24 ตุลาคม 2024

“แจกแล้วไม่ได้หายจน” แต่แปลกแฮะ..สมัย“คุณจุติ ไกรฤกษ์” ท่านชื่นชม-ขย่มตอเป็นอันมากส์ ในฐานะรัฐมนตรี“กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์”

ท่านได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลของ“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”..ดูแล้วเสมือนหนึ่งเป็น“เงาะกระป๋อง” ข้างซ้าย-ข้างขวาผู้แสนดี

“เย็บปากสนิท-เรียบกริบ” ชนิดที่“หมอทำคลอด”ยังทำเนียนไม่ได้ถึงปานนี้ ไม่มีการกระแอม-กระไอ หรือ“ผายลม” ว่าแจกเงินคนละครึ่งแล้ว“ก็ไม่ทำให้หายจน”

ดูเหมือนว่าท่าน“นั่งเสพสมบ่มิสม” มีความสุขกับการแจกคนละครึ่งอย่างนึกไม่ถึงทีเดียวเชียว

ด้วยการกู้เงินมาแจก-แหลกลาญ ถึง “๑ ล้าน ๕ แสนล้าน” และไม่ได้“กระตุ้นเศรษฐกิจ”ตามแนวคิดที่ยัดใส่ลงหัวสมองประชาชนเสียด้วย

เมื่อแจกอย่าง“กะปริบกะปรอย”เฉพาะ“กลุ่มเปราะบาง” มันจะเกิดประสิทธิภาพคับแก้ว มาจากไหนกัน แจกแบบ“เอาเงินไปถมทะเล” ใช้ปนเปอย่างขาดคุณภาพ

พอ “รัฐบาลอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เธอซึ่งเป็น“วูแมน” สาวรุ่นใหม่ที่มีไฟในตัว เข้ามานำทัพในแผ่นดิน

ก็“ถูกน้ำลาย-ชายแก่” หยั่งกะ“คุณจุติ ไกรฤกษ์” ออกมา“ดักทาง-กางแขนขวาง”โครงการ“ดิจิตอลวอลเล็ต”แจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท

ท่านใช้ความเป็น“สส.” จึงมีเอกสิทธิ์ในการอภิปราย-ยำใส่“งบประมาณ ๓.๗๕ ล้านล้านบาท”ได้อย่างมันส์ปาก ทั้งที่ท่านสังกัดอยู่กับ“พรรครวมไทยสร้างชาติ”เป็นผู้แทนในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ร่วมลงเรือลำเดียวกับ“รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”ด้วยนะนั่น

ท่านสามารถที่จะ“เปล่งเสียง-ดังเปรี้ยงๆ” ให้คำแนะนำเป็นสิ่งดีๆ เพื่อที่“รัฐบาลน้องใหม่-นายกฯหญิงสวยไฉไล”นำไปปรับปรุงได้ ไม่ว่ากัน

แต่เรื่อง“แจกแล้วก็ไม่ได้ทำให้หายจน”…นี่เป็นการ“ดิสเครดิต” สั่นคลอน“ความน่าเชื่อถือ”ของรัฐบาลอย่างแรง

ถ้าเรื่อง“แจกเงิน”มันเป็น“ส่วนเกิน” ไม่ได้ทำให้“บ้านเมืองเจริญ”จริงดังว่า แล้วทำไม“รัฐบาลประยุทธ์”แจกกันโครมๆ ท่านถึงไม่ได้ออกมา“ถาโถม” ถล่มให้จมเขี้ยวบ้างล่ะ

หรือว่าความเป็น“รัฐมนตรี”ที่ท่านได้นั่งร่วมคณะอยู่ด้วย ทำให้“ลิ้นชา-ขากรรไกรแข็ง” จึงไม่สามารถออกมาตักเตือนในเรื่องนี้ได้

ยิ่งการเสนอแนะให้“รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”ทำตัวเป็น“ลูกปู” เดินตาม“แม่ปู” ทำทุกอย่างตามที่“สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม”ได้ชี้แนะไว้

ถามหน่อยเหอะ นับตั้งแต่มีการก่อตั้ง“สภาพัฒน์ฯ” เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ปี๒๔๙๓ ในสมัย“จอมพลแปลก พิบูลสงคราม” นำทัศนะดีๆ เป็นทางออกให้กับ“รัฐบาลใด”มีความมั่นคงทางสถานะด้านเศรษฐกิจ ให้ชูวับขึ้นมาบ้าง

ถ้าท่านเป็น“กุนซือของประเทศ” ที่สร้างเหตุผลให้ชาติบ้านเมืองเจริญจริง ดังที่“คุณจุติ”ได้กล่าวมา “ประเทศไทย”ของเราคง“ยืนหนึ่ง” ไม่ใช่เป็น“ประเทศด้อยพัฒนา” มาเกือบจะ ๗๐ ปี เหมือนในวันนี้หรอก

ยิ่งเมื่อใดที่“พรรคไทยรักไทย-พรรคพลังประชาชน-พรรคเพื่อไทย” ซึ่งมีเส้นทางสืบสานการเป็น“รัฐบาล”กันมาหลายคน ดูจะเป็นที่“ขัดใจ” ไม่เอนจอยเท่าไหร่สำหรับ“สภาพัฒน์ฯ”เอาเสียเลย เพราะไม่เดินตาม“เข็มทิศ-ความคิด” ที่“สภาพัฒน์ฯ”กำหนดมา

เขาพิสูจน์เห็นแน่ชัดแล้วว่า ถ้าความเจริญเกิดขึ้นจริง ตามที่“สภาพัฒน์ฯ”เป็นกุนซืออยู่หลังฉาก หลายรัฐบาล“คงปลดหนี้-ล้างบัญชี”ของประเทศ ให้เกิด“ตัวกำไร”ขึ้นมาบานฉ่ำกันแล้ว

แต่นี่หันไปซ้าย หรือไปทางขวา ล้วนแต่มี“หนี้ตัวแดง-เป็นแผง”เต็มพรึดกันไปหมด แล้วทำไมจะต้องไปเดินตาม“แม่ปู”ที่เดินเซไป-เซมา

ครั้นเมื่อ“ลูกปู”ไปเดินตาม ก็เซ-ขาเกเหมือนกันนั่นแหละ

ในเมื่อ“สภาพัฒน์ฯ”ไม่ใช่ทางออก-ไม่ใช่ตรอกที่จะเป็นทางผ่าน นำประเทศชาติเดินไปทางข้างหน้าได้ “รัฐบาล”ที่มาจาก“นักการเมือง”ที่มีหัวคิด เห็นสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนว่าเขา“แร้นแค้น”กันเพียงใด

จึงกำหนดนโยบายขึ้นมาแก้ปัญหา“ความจน”…ไม่ใช่คล้อยตาม หรือเชื่อฟัง“สภาพัฒน์ฯ”นักวิชาการห้องแอร์ เสนอไอเดียมา

เอา“แนวคิด”มาทำเป็น“ภาคปฏิบัติ” จึงไม่อาจแก้สัดส่วนของปัญหาได้ตรงเป้าที่มันเป็นความจริง

“สภาพัฒน์ฯ”ตั้งตัวเป็น“กำแพงเมืองจีน” ค้าน“ดิจิตอลวอลเล็ต” เป็นแนวทางเดียวกับ“พรรคก้าวไกล” และมายัง“พรรคประชาชน”

ดูเหมือนว่า “๒ แนวคิด-เป็นหนึ่งมิตรชิดใกล้”กันเสียเหลือเกิน..เพราะเป็นยิ่งกว่า“คอหอยกับลูกระเดือก”กันเสียอีก ดูเหมือนจะ“เล่นบท-กดคีย์เดียวกัน”ในทุกเรื่อง มันเป็นได้อย่างไรกันช่วยบอกมาหน่อยเถิดคุณ

“แจกแล้วไม่ทำให้หายจน”.. เหมือนกับกลัวว่า“ประชาชน”จะมี“กำลังทรัพย์” เพื่อไปต่อทุน ดำรงชีวิตอยู่สุขสบายขึ้น

ถ้า“คุณจุติ”ค้าน..ควรค้านตั้งแต่สมัยท่านเป็นรัฐมนตรีใน“รัฐบาลประยุทธ์” มันถึงจะดีพร้อม-เป็นที่ยอมรับว่าค้านอย่าง“สุจริตใจ”

นี่มาค้านกับนายกฯอุ๊งอิ๊ง..“เป็นการค้านจริง”..หรือแอบอิง เป็นการค้านชำระแค้นในใจ ที่ฝังใจกันมาเนิ่นนาน

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *