โยนทั้งหมด-โทษรัฐบาล

ประชาชนเป็นผู้“ตัดสิน-ลิ้นหรือน้ำลาย” สร้างผลงานประทับใจชาวบ้านไม่ได้จริงๆ

ถ้า“ประชาธิปัตย์” หรือ..“พรรคธงฟ้า” มีผลงานที่เข็นขึ้น ให้ประทับทรวงแก่ชาวบ้าน-ร้านตลาดแล้ว คงจะไม่เป็นพรรคที่รูด-ครูดลงมาอยู่ “กลุ่มท้ายๆ“ในวันนี้

เลือกตั้งปี๖๒ “สำนักแม่ธรณีบีบมวยผม”สะสม“สอสอ”เข้าสภาฯได้“๕๒ ชีวิต” เกินครึ่งร้อยไปอย่างกระปริบ-กระปรอย หลังจากเข้าไป“ผสมพันธุ์” สืบพันธุ์เป็นหน่อเนื้อเดียวกัน กับ“กลุ่มอำนาจเก่า” ที่ผ่านการ“ปฏิวัติ”มา..

ดูเหมือนว่าพรรคนี้ จะ“แตกซ่าน” แตกกระจาย .. “สิ้นมนต์ขลัง” ที่ยกตนเองว่าเป็น“สถาบันการเมือง”ลงไปหลายกิโลขีด

ครั้นถึงยามเลือกตั้ง ปี๖๖ ชีวิตพรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำอย่างน่าใจหาย “หอบหิ้ว”ผู้แทนเข้าสภาฯได้อย่าง“โหวงเหวง” เบาหวิว เป็นอันมากส์

เก็บเกี่ยวคะแนนได้“สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” เข้าสภาฯมาเพียง ๒๕ ชีวิต-หน่อยนิด ไม่สมกับราคาคุย

“เมืองหลวงภาคใต้” ฐานที่มั่นอันเป็น“จุดแข็ง-หนึ่งเดียว” ก็ถูกตีกระจัด-กระจาย ล้มระเน-ระนาด ไม่มีดี

กระทั่งถิ่นจังหวัดตรัง ของ“คุณชวน หลีกภัย” ที่ว่า“แข็งโป๊ก” ปึ๋งปั๋งยิ่งกว่าภูผา ใครโยกก็ไม่มีวันขยับ ก็โดนถูกเจาะ-โดนถูกไช ทะลวงกันอย่างไม่เห็นหน้า“ท่านนายหัวชวน หลีกภัย”เอาเสียเลย

ที่จังหวัดตรังนี้ “สส.ประชาธิปัตย์” ในปีก“คุณชวน” ได้ผู้แทนมาเพียง ๒ เขต ปล่อยให้“พรรคพี่ใหญ่” ของ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวงษ์ สุวรรณสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ ซิวไป ๑ เก้าอี้ และ“พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของ“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกรัฐมนตรี คว้าชัยไป ๑ ตำแหน่ง

ทำให้ “สส.”ผู้ติดอันดับท็อปเท็น พากันร่วงกราว ตกลงมากระทบพื้นที่ “จุกแอ็กๆ”ไปตาม ๆ กัน

ผลพวงนี้ เหมือนจะไม่ถูกใจพ่อแม่พี่น้องชาวใต้เอาเสียเลย ..เขาคงจะเบื่อนิยาม คำว่า“เอาดีใส่ตัว-เอาชั่วให้คนอื่น” เมื่อ“กุศโลบายนี้” ไม่สามารถใช้ได้ทั้ง“ตลาดบนและตลาดล่าง” ควรที่“ประชาธิปัตย์”ต้องปรับกลยุทธ์ให้ถูกใจชาวตลาด

แต่เหมือนว่า “ประชาธิปัตย์”จะไม่คิด“เปลี่ยนแปลง” ทำสิ่งต่างๆให้ผิดไปจากเดิม คงใช้“วาทะกรรม” ทิ่มตำคนอื่น เพื่อที่จะให้ตัวเอง“ดูดี”

เห็นได้จากการอภิปรายงบประมาณ ปี ๖๘ ก็แผดเสียงฟาดฟัน“เศรษฐา ทวีสิน” โยนความผิดทั้งหมด-จดใส่ให้รัฐบาล พูดอย่างโก้หรูว่า “เศรษฐกิจก็เสดสา พัฒนาก็ค้างคาใจ ยาเสพติดก็ติดกันไป สบายใจรัฐบาลเศรษฐี”

เป็นการเหยียบให้“รัฐบาลเศรษฐา”จมดิน..เรียกว่าเป็น“รัฐบาลที่ไม่เอาอ่าว” ไม่มีผลงานติดแผ่นดินให้เห็น

คำว่า“เสดสา” ภาษาใต้ที่“นายหัวชวน” เคยนำมาแหลงใต้ เปรียบเทียบเอากับ“นายกฯเศรษฐา” นั้น..มีคำแปล“ภาคกลาง” ว่า…“ลำบาก-ยากเข็น” หมายถึงคนที่มีชีวิตหาเช้ากินค่ำ ยังไม่พอจะยาไส้ อะไรก็ปานนี้แหละ

ที่ลำบากสุดขั้ว-หัวใจ น่าจะเป็น“ประชาธิปัตย์”เสียมากกว่ากระมัง

นอกจากจะได้“สส.”เข้าสภาฯผิดคาด-พลาดเป้ากันไปอย่างจมกระเบื้องแล้ว พรรคตัวเองยังจะมา“ชวด” ผิดหวัง อดได้ ไม่สมใจหมายได้เป็นรัฐบาลเสียอีก ทั้งที่ร่วมมือกับรัฐบาลเก่าอย่างเต็มสตรีม

เรื่อง“ยาเสพติด”นั้น… “พรรคเพื่อไทย” และ“พรรคร่วม” ผนึกกันเต็มกำลัง ปราบปรามทะลายวงการ“ค้ายา”เห็นได้ชัด “ยาเสพติด”ระบาดมาอย่างหนักหลายรัฐบาลแล้ว..ซึ่งรัฐบาลเก่า ที่มี“ประชาธิปัตย์”ลงเรือด้วย ก็ปราบไม่สิ้น

ควรใช้“ความเป็นธรรม” อย่า“ใจดำ” กล่าวหา“รัฐบาลเศรษฐา” ว่าปราบยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ แบบนี้มันเกินไป

ถ้า“ผลงาน” ของ“ประชาธิปัตย์” ที่ร่วมกับรัฐบาลก่อน “ฝังใจ” ตรึงใจ แน่นในใจ ของประชาชน เสียอย่างแล้ว

ท่านต้องได้“สส.”มากกว่า “๒๕ ที่นั่ง”..แต่นี่ได้น้อยกว่าเดิมจากปี๖๒ ที่มีอยู่ด้วยกัน “๕๒ ที่นั่ง” นี่มันบ่งบอกว่าอะไร

ก่อนจะด่าว่าใคร หันมองตัวเองเสียหน่อย ว่ามี“ผลงาน”ดีแค่ไหน

ที่แน่ๆ คงดีไม่จริง.. “ไม่เช่นนั้น เขาหรือจะสลัดทิ้ง” กลิ้งลงมาแทบหมดสภาพอย่างทุกวันนี้หรือ

“กะพรุนไฟ”