24 ตุลาคม 2024

“นกพิราบ”ที่เราเห็นมีแต่“สีขาว” ไม่มี“สีดำ” ที่ทำริยำ-ตำบอน มักอยู่“หน้าจอทีวี” และใน“โลกโซเชียล”

หลายประเทศ ในยุคหนึ่งเขาใช้“นกพิราบ”สื่อสาร“ส่งข่าว” จนเป็นสัญญาลักษณ์“แฝงความนัยยะ”แห่ง“เสรีภาพ”

เขาจึงเปรียบ“นกพิราบ” ดังว่านั้นคือ“สื่อ” เพื่อ“สื่อสาร” สร้างพื้นฐาน“แห่งความเป็นจริง” ได้รู้ความเป็นจริงครบถ้วน

แต่“สื่อมวลชน-หน้าจอ” และ“โซเชียล”นั้น…พากัน“แปลงกาย”จากสีขาว”เป็น“สีดำทะมึน” ฝืนหลักความจริง จนพากันสิ้นอุดมการณ์ “สร้างข่าวใส่ร้าย”ออกมาโจมตี โหมกระหน่ำใส่“รัฐบาล”กันมิดเกียร์อยู่ทุกวัน..

ผลแห่งพฤติการณ์ที่มันปฏิบัติ ต้องการเอาใจ“ฝ่ายอนุรักษ์” และเรียก“ยอดคนดู” สร้าง“เรตติ้ง”หาเงิน“เข้าสู่กระเป๋าตัวเอง”

ส่วนบ้านเมือง“ยับเยิน-เดินสะดุดล้ม”ไม่ใส่ใจเสียเมื่อไหร่..

นี่เป็น“ความเลวร้าย”ที่มันได้ก่อขึ้น เพื่อไม่ให้“บ้านเมืองสงบ” เหมือนจะให้เกิด“ฉากรบ” เช่นเหมือนปี ๕๒-๕๓ ที่ยิง“เสื้อแดง”กลางเมือง

นี่เป็น“ความจริง”ที่“สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำมาฟ้อง-ให้พี่น้องประชาชนเห็นการกระทำ-เหยียบย่ำให้คนแตกกัน

เมื่อมันคือ“ความสามานย์” ที่ต้องนำมาประจาน “วิชามาร”ของ“สื่อที่เลือกข้าง” ว่ามันช่างเลวร้ายสุดๆแค่ไหนกัน

เรื่องนี้เกิดขึ้น โดยมี“สื่อ”ร่วมมือกัน “ปล่อยข่าว”ทำนองว่า“กองทัพ”ไม่พอใจบทบาท“ฝ่ายการเมือง” ซึ่งก็หมายถึง“ท่านสุทิน”นี่แหละ ว่าได้ทำการ“ล้ำเส้น” เสมือนเป็นการ“แหย่เสือหลับ”

โดยเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม “พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่..) พ.ศ..และ “ร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่..) พ.ศ… เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร

มาดูเนื้อหาสาระสำคัญของร่าง คือ“ฝ่ายการเมือง”มีอำนาจจะหยุดยั้งการยึด การทำรัฐประหารโดยใช้อำนาจกองทัพ

และให้“นายกรัฐมนตรี” สั่งพักราชการทหารที่ใช้กำลังยึดอำนาจ หรือควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาลได้ รวมถึง“การกำหนดเงื่อนไข”การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล

นับเป็น“กฎหมายที่ดี” ในการหยุดและยับยั้ง“การปฏิวัติ-รัฐประหาร” ที่ถือว่าเป็น“วงจรอุบาทว์”ที่พาชาติถอยหลัง ออกทะเลจนกู่ไม่กลับ

ใครดูก็บอกว่า“ดีงาม” สมควรที่สื่อต้องสนับสนุน..เพราะทุกคนต่างเห็น“พิษภัย-ความเลวร้าย”กันแล้วว่า การนำรถถังออกมาแอ่น-แอ๊น ทำ“รัฐประหาร”นั้น..สร้างความเสียหายบานตะโก้แห้ว บ้านเมืองเจ๊งมาแล้ว ไม่รู้เท่าไหร่-ต่อเท่าไหร่

แต่กลับมี“สื่อแปลงร่าง” เป็น“นกพิราบสีดำ” พูดให้“ขาวกลายเป็นดำ” สร้างวีรกรรม ช่างชั่วร้ายนัก

ไปรายงานข่าวเป็นตุ-เป็นตะ คล้ายกับว่าเป็นเรื่อง-เป็นราวที่ได้เห็นมากับตัวเอง

แต่นี่กลับมา“รายการข่าวเท็จ-หมกเม็ด” อย่างหน้าด้าน -หน้าทน ยิ่งนัก

หยิบประเด็น-เบนเรื่องไปอย่างนอกลู่-นอกทาง ว่าการผลักดัน“พรบ. ๒ ฉบับนี้” ทำให้“กองทัพไม่พอใจ” เกิดอาการเฮิร์ตฟิลลิ่งฮาร์ตขึ้นมา จนทำให้“ผู้นำเหล่าทัพหลายคน”ไม่เข้าร่วมประชุมสภากลาโหม

หนำซ้ำยัง“ขยี้-ตีข่าว”อย่างเลวร้ายด้วยว่า..“นี่เป็นการส่งสัญญาณบอกเหตุร้ายแล้วว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากฝ่ายการเมืองเดินเรื่องนี้”

ความเป็นจริงแล้ว การประชุมสภากลาโหม เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น…“ผู้นำเหล่าทัพ”ได้มาร่วมประชุมกันเกือบหมด

ยกเว้น“ผู้บัญชาการทหารสูงสุด” และ“ผู้บัญชาการทหารบก” ที่ทั้ง ๒ ท่านติดภารกิจต่างประเทศ และได้ทำหนังสือ“ขอลา”อย่างเป็นทางการ

แต่กระนั้น ก็ยัง“ส่งตัวแทน”เข้ามาร่วมประชุมสภากลาโหมกันตามปกติเหมือนเช่นทุกผ่านมา

“ฝ่ายการเมือง” กับ “ผู้นำเหล่าทัพ” มิได้มีปัญหา-คาใจกันแม้แต่น้อย

แต่“สื่อแฝงกาย” ก็ยังนำ“ข่าวเท็จ”ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ไปเล่นกัน“หน้าจอทีวี” และใน“โซเชียล”อย่างสนุกปาก

ช่างเป็น“ความชั่ว”ในการ“รายงานข่าวมั่ว”กันอย่างไม่เห็นแก่ชาติและบ้านเมืองเลย ไม่มี“สำนึกแห่งจรรยาบรรณ”ในความเป็นสื่อ ที่จะทำหน้าที่อย่าง“ซื่อสัตย์-และภักดี”ต่อความรับผิดชอบของตัวเอง

“ทิ่มแทง”อย่างหนำใจกับ“ฝ่ายการเมือง” เพื่อให้เกิดศรศิลป์ไม่กินกันกับ“ผู้นำเหล่าทัพ” เพื่อให้โค่นและ“ล้มล้างรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย”

เพราะมี“สื่อเลว”บางคนที่ได้ดิบ-ได้ดี เพราะการเป็น“ฝุ่นใต้ตีน-ปลายกระบอกปืน”

มันคิดแต่จะให้“ทหาร”กลับมาครองเมือง เพื่อที่จะ“เกาะใบบุญ” หาทุนเข้ากระเป๋าตัวเองง่ายๆเหมือนที่ผ่านมา

สื่อพวกนี้แหละคือตัวมาร…“ไม่มีหรอกเรื่องอุดมการณ์” ผลิตข่าวตามสันดาน หาเงินให้มันก้อเท่านั้นเอง

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *