สอนหัด-ไม่ชัดเจนงาน

คิดใช้“น้ำลายสร้างชาติ” จึงไม่ควรให้เกิดบทเรียน“ดีแต่พูด” เหมือนกับบางพรรคที่คร่ำครึ “บทเรียนนี้”สมควรเป็นอย่างยิ่งจะต้อง“ถอดสแควร์รูท” เป็น“รากแก้ว” ไม่ให้เกิดซ้ำ-พรรคตกต่ำตามมาอีก

“ท่านไม่ผิด” ที่“ยื่นกระทู้ถามสด” ไปยัง“นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน เป็นสิ่งที่ทำได้ล้านเปอร์เซ็นต์เต็ม

ในการนำ“ความเดือดร้อน”..“ปัญหาที่รุมเร้า” เพื่อให้“นายกฯเศรษฐา” รู้ถึงปัญหา-จะได้แก้ไขกันอย่างตรงจุด

นอกจากถามผ่านกระทู้สดแล้ว ควรพลิกแพลงเทคนิค หันมา“จับเข่าคุยกัน” โดยไม่ออก“แอคชั่น”ด่ากันลั่น น่าทำได้อยู่ เพราะ“เศรษฐา” ก็เหยียบไป ๗ ย่านน้ำคาบสมุทร บุกเข้าไปถึงทุกถิ่นที่ เพื่อนำปัญหามาปรับปรุงและแก้ไข

เป็นไปได้ไหม?.. ที่“ฝ่ายค้าน” จะปรับกลยุทธ์มาใช้ แบบ“ใจประสานใจ” เพื่อประสาน“การทำงาน”อย่างถึงเนื้อถึงตัว อย่าใช้“เวที-สภาผู้แทนราษฎร”สร้างบทบาท เพราะการทำเช่นนี้เคยที่จะ“ชนะใจประชาชน”ก็เห็นกันอยู่มิใช่หรือ

หนทาง“ดี-เด่น-โด่ง-ดัง” เพราะ“ข้าคนเดียว” สักวันมันก็ต้อง“ล้มเหลว” ดิ่งลงก้นเหวเหมือนเดิมนั่นแหละ

อย่าทำตัวเป็น“น้ำล้นแก้ว” ไม่เกิด“คุณภาพแจ๋วแหวว”กันไหนหรอก..มีแต่ทำให้ “ก้าวไกล-เพื่อไทย”จับมือกันได้ยาก

แสดงความมีน้ำใจของ“พรรคก้าวไกล” เชื่อว่าท่านจะไม่“ถูกบอยคอต” เป็นโดดเดี่ยว“หัวเดียวกระเทียมลีบ”แน่นอน

อย่าได้นำเอา“กระทู้สด” มาเล่นเป็น“เกมการเมือง” เพราะทุกเรื่อง“เศรษฐา”แก้หมดคนเดียวไม่ได้

ขืนดันทุรัง ให้“นายกฯเศรษฐา”ไปตอบทุกเรื่อง ท่านจะถูก“ปล่อยเกาะ”..จำเป็นด้วยหรือต้อง“ปากเปราะ”กันทุกเรื่อง สร้างผลงานให้“ติดสื่อ” เป็นเสมือนกับ“ดาบสองคม” ที่จมบางพรรคให้ดับสูญกันมาแล้ว..

อย่าถึงขั้น“กอปปี้”..“ลอกเลียนแบบ” สำนักธงฟ้าอีกเลย..เพราะมันไม่ใช่“ความประทับใจ”ที่ประชาชนอยากเห็น

ในเมื่อคิดว่า“กระทู้สด” เป็นเรื่องเร่งด่วน ทำไมต้อง“รูดซิปปาก” ไม่แจงแจ้งปัญหาให้“คณะรัฐมนตรี”คนอื่นนำไปแก้ ถ้าปัญหานี้“รอกันได้-ไม่น่าใช่เรื่องด่วน” ตามที่ได้อรรถาธิบายกันมา

อย่างไรก็ดี ต้องกระทุ้ง กระแทก ให้ สะเทือนไปถึง“นายกฯเศรษฐา”ให้จั๋งหนับ “ผู้มืออ่อนหัด-ไม่ชัดเจน”การทำหน้าที่ ควรมีเวลาไป“ล้อมวง” สื่อสารกัน“โดยตรง”กับ“ฝ่ายค้าน”กันบ้าง จะดีไม่ใช่น้อย

ท่านยอมเดินทาง“อ้างร้าง-ค้างแรม” เพื่อประชุม“ครม.สัญจร”กันได้..พบทั้ง“ข้าราชการและประชาชน” ที่นำ“ปัญหาในที่ลับ” เพื่อมา“แก้ไขกันในที่แจ้ง” ก็เห็นว่า“กระทำมา”ตลอดเวลา ๙-๑๐ เดือน

แต่“ผลสำเร็จ”ไม่เคยบังเกิดผล?..เหมือนกับการ“ใช้กระชอน-กระเชอก้นรั่ว”เอาไปรองน้ำ “น้ำ”ก็รั่วออกจากรูหมด ไม่เกิดประโยชน์สิ่งใด ในการ“สัญจรลงพื้นที่” เรียกว่า“ไม่เข้าเกณฑ์”ก็ว่าได้

ยอมลงไปพบกับ“ข้าราชการในถิ่นกันดาร” และ“ประชาชน”ที่ยากจนและมีปัญหารุมเร้า “ท่านยังทำได้” ทำไมกับ“พรรคฝ่ายค้าน” ที่วันข้างหน้า อาจจะเป็น“รัฐบาลด้วยกัน” จะต้องมา“แบ่งเขา-แบ่งเรา”

การไป“ตอบกระทู้สด” เพื่อรับรู้ในสิ่งที่“นายกฯเศรษฐา”มืดบอด มองไม่เห็น แต่ได้ไปพบ“จักษุหมอตา”อย่างพรรคฝ่ายค้าน ย่อมจะเปิด“นัยน์ตา” ให้รู้ถึงปัญหาอย่างแท้จริง

“รัฐบาลมีอำนาจ” แต่ถ้า“ขาดปัญญา” ไม่รู้ถึงแก่นของปัญหา ก็จะทำ“สิ่งส่งเดช” เหมือน“ตาบอดคลำช้าง”นั่นแหละ ทั้ง“สะเปะ-สะปะ” อีกทั้ง“ไม่ตรงเป้า-ไม่เข้าตรงจุด”อีกต่างหาก

เห็นได้ในการ“แจกเงินดิจิตอลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท” จะนำเงินจาก“ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์” ร่วมโครงการ ตอนนี้เหมือนว่าจะ“พับฐาน” หยุดดำเนินการเอาเงิน“ธกส.”เสียแล้วล่ะ

“ดิจิตอล”ที่เดินชักกระตุก “เดินหน้าไปที-ถอยหลังมาหน”.. เพราะ“รัฐบาล”ไม่รู้ประสีประสา นี่แหละจริงไหมล่ะท่าน

“อย่าถือตัว”ว่าเป็น“ผู้ที่อำนาจ” น้อมตัวลงไปเจรจากัน“ฉันพี่-ฉันน้อง” กับฝ่ายค้านไม่ได้

“รัฐบาล”เป็นเหมือน“ผู้ใหญ่” ควร“ต้องมีใจ”ให้กับ“ฝ่ายค้าน” ที่เสมือนกับเป็น“เด็ก”เสียก่อน

อยู่กับ“ตึกไทยคู่ฟ้า” ตีนไม่ลงมาเหยียบดิน ถึง“สภาผู้แทนราษฎร”เสียที

อยู่ไปก็ไร้ค่า.. “ไปไว ๆ เหอะเศรษฐา” ยิ่งอยู่ยิ่งมองหน้าคนเขาไม่ติด มากขึ้นทุกวัน

“กะพรุนไฟ”