เกษตรกรไทย”จะเป็น“ครัวโลก” ไม่ใช่ให้เขา“ตกนรก” เป็นหนี้กันจนวันตาย-เช่นนี้
“กะพรุนไฟ”
