ระเบียบ-เหยียบกันด้านๆ

ถ้า“ออกสตาร์ท” เหมือนกับการใช้“ปาก” ให้ไวดุจดังนี้ ก็จะดีเป็นอันมากส์

“การกระทำ”มักมาที่หลังปากเสมอเช่นนี้ มันจะไปทันกินอะไรกัน

ต้องการหยุด และเหยียบเบรกให้“คณะกรรมการการเลือกตั้ง” และ“เลขาธิการ กกต.” ไม่เลี้ยวลด-คดไม่ตรงทางล่ะก้อ ทำเป็นต้องออกมา“ดักคอ” แสดงพฤติการณ์ออกเสียแต่เนิ่น เพื่อ“กกต.”จะไม่ทำให้เสียใจอีก

ในเมื่อ“รู้แกว” ว่า“กกต.”จะมี“เทคนิคชั้นสูง”ออกมาอยู่อย่างไม่ขาด..ต้องออกมา“ปะทะ”เป็นกันชนอย่างเร็วไว

ทุกคนต่างรู้ซึ้งอยู่ในทรวงว่า “กกต.”มักผูกปม“พิสดาร” ออกระเบียบแสนพิลึก ชอบกล จนคนในโลกพากันงงทั้งบาง

จะมานั่งทำตาปริบๆ มองเห็น“ผลไม้พิษ”-ปลิดชีพ” ที่เที่ยว“ปลิดชีพ-ฝ่ายประชาธิปไตย”เหมือนที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว

เพิ่งจะ“โวยวาย”ตลาดแตก ถึงระเบียบของ กกต. ที่“ห้ามไม่ให้ผู้สมัคร สว.”แนะนำตัวให้ผู้สมัครด้วยกันรู้ว่าเป็นใคร

และ“การเลือกตั้ง สว.”ครั้งนี้ เป็น“อภิมหาโคตรแห่งการเลือกตั้ง”ทีเดียว..คาดว่าจะมี“ผู้สมัครถึง ๔ แสนคน”

ในอดีต เมื่อปี ๖๒ แค่“ผู้สมัคร สส.”เพียงแค่ “๖ หมื่นกว่าคน” ยังสารวนเหมือนกับการ“งมเข็มในมหาสมุทร”ก็ไม่ปาน นี่หากมีคนมาสมัคร สว. เกือบ“ครึ่งล้าน” เป็นงานที่ยุ่งยาก ยุ่งเหยิง ยิ่งนัก

และเมื่อมา“ออกระเบียบ” ห้ามผู้สมัครแนะนำตัว “คนเกือบครึ่งล้าน”จะรู้ดีชั่ว-ตัวดำ “๒๐สาขาอาชีพ” ได้หรือ

ถัดจากนี้อีก ๒-๓ วัน “สว.ลากตั้ง คสช.”ต้องถ่ายเทออกไป.. “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”ยังคิดครอง”สภาสูง” ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอำนาจ สว.ชุดใหม่ ไม่ได้ขี้เหร่ ยังคง“ครอบจักรวาล” คุมเกมเหนือกว่า“รัฐบาล”อยู่อีกหลายเท่า

ยิ่งใกล้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน “องค์กรอิสระ”ที่จะครบเทอม-โหวตตั้งคนใหม่ เสริมเข้ามาทำหน้าที่อยู่หลายหน่วย..

“ศาลรัฐธรรมนูญ” อยู่มาจนหมดวีซ่า เป็นหน้าที่โดยตรงของ “สว.ชุดใหม่” ที่จะโหวตหาคนมานั่งสะเดิ๊ป

ปัจจัยสำคัญของ“ศาลรัฐธรรมนูญ” เป็นผู้อยู่“เหนือฟ้า” ตัวจริงแน่นอน เมื่อมี“คำวินิจฉัยอะไร”ออกมาแล้ว ผูกพันต่อทุก“องค์กร”ต้องปฏิบัติตาม “หลีกเลี่ยง”ไม่ได้แม้แต่กระทงความเดียว

อีกทั้ง “คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” หรือ “ปปช.” ก็จ่อคิว-ครบดิว จำลาจากตำแหน่งไปด้วย จะมีผู้ใด“ข้ามห้วย-ลงเหว” เข้ามาโซ้ยตำแหน่ง ต้องผ่านการโหวตและกลั่นกรองจาก“สว.”ตามระเบียบ

“มือปราบทุจรติแห่งแผ่นดิน” เป็นที่หวาดหวั่นของ“นักการเมือง-ข้าราชการ” พวกกินบ้าน-กินเมือง ฉะนั้น, “ปปช.จึงเสมือนเป็น “กล่องดวงใจ” ที่ทุกฝ่ายเหล่ หมายปองอยากให้“สว.”โหวตเอาคนตัวเองเข้าไปเป็น

ถัดมา-เหลือเวลาไม่นานนัก “๕ อรหันต์กกต.” ต้องเปิดหวอออกไปด้วย.. ท่ามกลาง“เสียงยี้”ที่อยากไล่เช้า-ไล่เย็น

ว่าถึงตำแหน่ง“กกต.” ถือว่าเป็น“ลูกยอด” ไข่งูจงอาจที่อยู่“บนกองยอดกลาง”ของไข่ทั้งหมด มีอำนาจ“ชี้เป็น-ชี้ตาย” ให้“พรรคการเมือง”ล้มละลายหายไปอีกด้วย

ฉะนั้น, “สว.-สภาสูง”จึงสำคัญ เพราะมีกติกาให้เลือกมาจาก“๒๐ สาขาอาชีพ” จึงต้องรู้เขา-รู้เราให้ละเอียด หากไม่เปิดโอกาส ให้เขา“แนะนำตัวได้” เท่ากับเป็นการ“ปิดหู-ปิดตา” ไม่ให้ได้รับทราบถึงสรรพคุณอันดีงามของเขาเลย

“ประชาธิปไตย” คือความเสมอภาค ไม่มีหรอก“ระเบียบ-เหยียบกันด้านๆ”พรรค์นี้

และสว.ยังจะโหวตแก้ไข“รัฐธรรมนูญ-ศรีธนญชัย” ให้ตกตายไปฝังดิน อย่าได้ผุด-ได้เกิดในแผ่นดินนี้อีก

“ผู้สมัคร สว. ๔ แสนคน” หากไม่ได้แนะนำตัว เขาก็เหมือนกับ“งมเข็มในมหาสมุทร”ยากที่จะหาคนดีมารับใช้แผ่นดิน

นี่เท่ากับ“ซ่อนดาบ”เอาไว้ในระเบียบ..เฉกเช่นเดียวกับ“รัฐธรรมนูญมีชัย” ที่ออกกฎหมายลูก ให้“สว.”โหวตนายกฯได้

ให้อำนาจพวก“ปฏิวัติ” ๒-๓ พะหน่อ “จิ้มก้อง”เลือกสว.เข้ามา มีเสียงเหนือกว่าประชาชน ๔๐ ล้านคน มีที่ไหนกัน

อย่างไรก็ดี, การออกมา“กระตุกต่อม” ให้กกต.เปลี่ยนกฎ ข้อระเบียบใหม่ คงไม่เสียเที่ยวหรอกหนา..เพราะปฏิกิริยาของสังคม ไม่ยอมให้“กกต.”ใช้สิทธิ์อำนาจ“หาวเป็นเดือน-เป็นดาว” นึกทำอะไรก็ได้ดังใจหมาย

อย่าได้คิดว่า “ยันต์หนุมาน”เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ที่จะทำให้“กกต.” แคล้วคลาดรอดตัวได้นะ

โปรดจำ“บทเรียน กกต.รุ่นพี่”.. “สังเวยชะตากรรม กันไปกี่ปี”

นี่,เป็นอุทาหรณ์ ที่ไม่ควรลืม

“กะพรุนไฟ”