24 ตุลาคม 2024

วีระ สมความคิด ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาทุจริต ภาค 1 ขอให้นำสำนวนคดีของศาลปกครอง ระหว่าง นายวีระ สมความคิด โจทก์ ป.ป.ช. จำเลย นำมารวมเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ อ้างว่าเป็นคู่ความเดียวกัน

บรรดาข้อเท็จจริงที่มีการต่อสู้กล่าวหากันทั้งหมดเป็นพยานหลักฐานในศาลที่มีความชัดเจนเป็นยุติอยู่ในสำนวนความของศาลปกครองแล้ว และมีผลผูกพันคู่ความเดียวกันด้วย ซึ่งจะเกิดความสะดวกในการพิจารณาคดี และจะทำให้ได้ข้อเท็จจริงที่ยุติ ตามคำฟ้องของโจทก์

จึงขอให้ศาลอาญาทุจริตภาค 1 มีคำสั่งให้ยืมสำนวนคดีของศาลปกครองดังกล่าวนำมารวมในคดีนี้

เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีตามข้อกล่าวหาของ นายวีระ สมความคิด ที่ฟ้องคดีอาญาทุจริตกับป.ป.ช.ทั้ง 12 ท่านนั้น มีฐานความผิดมาจากการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร การไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด การไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลปกครองกลาง

จนกระทั่งศาลปกครองกลาง ต้องมีคำสั่งให้บังคับคดี และมีคำสั่งลงโทษทางอาญาในการบังคับคดี ให้ ปรับป.ป.ช.เป็นเงิน 10,000 บาท

ซึ่ง ป.ป.ช.ได้นำค่าปรับไปชำระแล้ว ถือได้ว่าป.ป.ช.ยอมรับผิดตามที่กล่าวหาที่โจทก์ฟ้องทั้งหมดแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียวมาก

เพราะข้อกล่าวหาของนายวีระ และพยานหลักฐานที่มีการกล่าวหาว่ากระทำความผิดทั้งหมดนั้น มีพยานหลักฐานอยู่ในสำนวนคดีของศาลปกครอง และมีผลผูกพันคู่ความเดียวกัน

ทั้งเป็นคดีที่ถึงที่สุดแล้ว กระทั่งมีการบังคับคดีแล้ว และศาลก็ออกหมายบังคับคดีแล้ว

จนกระทั่งศาลมีคำสั่งบังคับคดีให้ปรับซึ่งเป็นการลงโทษทางอาญากันไปแล้ว และเป็นการฟ้องคดีที่มีหลายกระทงความผิด

ซึ่งนายวีระ โจทก์ ได้ขอให้นับโทษทุกกระทงด้วย เป็นรายกระทง จะได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

ไพศาล พืชมงคล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *