24 ตุลาคม 2024

“น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำหนอง”..“น้ำโพลารีส”ไยต้องไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกับ“น้ำเน่า”ด้วยเล่า

“ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ในฐานะ“เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ” เมื่อไม่สามารถ“จูนกันติด-เป็นพิษทางใจ” กับ“บิ๊กป้อม”เช่นนี้ ก็ต้อง“แยกโรง-กระทงหลงทาง” ไปตามทางใคร-ทางมันดีกว่า

อยู่แล้วเป็น“เสี้ยนหนามตำใจ”ระหว่างกันและกัน จะอยู่ไปทำไมให้“เคืองใจ” มันไลฟ์บอยจริงๆที่จะอยู่ร่วมกันอีก

การ“แยกวิก” ไม่ร่วมดีลกันระหว่าง“ผู้กองธรรมนัส”กับ“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ท่านไม่ได้“อพยพ”ย้ายถิ่นออกมาคนเดียว แต่“หนีบเอา”คณะกรรมการบริหารพรรคหิ้วเข้าสะเอว ออกกันมาด้วยเสร็จสรรพอีก ๖ พะหน่อ

มี“สัมพันธ์ มะยุโซ๊ะ”สส.นราธิวาส “อรรถกร ศิริลัทธยากร”สส.ฉะเชิงเทรา “นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา”สส.ราชบุรี “บุญสิงห์ วิรินทรักษ์” และ สส.กำแพงเพชร ที่เป็นมือขวาข้างกาย “ไผ่ ลิกค์”สส.กำแพงเพชร ระเห็จตบเท้าตามมาด้วยความสมัครใจ

โดยมี“นักการเมือง” ที่เป็น สส.พรรคพลังประชารัฐ ที่สังกัดในกลุ่ม“ผู้กองธรรมนัส” เดินเป็นหน้ากระดานเรียงหนึ่งออกมาอีก ๒๐ ชีวิต

เหลือเป็น“ปลาร้า” ให้“บิ๊กป้อม”มีเชื้ออยู่ในพรรคแค่“๑๐ กว่าคน”

จากที่“คิดการใหญ่” สุดท้ายไปไม่ถึงดวงดาว ไม่อาจคว้า“ครุฑทอง”อีกตัว เพื่อเป็น“นายกรัฐมนตรี” ตามที่“บิ๊กป้อม”หวังไว้

เพราะหัวหน้าพรรคใด ที่มี“แคนดิเดต”จะเป็น“นายกรัฐมนตรี” ต้องมีเสียงของ สส.ในพรรคสนับสนุนไม่น้อยกว่า“๒๕ ท่าน

มาดูกันว่า “บิ๊กป้อม”ที่เป็น“ขุนพล-ขุนศึก” จะเชี่ยวชาญเป็น“ฝ่ายบุ๋น-ฝ่ายบู๊” ดังที่มีคนกริ่งเกรง“กิตติมศักดิ์”กันหรือไม่

เพราะทุกคนรู้แน่ ยามที่“บิ๊กป้อม”มี“ผู้กองธรรมนัส”เป็น“เลขาธิการพรรค”ให้นั้น ท่านเป็นเหมือน“พยัคฆ์ที่เสียบปีกบิน” มีความทรงอำนาจที่แข็งแกร่ง สร้างความเกรงขามให้กับผู้ที่รู้เห็นเป็นจำนวนมาก

ขนาดอดีตนายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผู้ไม่ยอมลดรา-วาศอกให้กับใคร ยัง“ให้เกียรติ”แก่“บิ๊กป้อม” ที่มี“ร.อ.ธรรมนัส”คอยเดินเกมข้างหลังให้อยู่ถึง ๗-๘ ส่วนทีเดียวเชียว

เมื่อต้อง“จากกัน” คงมี“สัมพันธ์ที่ดีๆ” เหลือแก่กันเอาบ้างนะ

อย่าได้“เหยียบตาปลา”กันชนิดที่ว่า “ผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ”กันเลย..เพราะ“แก่ก็ปูนนั้น-เฒ่ากันก็ปูนนี้” เหลือสิ่งดีๆมีให้กัน ก็ไม่น่าจะเสียเหลี่ยมกำนันกันหรอกนะคุณ

พลันที่ “ผู้กองธรรมนัส”แตกค่าย-สลายตัว ไปนั่งในซีก“พรรคเพื่อไทย”ผู้เป็นแกนนำรัฐบาล มี“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กป้อม”เหมือนจะไวเป็นวอก ไวเป็นลิง ไม่เสียทีที่เป็น“เจ้าสำนักป่ารอยต่อ” ใช้ค่ายทหารเป็นกองบัญชาการ “ระดมพล สส.”กันอยู่เสมอ

ก้อได้ตัวเด่นขึ้นมาเป็นตัวชูโรง..หนุนและดันให้“ไพบูลย์ นิติตะวัน” ที่เป็น“กุนซือหลังฉาก” ขึ้นมาเป็น“เลขาธิการพรรค”

ถือเป็นการ“โหมโรง-เปิดหน้า ที่จะยกพลเข้าประหัต-ประหาร ล้ม“รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”กันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมา“ซ่อนหน้า” ปิดบังเงื่อนไข ทำลับหลังเขา อีกต่อไป แสดงให้โลกประจักษ์ ไม่ต้องมา“แทงกั๊ก”หลบซ่อนเหมือนเก่า

จะได้เห็นผลงานของ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ว่าเขาแซ่บหลาย มีหัวคิดก้าวไกลปานไหนกันแน่

ถึงจะลับๆ ล่อๆ ล้ม“ครม.เศรษฐา ทวีสิน”ลงได้ทั้งคณะ แต่นั่นโลกไม่จำ เพียงแต่เขาเชื่อว่า“ไพบูลย์ นิติตะวัน” คอนโทรลและกำกับอยู่เบื้องหลัง ให้“๔๐ สว.ลากตั้ง” ในสาย“บิ๊กป้อม”ยื่นเล่นงาน

เป็นผลให้“อดีตนายกรัฐมนตรี” ที่เป็น“คนขยันที่สุดของประเทศไทย” ต้องพ้นจากตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย

เมื่อก้าวมาเป็น“เลขาพรรคพลังประชารัฐ” ที่เป็น“แม่บ้าน” ดูงานเบื้องหลังกันแล้ว “ไพบูลย์”ฝีมือจะเอกอุ เหมือนที่“บิ๊กป้อม”เชื่อสนิทใจ

ต่อไปนี้ จะได้ไม่มี“บุรุษนิรนาม” ผู้ไม่แจ้งชื่อ ไม่ประสงค์จะออกนาม มาตามเล่นงาน“รัฐบาลแพทองธาร”ลับหลังกันเสียที

ออกมาสู้กั “กลางแสงไฟ” ให้ถ่องแท้กันไปเลย ถึงจ “คู่ควร-กับการเป็นทวนข้างกาย”ของ “บิ๊กป้อม” ส่วนผลงาน“จะเข้าตา-ชาวประชา”หรือไม่ ยากที่จะบอกได้

แต่สิ่งหนึ่งที่บอกกันได้ ใครที่ขึ้นชื่อว่า“เป็นมิตร” แต่มีการ“ซ่อนดาบไว้ในรอยยิ้ม”นั้น.คนไทยต่าง“ไม่ประสงค์”ให้มาเฉียดใกล้

ถามว่า ที่“รัฐบาลเศรษฐา”เป็นนายกฯมาเกือบ ๑ ปีเต็ม มีผลงานอะไรที่ตกหล่น-มีแต่คนชื่นชม ทั่วบ้าน-ทั่วเมือง

แต่มา“ตกเก้าอี้” ก็มี“พรรคร่วมบางพรรค”เล่นงานเขาลับหลัง โดยต่อหน้าว่าร่วมกันทำงานเพื่อชาติ-แต่ลับหลังฟาด เต็มเหนี่ยว

เพื่อนที่มีพฤติการณ์อย่างนี้ “คนไทย”รับไม่ได้จริง ๆ

ขอให้บิ๊กป้อมสมหวัง…“อย่าได้เจ๊งได้พัง”เพราะคนข้างๆ ยุให้ขุดหลุมฝังตัวเอง เชียวนะ

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *