อ้างถี่-มีแต่ทำให้เสื่อม

ออกมา“เสี้ยม”จนขนหลุด ทำไมต้องมาสร้าง“จุดแตกแยก-แหกแผ่นดิน” ให้เป็นฝั่ง-เป็นฝ่ายกันด้วยเล่า

เหมือนว่ามีปม ตั้งใจจะ“ขย่ม” เพื่อให้“พรรคเพื่อไทย” ของ“นายกฯอุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังเร่งตัว“ออกจากจุดสตาร์ท”

เกิดเครื่องรวน หมายทำให้“เบรกสะบัด คลัทช์เสีย เกียร์หลุด เครื่องสะดุด เพลาหัก สลักหาย หัวเทียนห่าง ยางแฟบ แหนบตาย”

ประเทศไทยเกิดอาการ“จมบ่อ-ไปต่อไม่ได้” ก็เพราะคนพรรค์นี้ ที่อยู่ข้างเวทีแต่ให้“นักมวย”สู้กันจนตาย..ทั้งที่ประเทศชาตินี้ ต้องการ“ความสามัคคี-มีใจเดียวกัน” ในการนำพาชาติและบ้านเมืองกลับมาเป็น“ยักษ์ตัวเดิม”ที่เราเคยเริ่มเดินมาแล้ว

“ปี ๕๓ ที่ตายนั่นเค้าคือมนุษย์”..ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นี้ “อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นำ ครม. ในยุคนั้นทั้งชุดออกมาช่วยเหลือ“ประชาชน-คนเสื้อแดง”ทันท่วงที

มีอานิสงก์-ส่งไปยัง“เสื้อเหลือง”ที่ตายและบาดเจ็บ ได้รับการ“เยียวยา-พร้อมหน้าพร้อมตา”กันทุกสีเสื้อ

เป็น“กรอบแห่งวัฒนธรรม” ความมีน้ำใจ ที่จะไม่“เคียดแค้น-ฝังแน่น”กันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เหมือนกับบางคน

คน“จิตใจดีงาม” สมควรทำให้เกิดความ“ชิงชัง” เป็นรากฐานแห่งแผ่นดินอย่างไม่สิ้นสุดกระนั้นหรือ?

การที่“พรรคเพื่อไทย” ร่อนเทียบเชิญ การ์ดเชิญให้“พรรคประชาธิปัตย์” ที่ไม่เกี่ยวพันหนองยุ่งกับการตายของ“คนเสื้อแดง” เมื่อปี ๕๓ เข้ามาร่วม“แก้ปัญหาของชาติ”

เพื่อเติมเต็มสติปัญญาแห่งแผ่นดิน ในการขับเคลื่อน“วงล้อการบริหาร” ให้เดินหน้าทำงานเต็มตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

ถามว่า“ไปรื้อเก่า” ที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นี่เป็นการ“ใช้ก้านสมอง”ส่วนใดมาเป็น“จระเข้ขวางคลอง”กันเช่นนี้…

เพื่อไม่ให้“ประชาธิปัตย์” ของ“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ที่มุ่งมั่นคิดจะทำงานเพื่อประชาชนกันอย่างหนักแน่น

ส่วนเศษเสี้ยวของบางคน “นายชวน หลีกภัย” ที่เคยเข้าร่วมรัฐบาลกับทหารกันอย่าง“เป็นปี่-เป็นขลุ่ย”นั้น เขาก็ไม่ให้ได้“แซม-แจม” เข้ามามีส่วนด้วยต่างหาก

ถึง“ชวน” จะสร้างวาทะให้“ดูหล่อ-แต่ก้อ ไร้บอดี้ เต็มทน”..ว่า“ไม่อาจทรยศหักหลังประชาชนได้”..เพราะเคยรณรงค์หาเสียง ไม่ให้“คนใต้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามา”

ถามว่าในวันนี้ “ปาร์ตี้ลิสต์”ของ“พรรคเพื่อไทย” ก็มี“คนใต้”เข้ามาทำหน้าที่กันไม่ใช่น้อย

ที่เด่น-เป็นคุณภาพคับแก้ว “สุธรรม แสงประทุม” ที่อยู่คนละมุมกับ“นายหัวชวน” เขาก็ได้เป็นผู้แทนในสภาฯ ทำหน้าที่เพื่อชาวใต้ได้ดีมาก

“ชวน”คิดว่าตัวเองมี“วาจาสิทธิ์-ติดหูชาวใต้แล้ว”..แทนที่จะ“หาเสียง”ให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนเข้ามามากๆ ควรทำด้วยหนทางนี้

“หัวหน้าเฉลิมชัย ศรีอ่อน” และ“เดชอิศม์ ขาวทอง” เลขาธิการพรรค เขาต่าง“มีแสงในตัวเอง” ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทนในสภาฯ เพราะผลงานที่ประทับใจชาวบ้าน…มิได้“เกาะใบบุญ” เพียง“ปลายลิ้น”ของใครบางคนเข้ามาหรอก

ไม่รู้ว่าใคร ไปมโน-ตั้งเสียโก้หรู ว่าเป็น“เทพเจ้าแห่งปักษ์ใต้”..ถ้า“วาจาน้ำคำ-ทำให้คนเชื่อได้จริง”

“ประชาธิปัตย์” ที่มี“ชวน”เป็นคนชูโรงหาเสียง“เป็นตัวเอกนั้น” คงไม่พ่ายหมดรูป-หุบไม่โผล่กันเช่นนี้

เสียพื้นที่“เมืองหลวง”ในภาคใต้ ที่เป็นของ“ประชาธิปัตย์” ให้แก่“รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ และก้าวไกล” อย่างหมดฟอร์ม

กระทั่งดินแดน-แผ่นดินเมืองตรัง อาณาจักรฐานที่มั่นของ“นายหัวชวน”เองนั้น..ก็“ถูกน็อก-คาคอก” จมเบ้าจนไปไม่เป็น..จากที่เคยเล่า-ว่าเอา“เสาไฟฟ้าลงสมัคร” พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังได้มาเป็นผู้แทนเลย

วันนี้ไปดึง“คนหน้าใหม่”เข้ามาเสริมทัพ..แต่ทำไม“อดีต สส.เก่า” จึงได้“ตีตัวจาก” เดินลากความบอบช้ำออกจากพรรคกันเป็นแถว

เพราะ“มอง-จ้องคนอื่นเป็นศัตรู” ซึ่งไม่ใช่“วิสัย”ของ“นักการเมือง”ที่เป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อให้ประชาชนได้ก้าวเดินเพื่อทำตาม

นี่เหมือนจะ“ผูกใจแค้น” ไม่คิดแขวนความเกลียดชังกันมั่งเลย..ทำให้บ้านเมืองไทยแตกกันเสียยิ่งกว่า“สามก๊ก”ในแผ่นดินจีนเสียอีก

หรือว่า“ความพ่ายแพ้”ของ“ชวน” ที่มีต่อ“พรรคไทยรักไทย-พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย”นั้น มันได้“กัดกินหัวใจ”หรือไฉน

“เฒ่าก็ปูนนั้น-แก่กันก็ปูนนี้” ควรยึดหลัก“แห่งความสามัคคี”ให้เกิดแก่ใจเสียบ้าง

อ้างประชาชนกันบ่อยๆ..“ทั้งที่เขาทำเพื่อชาติเต็มร้อย”.. ท่านสมควรถอยไป ให้“เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์”ทำเพื่อชาติอย่างเต็มที่

“กะพรุนไฟ”