24 ตุลาคม 2024

พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ แถลง กัมพูชาหยุดสร้างเขื่อนกันคลื่นตั้งแต่ปี 41

“เหมือนสุนัขไล่งับหางตัวเอง” แสดงอาการอ้าปากงับหางตัวเอง แต่อย่างไรก็ไม่มีวันสำเร็จ เป็นสิ่งที่ทำแล้ว “ไร้ผล” ไม่เกิดความคืบหน้า ควรจะรู้ว่า ถึงเวลา “ใช้ไม้แข็ง” กันได้เสียที

ขยันก็ขยันอยู่ ใครก็รู้ว่า “รัฐบาลนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้มแข็ง ไม่ด้อยงาน-ด้านแก้เศรษฐกิจ

ไฉนถึงได้มา “ตกม้าตาย” ง่าย ๆ ให้กับ “ขบวนการ ไอโอ” ปล่อยข่าวปลอม เสียท่ากันอยู่ทุกเมื่อ-เชื่อวัน

ผิดกับ “มาตรฐาน” ในยุค “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกรัฐมนตรี จะอยู่ในหลืบไหน ตรอก ซอกซอยใด ก้อตามตัว“มารับโทษ” เพื่อชำระ ชดใช้ต่อความผิด ที่ได้“ปั่นข่าวปลอม”กันเป็นรายวัน..

ล่าสุด “รัฐบาลเศรษฐา”ยังงงเป็นไก่ตาแตก “ควานหาตัว”พวกที่ทำลาย“รัฐบาล”ไม่ได้อีกแล้วแหละ

มาจากกรณี การเปิดข้อมูลผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ว่า..“ฝ่ายกัมพูชา ได้มีการสร้างเขื่อนกันคลื่น” โดยโพนทะนา ให้ร้าย“รัฐบาลเศรษฐา” บ่มิไก๊ ไร้ความสามารถอย่างร้ายแรง

ให้ “ประเทศเขมร” ใช้พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เอาอาณาเขตทางทะเล ของไทย ไปสร้างเขื่อนเสียฉิบ

เพราะมีการ“ปล่อยละเลย”กันเช่นนี้ .. “พื้นแผ่นดิน ทางทะเลของไทย ได้ตกเป็นของกัมพูชา”อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

แท้ที่จริงแล้ว นี่คือ“ข่าวเทียม” สร้างขึ้นมา“เพื่อเสี้ยม”ให้รัฐบาลเสียรังวัด

“คนไทย”เราหวงแหนแผ่นดินเหนืออื่นใด “แม้แต่นิ้วตารางนิ้ว” ก็ไม่ให้ใครรุกล้ำเข้ามาอย่างเด็ดขาด

เรื่องนี้เกิดเหตุการณ์ก่อสร้าง ตั้งแต่ปี “๒๕๔๐-๒๕๔๑” เป็นเรื่องเก่าหยิบมาเต้าเรื่อง” ให้คนไทยเคือง รัฐบาลเสียอย่างนั้น

“พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน” โฆษกกองทัพเรือ ได้แถลง-แจ้งว่า กระทรวงต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้มา ๒๐กว่าปีแล้ว ได้“ยื่นโนตีส”ตามสิทธิแห่งกฎหมาย กฎหมายให้ทางกัมพูชารื้อเขื่อนกันคลื่นอย่างเป็นทางการ ไปแล้ว ๓ ครั้ง

มีวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๑, วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๑และล่าสุด วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔

“ทักท้วง-ทวงตามไป” ทางกัมพูชา ได้หยุดการก่อสร้าง และไม่มีการ “สร้างเพิ่มเติม” แต่อย่างใด

เป็นหน้าที่โดยตรงของ“กองทัพเรือ” ที่จะดำรงรักษาสิทธิ อำนาจประชาธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติอย่างต่อเนื่อง

มีการจัด“เรือและอากาศยาน” ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และแสดงกำลังเหนือพื้นที่ทางทะเล “กองทัพเรือ”มีแนวทางปฏิบัติชัดเจน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของชาติ

และยังคงความสัมพันธ์อันดีของ ๒ ประเทศ อย่างไม่ตกหล่น

นับว่า“ดอกประดู่” ที่รักษาคุณภาพของ“หะเบสสมอพลัน ออกสันดอนไป ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่งกระโจมไฟ เที่ยวหาข้าศึก มิได้นึกจะกลับมาใน ถึงตายตายไป ตายให้แก่ชาติของเรา”

“..วันไหนร่วงโรย ดอกโปรยตกพรู ทหารเรือเราจงดู ตายเป็นหมู่เพื่อชาติไทย”

“ทหารเรือ”ไม่ให้ใครมารุกล้ำได้อย่างเด็ดขาด แต่“คนไทย”ที่รังเกียจ-เดียดฉันท์“รัฐบาลเศรษฐา” เอาสิ่งเท็จตั้งแต่ปี ๒๕๔๐-๒๕๔๑ มาเป่าหูคนไทย

เป็นการ “ยืมมือประชาชน เพื่อโค่นรัฐบาลประชาธิปไตย”

“นายกฯเศรษฐา”น่ารู้ตัวดีว่า ตรงนี้เป็น“จุดอ่อน-ข้อด้อย” ที่เขา“หยิบข่าวไอโอ”ขึ้นมาโจมตีได้ง่ายๆ ผิดกับ “รัฐบาลประยุทธ์” นี่คือ“จุดแข็ง-จุดเด่น” ที่พร้อมเล่นงาน“พวกไอโอ” ตามจับอย่างหมอบคาบ-ราบแก้ว

เหมือนเรื่อง“ข้าวที่อยู่ในโกดัง ๑๐ ปี” รัฐบาลสามารถขายยัง“แอฟริกา”ได้ แต่ก็ปล่อยข่าวว่าเน่า บริโภคไปก็ต้องตาย

แทนที่จะได้เงิน“๒๗๐ ล้าน”มาเข้าคงคลัง แต่ก็ถูกพวกนี้“ปั่นหัว” สร้างเรื่อง“ชั่วๆ” ว่ามี“สารก่อมะเร็ง” ขายให้เขาทำไม

“ไอโอพวกนี้” มันไม่มีความคิดดีๆ ในการ“หวังดี”ให้กับรัฐบาลเลย จึงจำเป็นต้องจับให้เกลี้ยง

ปล่อยข่าวเท็จทุกวัน.. “ไม่สร้างสรรค์” จะเลี้ยง“คนพรรค์นี้”ไว้บ่อนทำลาย ได้อีกหรือ

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *