24 ตุลาคม 2024

‘สุรเชษฐ์’ ร้องป.ป.ช. ทวงความยุติธรรม เชื่อโดนรุมกินโต๊ะ เพื่อสกัดขึ้นเป็น ผบ.ตร.

0

เผยขอให้สอบ‘เศรษฐา’ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ ทั้งกรณีตั้ง ‘ต่อศักดิ์’ เป็นผบ.ตร. และกรณีสั่งย้ายไปช่วยราชการ แล้วรีบร้อนส่งกลับตร. จนส่งผลให้ถูกออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ได้ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ประธาน ป.ป.ช.ตรวจสอบว่านายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบจากการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่ตนเป็นผู้มีส่วนได้เสีย และการออกคำสั่งส่งตัวตนกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่รักษาการผบ.ตร.จะมีคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงขอให้ตรวจสอบว่าการสอบสวนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดที่ทำคดีเว็บพนันออนไลน์มีอำนาจหน้าที่โดยชอบหรือไม่ แล้วขอให้ตรวจสอบว่าหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนและ พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่

หลังยื่นคำร้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำชาร์ตรายละเอียดไทม์ไลน์มาประกอบการแถลงข่าว เพื่อลำดับเหตุการณ์ในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่ตรวจสอบพบการใช้บัญชีม้าของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีต รอง ผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ถูกตั้งข้อหา ออกหมายจับคดีฟอกเงิน จนนำไปสู่การออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยกล่าวว่า วันนี้ออกมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง หลังจากถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมมา 6 เดือน จนถึงขั้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน จึงต้องออกมาใช้สิทธิ์ในการต่อสู้อย่างถูกต้อง ซึ่งยืนยันว่าส่วนตัวไม่ได้กังวล เพราะเชื่อมั่นว่าอย่างไรตนก็จะได้กลับมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้มายื่นคำร้องกล่าวหานายกฯ กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ รวมถึงร้องกล่าวหาคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมด และอีก 3-4 วัน จะมายื่นกล่าวหาเพิ่มเติม รวมถึงรักษาการแทน ผบ.ตร.ด้วย ซึ่งจะยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ด้วย ระหว่างนี้ขอไปนั่งเอาหัวชนกันให้ดี การส่งตัวตนกลับต้นสังกัดให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีการร่วมกันเป็นขบวนการ วันนี้เอาเรื่องอาญาก่อน เดี๋ยวเรื่องวินัยที่ตามมาจะสนุกกว่านี้

“ถ้าสอบสวนแบบนี้มหาวิทยาลัยก็ไม่ต้องสอนนักเรียน ความเป็นธรรมอยู่ตรงไหน รองผบ.ตร. ยังโดนขนาดนี้ ประชาชนจะโดนขนาดไหน วันนี้ถ้าผิดจริงผมลาออกแล้ว ที่อยู่สู้แบบนี้เพราะการสอบสวนไม่ชอบ ทำเหมือนอาญาเถื่อน นายกฯ สั่งตั้งกรรมการสอบสวน 60 วัน เรียกตัวผมมาช่วยราชการ แต่กรรมการสอบยังไม่ได้เรียกสอบ ยังสอบไม่เสร็จ นายกฯ ก็ส่งตัวกลับต้นสังกัด จากนั้นมีคำสั่งให้ออกจากราชการ เป็นการกลั่นแกล้งไม่ให้ผมเป็น ผบ.ตร. ถ้าผมเป็น รอง ผบ.ตร. อันดับ 6 ก็คงไม่มีปัญหา”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือต้องรู้ว่าอำนาจการสอบสวนเป็นของใครหากสอบสวนโดยไม่มีอำนาจจะต้องติดคุก ซึ่งคดีนี้เริ่มต้นจากการดำเนินคดี กับลูกน้องของตน 8 คน ซึ่งป.ป.ช.ได้เรียกสำนวนดังกล่าว พร้อมสำนวนคดีของตน กับพวกรวม 5 คน กลับไปทำเองเนื่องจากอยู่ในอำนาจหน้าที่ ซึ่งถือเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ส่วนตำรวจเป็นเสมือนผู้กล่าวหา จึงมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานพื่อส่งให้ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ดังนั้นในคดีของมินนี่ ไม่ว่าจะมีกี่เว็บพนัน แต่เมื่อผู้ต้องหาเป็นคนเดียวกัน เส้นอันเดียวกันคือเชื่อมโยงไปยัง พ.ต.ท.คริษฐ์ ถือเป็นคดีเดียวกันจะแยกสำนวนไม่ได้ แต่ป.ป.ช.เห็นว่า จะเกิดความเสียหาย จึงมีมติเลือกสำนวนกลับในวันที่ 2 ธันวาคม 2566 แต่ในวันรุ่งขึ้น ของวันที่ 3 ธันวาคม สน.เตาปูนได้แยกสำนวนคดีและกล่าวหาว่าตนเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ ฐานความผิดฟอกเงิน เพราะไม่ต้องการส่งคดีให้ป.ป.ช. เก็บคดีไว้ 4 เดือนแล้วออกหมายเรียก และหมายจับ ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการสอบเพิ่มเติมของอัยการมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้หวังผลทางคดีหวังแค่ไม่ต้องการให้ตนเป็นผบ.ตร.เท่านั้น ตนจึงทำหนังสือโต้แย้งว่าคดีอยู่ในอำนาจของป.ป.ช. ขอให้พนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมส่งเรื่องไปยังป.ป.ช. ไม่ใช่เพราะตนรู้จักใคร แต่เพื่อเป็นการสอบสวนโดยธรรมโดยชอบ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องการยื่นคัดค้าน นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. เอกสารปรากฏอยู่ในโลกโซเชียลอยู่แล้ว ซึ่งตนขออนุญาตไม่พูดในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนปล่อยเอกสารดังกล่าว และขอยืนยันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นใครมาทางไหนก็ไปทั้งนั้น ตนไม่ได้ว่าใคร วันนี้เพียงแค่มาหาความยุติธรรมเท่านั้น เมื่อองค์กรให้ความยุติธรรมกับตนไม่ได้จึงต้องมาหาความยุติธรรมนอกองค์กร ตนรู้ดีว่าสื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

“เรื่องนี้ที่มาที่ไปเยอะ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น ผมเป็นคนใต้ มีเลือดนักสู้ ถ้าเป็นคนอื่นคงหมอบแล้ว ถ้าไม่สู้คงเสียสิทธิไปตลอดชีวิต ถ้าทำเป็นธรรม หรือเป็นเรื่องจริง ผมคงไม่สู้ แต่นี่สอบสวนโดยไม่มีอำนาจ ผิดตั้งแต่ต้น เรื่องเนื้อในจึงไม่ต้องพูดถึง ที่ผ่านมายื่นร้อง คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พค.ตำรวจ) มี พ.ร.บ.ตำรวจ นายกฯจะใช้อำนาจอะไรก็ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตำรวจวันนี้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของ ป.ป.ช. ส่วนจะได้กลับมารับราชการหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการแฉเรื่องต่างๆก่อนหน้านี้ ใครจะแฉก็แฉไป แต่ตนมาสู้ตามสิทธิ์ของตน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนได้ไปยื่นขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจเพิกถอนคำสั่งให้ตนออกจากราชการ เนื่องจากเป็นคำสั่งมิชอบ ซึ้งตอนนี้มีพ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่แล้ว นายกฯ ต้องใช้อำนาจตามกฎหมาย ไม่ใช้ข้ามขั้นตอน อีกทั้งการออกคำสั่งให้ตนไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีก็ไม่ชอบ ตนได้ยื่นขอความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน

“สื่อยังเห็นเลยว่าเป็นการรุมกินโต๊ะ เป็นเพราะความตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองของผม ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องให้ความเป็นธรรม ไม่ใช่ไปเอากับเขาด้วย ซึ่งผมจะดำเนินการกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีคนต้องติดคุกหรือไม่ขอให้รอติดตาม ซึ่งหลังจากนี้ก็จะออกมาเปิดเผยเรื่องการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในอีก 2-3 วัน”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *