เกษตรรวย-เครื่องจักรช่วยได้

“ไฟเขียวสว่างโร่” ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่“กลวงโบ๋” คนในชาติยากจน“หัวโต”กันทั้งแผ่นดิน

ออกมา“กระเปิ๊บ-กระป๊าบ” รื่นเริงหัวใจกันเป็นนักหนา ผลสรุปของ“คณะอนุกรรมาธิการ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘”…

ที่“เคาะ” ประชุมคณะอนุมัติกรรมาธิการครุภัณฑ์ ซีไอที และหมุนเวียน ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ ซีบี ๔๐๗ ตึกรัฐสภา

เพื่อที่“จัดสรร-เทงบให้กองทัพกัน”อย่างถ้วนหน้า “ตบเท้า”มาพร้อมหน้า สำนักปลัดกลาโหม-ทัพบก-ทัพเรือ-ทัพอากาศ อีกทั้ง กองบัญชาการกองทัพไทย และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

ครั้งนี้ดูเหมือน“ทหารอากาศ-จะไม่ขาดรัก” เพราะได้รับการพิจารณาผ่านงบประมาณ ปี ๖๘ ในขั้นอนุกรรมาธิการ

หลัง“ตกพุ่มม่ายขันหมาก” ทนทู่ซี้ใช้“เอฟ.๑๖ ฝูงเก่า”กันมาเนิ่นนาน ตั้งแต่ปี๓๑ สิริรวมเวลาผ่านมาแล้ว ๓๖ ปี

“เสืออากาศ-ที่วาดวิมาน”ก็บรรลุธรรมแห่งความพยายามเสียที เพราะได้รับการ“อนุมัติผ่านฉลุย”

ถึงจะเป็น“เบื้องต้น” แต่นับว่าเป็นการ“เปิดประตู”ให้ได้“งบ”ซื้อ“เอฟ.๑๖ ฝูงใหม่” ที่เฉิดไฉไลด้วยสมรรถภาพเต็มพิกัด

และอาจยกระดับ-สร้างความประทับใจ ไปซื้อ“เอฟ.๓๕” มาประดับเกียรติให้กับ“เหยี่ยวเวหาแห่งท้องทุ่งดอนเมือง”ก็ได้ เพราะครั้งใดที่มีการเสนอซื้อ“เอฟ.๑๖” ถูกคัดค้าน-สนั่นกันมาทุกที

จะได้ยกเครื่อง“ลักษณะเครื่องหมาย” ให้ดูเด่นสมสง่ากันมากกว่าเดิม เพิ่มทรงอนุภาพให้กับ“พระรามแผลงศรอยู่เหนือปีก และ ช่อชัยพฤกษ์” ที่เป็นสีเขียว ให้“อาร์ม”เด่นสง่า-บารมีชัดขึ้น

แต่เมื่อหันมาดู“ชีวิตเกษตรกรไทย” ยัง“จมปลัก-ดักดาน”กับวิถีเดิมๆ ที่ใช้“แรงงานคน”ปลูกพืชผล-ป้อนคนทั่วโลก

“กระทรวงเกษตรฯ”ของ“ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” ควรพลิกสถานการณ์-ผลักดัน การทำ“เกษตรกรรมไทย”ให้ดีกว่านี้

“ต้นแบบ-แม่บท”ที่เป็นตัวอย่างอันดี..ดูได้จากการทำ“เกษตรกรรม”ของ“ชาวอิสราเอล” เป็นครู-เป็นอาจารย์กันก็ได้ “แผ่นดินเขา”ทั้งประเทศปกคลุมไปด้วย“พื้นที่แห่งทะเลทราย”อันแสนร้อนระอุ และ“หาน้ำ-ทำเกษตร”ดับเบิ้ลยาก

และตลอดเกือบทั้งปี จะมี“ไฟสงคราม” เปิดศึกปะทะเดือดร้อน จนทั่วโลกจับตามองกันโดยไม่กระพริบ

แต่เชื่อไหมล่ะท่านสารวัตร.. แผ่นดินของ“มนุษย์ชาวยิว”กลับเป็นแหล่ง“เกษตรกรรม” ส่งผลผลิต-ผลไม้ออก อย่างล่ำซำ “รายได้”ส่งออกผลไม้ ไม่น้อยไปกว่า“ค้าอาวุธสงคราม”เท่าไหร่..

ที่อิสราเอลเป็นเมือง-รุ่งเรืองด้วย“ผลหมาก-รากไม้” ส่งไปขายต่างแดน ทำเงินเข้าแผ่นดินเขากันอย่างอู้ฟู่

เพราะเขา“พัฒนาเกษตร” ที่ไม่ใช่“แรงงานมนุษย์”เป็นหลัก..นำเครื่องมือระดับเบิ้มเข้ามาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ “ผลผลิต”ยากเกิดความเสียหาย.. “ผลไม้เกรดเอ”ที่ได้ก็ส่งออก “เกรดบี”บริโภคภายใน “เกรดซี”ทำเป็นน้ำคั้นผลไม้

“แม่คงคา”ที่ว่าหายาก เขาก็ขุดจาก“ใต้ดิน”ขึ้นมาหล่อเลี้ยง..โดย“ผสมกับปุ๋ย” ส่งไปในรูปแบบ“น้ำหยด”

“ซุปเปอร์-รถการเกษตร”ของเขานั้น..ใช้อย่างคุ้มค่า “แต่งกิ่ง”หลังเกี่ยวเก็บ เพื่อเพิ่ม“ปริมาณ”ผลิตมากขึ้นในปีต่อไป

การ“ฉีดปุ๋ยทางใบ” หรือ“การจำกัดแมลง” เขาก็ใช้โดรน.. ไม่มี“แมลงพันธุ์ใด”สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรได้

“๑ พื้นที่ในการทำเกษตร”เขาใช้คนดูแลเพียง“๑ คนเท่านั้น” หนำซ้ำยังเป็น“แรงงานไทย”ที่เขามีความต้องการอย่างสูง

“กองทัพอากาศ”ได้“เอฟ.๑๖” หรือ“เอฟ.๓๕” มาเสริมเขี้ยวเล็บ น่ายินดี-ปรีดาด้วย

“รัฐมนตรีธรรมนัส”ควรของบเพื่อ“ซื้อเครื่องจักร” มาทำการเกษตรกันอย่างเต็มกำลังทั้งประเทศ

“ผลไม้ไทย” ชื่อว่าเป็น“๑ ในโลก” โดยเฉพาะ“ทุเรียน”ด้วยแล้ว “ประชากร-คนจีน”ต้องการอย่างสูง

แต่ทุกวันนี้“เกษตรกรไทย”ทำกันไปตามยถากรรม มีการ“ตัดทุเรียนอ่อนส่งไปขาย” ทำให้เสียตลาดวอดวาย

ในเมื่อ“ทัพฟ้า”ซื้อฝูงบินลำใหม่ได้..“กระทรวงเกษตรฯ”ต้องของบซื้อ“เครื่องจักรใหม่ๆ”ได้เหมือนกัน

เพราะซื้อมา“ไม่เสียหลาย” เพราะผลผลิต-ติดดอกติดผล ทำเงินเข้าประเทศ อย่างท่วมท้น

เกษตรกรที่ทำด้วยเครื่องจักร.. “พาให้รวยกันมากนัก”..เราควรปักหลักใช้เครื่องจักรเข้ามาทำเสียที

“กะพรุนไฟ”