24 ตุลาคม 2024

รรท.ผบ.ตร. ยอมรับ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยังเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หยุดปฏิบัติหน้าที่

0

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการพิจารณากฤษฎีกาตีความเรื่องการออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ว่า ในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 4/2567 และการประชุม ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา สำหรับวาระการพิจารณาเรื่องคำร้องกรณีดังกล่าวตนไม่ได้นั่งอยู่ในที่ประชุม แต่ได้ออกจากห้องประชุมเนื่องจากอาจจะมีการพิจารณาที่ไม่เป็นกลางได้ เพราะตนเป็นผู้ออกคำสั่งออกจากราชการ เมื่อเป็นผู้ออกคำสั่งหากชี้แจงอะไร ข้อกฎหมายเกรงว่าอาจจะเข้าข้างตัวเอง เพราะกฎหมายหมายถึงตนอาจเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย

“ส่วนคำสั่งออกจากราชการที่ผ่านมาผมไม่ได้พูดว่ามั่นใจในตัวคำสั่ง เพราะเป็นการพิจารณาตามที่ฝ่ายอำนวยการได้เสนอตามข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติปี 2565 จากนี้จึงเป็นเรื่องระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กับสำนักนายกรัฐมนตรี ในทางกฎหมายเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ดำเนินการตามมาตรา 140 ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่ ผมไม่สามารถให้คำนิยามคำนี้ได้”

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตามมาตรา 120 ต้องรอผลการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดสืบสวน และจาก คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) รวมทั้ง จะมีการพิจารณาตามมาตรา 131 เรื่องบทลงโทษ ยืนยันว่ามีการพิจารณาตามขั้นตอนที่จะนำไปสู่มาตรา 140 คือการทูลเกล้าฯ

ส่วนการที่กฤษฎีกาฯ ตีความประเด็นออกจากราชการกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการเพลี้ยงพล้ำหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ไม่ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามมาตรา 140

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสถานะของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายการที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กระบวนการต่างๆ พิจารณาตามกฎหมาย ถ้าถามว่าสถานะเป็นอย่างไร คำตอบคืออยู่ในกระบวนการปฏิบัติที่ดำเนินการอยู่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากคำสั่งออกจากราชการ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ไม่หนักใจในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะการลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ให้จนถึงที่สุดให้ดี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *